*หมายเหตุ: นี่เป็นการรีวิวหนังเวอร์ชั่น Unrated Director's Cut ซึ่งจะมีความยาวกว่าเวอร์ชั่นในโรง 17 นาทีจ้า*
The Wolfman (2010) :
จากเริ่มแรกในการเป็นหนังที่หลายคนรอคอย แต่แล้วก็กลับเลื่อนฉายแล้วเลื่อนฉายอีก นับตั้งแต่เดิมทีที่วางกำหนดฉายไว้ปลายปี 2008 แต่ก็มีปัญหาหยุมหยิมยิบย่อย ทั้งถ่ายซ่อม เปลี่ยนดนตรีประกอบหนังไปมา จนกว่าจะได้ฤกษ์ฉายจริงก็เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าช่วงต้นปี เป็นช่วงที่ฮอลลีวู้ดปล่อยหนังพื้นๆ เกรดรองออกมาฉายโละทิ้งซะส่วนใหญ่ อีกทั้งเล่นดองซะข้ามปีแบบนี้กระแสเลยแผ่วลงไปเยอะ บวกกับการที่หนังออกมาไม่หนุกอย่างที่หลายคนคิด หนังจึงประสบความล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์ไปในที่สุด
จากเริ่มแรกในการเป็นหนังที่หลายคนรอคอย แต่แล้วก็กลับเลื่อนฉายแล้วเลื่อนฉายอีก นับตั้งแต่เดิมทีที่วางกำหนดฉายไว้ปลายปี 2008 แต่ก็มีปัญหาหยุมหยิมยิบย่อย ทั้งถ่ายซ่อม เปลี่ยนดนตรีประกอบหนังไปมา จนกว่าจะได้ฤกษ์ฉายจริงก็เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าช่วงต้นปี เป็นช่วงที่ฮอลลีวู้ดปล่อยหนังพื้นๆ เกรดรองออกมาฉายโละทิ้งซะส่วนใหญ่ อีกทั้งเล่นดองซะข้ามปีแบบนี้กระแสเลยแผ่วลงไปเยอะ บวกกับการที่หนังออกมาไม่หนุกอย่างที่หลายคนคิด หนังจึงประสบความล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์ไปในที่สุด
พระเอกเรากำลังทำหน้าเหมือน(มนุษย์)หมา(ป่า)สงสัย
นี่คือการรีเมคหนังคลาสสิคชื่อเดียวกันเมื่อปี 1941 ซึ่งมาในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวจากเดิมไปพอสมควร (โดยเฉพาะช่วงท้ายของหนัง) ซึ่งอันนี้ก็สุ่มเสี่ยงต่อการโดนตำหนิจากแฟนหนังเวอร์ชั่นเก่าแน่เชียว แต่ถ้าจะว่ากันเฉพาะหน้าหนังแล้ว ก็นับว่าเป็นหนังที่น่าสนใจอยู่พอตัวทีเดียว อนึ่ง ด้วยเพราะนี่คือการรีวิวหนังเวอร์ชั่น Unrated Director's Cut ซึ่งทางเราก็ไม่ได้ดูเวอร์ชั่นในโรงมาซะด้วยสิ ดังนั้นจึงขอว่ากันเฉพาะเวอร์ชั่นนี้เพียวๆ ก็แล้วกันเน้อ
ไม่... นางเอกเราไม่ได้กำลังหลบเจ้าหนี้ซะหน่อย
ผกก.Joe Johnston (Jurassic Park III [2001]) ผู้ที่เคยทำแต่หนังเรทหน่อมแน้มเอาใจครอบครัวมาโดยตลอด(ดังนั้นนี่จึงเป็นหนังเรทอาร์เรื่องแรกของเขา) ทำหน้าที่ของแกไปได้แบบเรื่อยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้ดูแย่เช่นกัน งานด้านต่างๆ อยู่ในระดับมือวางอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเอฟเฟกต์ตอนกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าโดย Rick Baker หรืองานดนตรีประกอบสุดได้อารมณ์ของ Danny Elfman ที่ชวนให้นึกถึงสกอร์จากหนัง Bram Stoker's Dracula (1992) เสียจริง ส่วนทีมนักแสดง ก็ทำหน้าที่กันได้ตามที่หนังเรียกร้อง ไม่มีอะไรให้ติกัน
น่าเห็นใจที่สมัยโน้นยังไม่มีเครื่องบินให้หมาเห่าใส่
ถึงหนังจะมีบางช่วงที่เอื่อยๆ อยู่บ้าง และการพยายามเล่นมุก'ตกสะดุ้งตุ๊งแช่'ที่เวิร์คมั่งไม่เวิร์คมั่ง ในขณะที่ตัว Wolfman เราบางอารมณ์ก็ดูตลกมากกว่าจะน่ากลัวก็ตาม แต่ก็ทดแทนได้ด้วยฉากโหดๆ ตะปบไม่ยั้ง ที่ยังสยองได้อยู่ โดยรวมแล้วแม้จะไม่โดดเด่น ดีเลิศ หรือสยองใจหาย แต่ก็เป็นหนังรีเมคที่ดูได้ดูดี ลุ้นกันเพลินๆ ก็พอได้ ถ้าไม่คาดหวังอะไรจากหนังมาก แต่ขอย้ำอีกครั้งนะว่า ต้องดูเวอร์ชั่น Unrated นี้เท่านั้นนะ แล้วจะพบว่ามันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คนเขาว่ากันหรอก เหอๆ
คุณยายคนขวาเป็นลูกสาวตัวเป็นๆ ของชาร์ลี แชปลิน(ไม่ได้โม้)
- น่าดูเพราะ: เป็นหนังรีเมคที่ถ้าไม่คาดหวังกับมันมากก็อยู่ในระดับดูได้เพลินๆ ทีมสร้างมือหนึ่ง เอฟเฟกต์ดูดี นักแสดงเข้าที สยองพอได้อยู่
- ไม่น่าดูเพราะ: เวลาเราคาดหวังอะไรไว้มาก เวลาไม่ได้ดั่งใจ ก็มักจะผิดหวังมาก และเมื่อหนังเรื่องไหนที่ทำให้เราผิดหวัง เราก็มักจะตราหน้ามันว่าเป็น 'หนังห่วย' และหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ทำเล็บร้านไหนมาเนี่ยสวยจริงๆ นะหล่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น