วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Robin Hood (2010): กว่าจะมาเป็น'โรบิน ฮู้ด'


Robin Hood (2010) :
เฮีย Russell Crowe (American Gangster [2007]) กลับมาร่วมงานกับ ผกก.คู่บุญอย่าง Ridley Scott อีกเป็นครั้งที่ห้าแล้ว โดยคราวนี้เฮียเขาขอควบหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เองอีกด้วยในการจับตำนานจอมโจร Robin Hood จากอังกฤษมาขึ้นจอเป็นเวอร์ชั่นที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า Robin Hood เวอร์ชั่นนี้แก่ที่สุด (45 ขวบ) และก็เป็นเวอร์ชั่นที่ทุนสร้างเยอะที่สุดอีกด้วย (200 ล้านเหรียญ ซึ่งก็เป็นอัตรามาตรฐานของหนังทุนสูงทุกวันนี้)

ถึงเฮียเขาจะมากับทรงผมเดิมและมาดเดิมๆ แต่ก็ยังเก๋าได้ใจอยู่
แต่แทนที่จะเล่าเรื่องอีหรอบเดิมแบบเวอร์ชั่นที่ผ่านๆ มา เวอร์ชั่นนี้ก็ขอทำเก๋กว่านั้นโดยการย้อนไปเล่าความเป็นมาก่อนที่จะเดินเส้นทางสายโจรของ Robin Hood โดยโยงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสงครามเข้ามา ซึ่งก็น่าจะสร้างความแปลกใหม่และความน่าเชื่อถือให้กับเวอร์ชั่นนี้กว่าเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่จะออกแนวตำนานปรัมปราอยู่พอสมควรเลยทีเดียว และไอ้เรื่องแนวประวัติศาสตร์ สงครามๆ แบบนี้ก็เข้าทาง ผกก.เราอยู่แล้ว งานตรงส่วนนี้เลยออกมาดูดีตามมาตรฐานของเขาล่ะ


นางเอกเราคือสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในหนัง
ถึงกระนั้นหนังก็ไม่ได้ออกมาแนวซีเรียสแบบดูไปคิ้วชนกันไปตลอดหรอกนะ เพราะมีอารมณ์ขันมาผ่อนคลายอยู่ตลอด ซึ่งก็กำลังพอดีไม่ได้ออกมาสามช่าจนเกินไปแต่อย่างใด ในขณะที่การวางตัวแสดงก็ทำได้ดีโดยเฉพาะคุณ Cate Blanchett (Elizabeth [1998]) ที่ฝีมือยังแจ่ม มีเสน่ห์และสามารถพาความสดใสมาสู่หนังได้มากมายทีเดียว ส่วนเฮีย Crowe เรานั้นเล่า ก็มาในมาดเดิมๆ ทรงผมก็เดิมๆ (แต่หน้าแก่ขึ้น) แบบที่เราเคยเห็นมาตลอดนั่นแหล่ะ ทว่าแกก็ไปของแกได้ดี ตีรันฟันแทงยิงธนูสู้ศึกได้อย่างทะมัดทะแมง ดูกลมกลืนกับหนังไปได้ในที่สุด

จะยิงธนูหรือขี่ม้าจีบสาวเฮียเขาก็ บ่ ยั่น อยู่แล้ว
ถึงจะเป็นหนังที่ทำได้ดูดี ดูเพลินยังไง ก็ยังมีอะไรเล็กน้อยๆ ที่ดูจะบั่นทอนความไหลลื่นทางอารมณ์ของคนดู(ช่างจับผิด)อยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการรบกับกองทัพฝรั่งเศสในช่วงท้ายที่ จู่ๆ นางเอกเราก็ลุกขึ้นมาสวมเกราะและเกณฑ์แก๊งโจรเด็กที่อยู่ในป่า(ซี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?)ตามมาช่วยรบได้ซะงั้น (เพื่อที่จะกลายเป็นตัวถ่วงของพระเอกในที่สุด) และเหมือนช่วงท้ายจะรีบรวดรัดจบยังไงชอบกล ทั้งยังขาดอะไรๆ เด็ดๆ แบบที่จะเอามาคุยโขมงกันยามดูเสร็จออกมาได้ แต่เอาน่า ถ้าไม่ถือสากับเรื่องเหล่านี้จนเกินไป หนังก็ยังดูได้สนุก เพลินดี ให้แง่คิด ใครชอบแนวๆ นี้ก็คงจะไม่ผิดหวังกันล่ะครับ


ฉากรบยังอลังการเช่นเดิม
  • น่าดูเพราะ: ฝีมือของ ผกก.Ridley Scott ยังไว้ใจได้ แฟนๆ คงจะไม่ผิดหวังกัน ทั้งนี้หนังยังดูได้เพลิน ให้แง่คิดดีอีกด้วย
  • ไม่น่าดูเพราะ: ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เริ่มจะเบื่อหนังแนวขี่ม้าฟันดาบโช๊งเช๊งแบบนี้แล้ว หลายคนอาจเมิน และหนังยังไม่มีอะไรเด็ดๆ มาเรียกคนดูเข้าโรงเท่าที่ควร




*ช่วงยามเมื่อหนังลงแผ่น*


Robin Hood ฉบับตามใจ ผกก.
ดูเหมือนว่าหนังฉบับ Unrated Director's Cut ที่มีความยาวกว่าฉบับในโรง 16 นาที จะสามารถเติมเต็มและแก้ไขส่วนที่คาใจฉบับในโรงเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะบรรดาฉากที่อธิบายว่านางเอกไปซี้กับกองโจรเด็กได้ยังไง และเพิ่มบทบาทของกองโจรเด็กมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างนางเอกกับพระเอกเข้ามาอีกด้วย ดังนั้นหากจะชมเรื่องนี้ให้ได้สนุก ไม่มีคาใจ ก็ควรจะหาเวอร์ชั่นนี้มาชมนะจ้ะ ขอบอก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น