วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Leap Year (2010): ตามรักข้ามทวีป


Leap Year (2010) :
หลังจากที่เวียนว่ายอยู่ในวงการบันเทิงมาเกือบสิบปี เจ๊ Amy Adams ก็เพิ่งจะมาดังจาก Enchanted (2007) เอาตอนอายุกว่า 33 แล้ว (แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ดังกับเขาเลยนะ) ดังนั้นจึงเหลือช่วงเวลาให้เจ๊รับบทนางเอกอีกไม่มากแล้ว ยังไงซะสำหรับคนที่หลงเสน่ห์เจ๊อยู่ก็คงต้องตามไปอุดหนุนกันอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็คือผลงานเรื่องล่าสุดของเจ๊ ที่มาในแนวโรแมนติค คอมเมดี้ ซึ่งก็คือแนวถนัดของเจ๊เขานั่นเอง


เรื่องนี้เจ๊เขาขอลากกระเป๋า หลุยส์ ลุยทุ่ง
หนังจับไอเดียที่ว่า ในปีอธิกสุรทิน (Leap Year: ปีที่มี 366 วันโดยเดือน ก.พ.จะมี 29 วัน ซึ่งสี่ปีถึงจะมีครั้ง) ณ ประเทศ ไอร์แลนด์ ในวันที่ 29 ก.พ.จะเป็นวันที่เหล่าสาวๆ สามารถเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงานได้(โอ้ว) ว่าแล้วอันตัวนางเอกเรา Anna Brady (Adams) สาวเนี้ยบชาว นิวยอร์ค ที่คบแฟนมาสี่ปีแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าแฟนจะขอแต่งงานซะที แล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อแฟนต้องไปทำงานที่ ดับลิน ไอร์แลนด์ พอดี เจ๊เลยสบช่องบินตามแฟนไปขอแต่งงานแบบเซอร์ไพรส์ซะเลย(ลงทุนน่าดู)


คู่พระคู่นางของเรื่อง
แต่อะไรๆ ก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว เมื่อระหว่างทางเครื่องบินดันเจอพายุต้องไปลงจอดในถิ่นไกลปืนเที่ยงอย่าง คาร์ดิฟ ประเทศ เวลส์ แทน และเมื่อต้องไปพบแฟนให้ทันวันที่ 29 ให้ได้(ไม่งั้นมีแห้ว) เจ๊เลยต้องจำใจจ้างหนุ่มเจ้าของบาร์จอมขวางโลกอย่าง Declan (Matthew Goode จาก Watchmen [2009]) ให้ขับรถพาไปส่งที่ ดับลิน โดยด่วน และก็เป็นตามฟอร์มที่ทั้งคู่ต้องกัดกันในระหว่างการเดินทางอันแสนสมบุกสมบัน แต่ไปๆ มาๆ เมื่อใกล้ชิดกันมากๆ เข้าก็ต้องเริ่มหวั่นไหวซะจนสุดท้ายเจ๊ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า จะขอใครแต่งงานดีล่ะทีนี้(ทายสิจ้ะ? อิอิ)


สองคนกำลังเกี่ยงกันว่าใครจะได้ครองเตียง
ผกก.Anand Tucker มีทุกอย่างที่หนังแนวโรแมนติคคอมเมดี้มีมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นมุกพ่อแง่แม่งอนของสองพระนาง วิวสวยๆ ของชนบทในไอร์แลนด์ เพลงเพราะๆ ที่เอื้อต่ออารมณ์โรแมนติค และการมองโลกในแง่ดีสุดๆ จนกลายเป็นว่าหนังดูเหมือนจะซ้ำซากแบบที่ว่าเพิ่งดูก็รู้ว่าหนังจะจบยังไงไปในที่สุด แต่ยังดีนะที่นางเอกเรายังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์พอที่จะประคองหนังให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง(ถึงแม้ริ้วรอยเธอจะเริ่มเด่นชัดมากขึ้นแต่ก็ยังสวยได้ใจอยู่) เลยพอจะทำให้หนังดูได้เพลินๆ เหมาะสำหรับคอหนังโรแมนติค หรือไว้ดูกับแฟนก็ไม่เลวนะ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ตอกย้ำให้เราเห็นอีกครั้งว่า "ถ้าคุณได้ใกล้ชิดใครสักคนมากพอที่จะเห็นข้อดีของกันและกัน ก็ไม่ยากที่จะตกหลุมรักกันไปในที่สุด" หนุ่มๆ สาวๆ จำสูตรนี้ไปใช้บ้างก็ได้นะ (แต่ถ้าไม่มีข้อดีให้เขาเห็น งานนี้ก็ตัวใครตัวมันเน้อ อิอิ)
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังโรแมนติคคอมเมดี้ที่ดูได้เพลินๆ ไม่ต้องคิดมาก แฟนๆ เจ๊ Adams หรือคอหนังโรแมนติคคงจะถูกใจ
  • ไม่น่าดูเพราะ: ซ้ำซากกับหนังแนวนี้ แบบที่ดูแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่าจะจบยังไงแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น