Red Cliff 2 (2009) : 
หลังจากที่ระยะหลังๆ การไปหากินที่ฮอลลีวู้ดของเฮีย จอห์น วู นั้นไม่รุ่งสักเท่าไหร่ (เรื่องล่าสุดก็.. เอิ่ม Paycheck (2003) โน่น) เฮียจึงหันกลับมาหากินที่เอเซียอีกครั้ง โดยการกลับมาคราวนี้ไม่ได้กลับมาแบบธรรมดาๆ ให้เสียฟอร์มเล่น แต่เฮียมาแบบ อลังการงานสร้างกันสุดๆ โดยทำหนังที่จับเอาเหตุการณ์ตอน โจโฉแตกทัพเรือ ของ สามก๊ก มาแบ่งเป็นสองตอนออกฉาย
และก็ออกมาไม่เสียชื่อเฮียจริงๆ เพราะนอกจากจะอลังการงานสร้างแล้ว (หนังใช้ทุนสร้างสูงสุดในประวัติศาสตร์หนังเอเซียคือ 80 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ) หนังยังออกมาดูสนุกโดยไม่ทุกข์ถนัด เข้าใจได้ง่ายแม้สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับบ สามก๊ก มาก่อนเลยก็ตาม แม้จะมีหลายคนติงว่าหนังอิงไปทาง สามก๊ก ฉบับนิยายมากเกินไป แต่ก็นะนี่มันหนังดูเอาสนุกนะเพ่่ไม่ใช่หนังสารคดี (อิอิ)
เหตุการณ์ในภาคแรกซึ่งเป็นแค่การโหมโรงก็ยังออกมาดูสนุกพอประมาณแล้ว พอมาถึงภาคสองที่จะเป็นการรบแบบแตกหัก เราจะได้เห็น ยุทธนาวีสุดอลังการและกลยุทธ์การรบต่างๆ ที่ขนกันมาเพียบ หนังจึงดูสนุกกว่าภาคแรกเข้าไปอีก และที่น่าชื่นชมมาตั้งแต่ภาคที่แล้วก็คือหนังพยายามเสนอให้เห็นว่า ไม่มีฝ่ายไหนที่ดีหรือว่าชั่วร้ายสมบรูณ์แบบ แต่ต่างก็เป็นคนที่มีความรู้สึก มีเลือดเนื้อ มีคนที่รักและอยากจะกลับไปพบครอบครัวที่รออยู่เบื้องหลัง แต่เมื่อต้องทำหน้าที่ ต้องรบ ก็ต้องเสียสละแม้จะหมายถึงการต้องแลกด้วยชีวิตเลยก็ตาม
มีที่ปรึกษาฉลาดๆ (แถมหล่อด้วย)ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะไม่มีอะไรให้ขัดตาขัดใจเลย เช่นการเพิ่มบทบาทให้กับตัวละครของคุณ เจ้าเหว่ย ให้ได้ทำอะไรๆ อาทิ ปลอมตัวไปเป็นทหารฝ่ายตรงข้ามเพื่อคอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ จากค่ายของศัตรู หรือการนำทหารออกรบนั้นออกจะดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นักที่จะปล่อยให้หญิงผู้สูงศักดิ์เช่นนี้ไปเสี่ยงอันตราย (เป็นน้องสาวของท่านเจ้าแคว้นนะเนี่ย) และอีกอย่างก็คือ เอฟเฟคท์ยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่นักโดยเฉพาะในฉากยุทธนาวี (แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรนัก)
มีภรรยาสวยย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง
- เหตุที่น่าดู : มีพี่เหลียงเฉาเหว่ยและดาราดังคับคั่ง สนุก อลังการงานสร้าง และมีแง่คิดดีๆ พอสมควร
- เหตุที่ไม่น่าดู : ถ้าไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนอาจวิงเวียนศรีษะเล็กน้อย (มึน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น