วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

A Film Unfinished (2010): หนังเรื่องนี้มีแต่จุ๊

A Film Unfinished (2010) :
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง มีการค้นพบฟิล์มหนังขาวดำสี่ม้วนที่ฝ่ายเยอรมันเก็บซ่อนไว้ในหุบเขา โดยหนังเรื่องนี้ไม่มีชื่อหรือเครดิตทีมสร้าง นอกจากจะเขียนไว้บนตลับฟิล์มว่า 'The Ghetto' ซึ่งพอนำมาเปิดดูก็พบว่าเป็นหนังโฆษณาชวนเชื่อที่ฝ่ายนาซีสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า ชาวยิวจำนวนสี่แสนสี่หมื่นคนที่ถูกรวบรวมไปอาศัยรวมกันอยู่ภายในเขตแออัดขนาดสามไมล์ ณ กรุงวอร์ซอว์ โปแลนด์ เมื่อปี 1942 นั้น มีคนจำนวนหนึ่งที่อยู่กันสุขสบายมากแค่ไหน


โปรดักชั่นหนังเรื่องนี้ใหญ่กว่าระดับฮอลลีวู้ดเลยนะเนี่ย
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังแสดงให้เห็นว่ายังมีชาวยิวอีกจำนวนหนึ่งที่มีความเป็นอยู่ต่างกันราวฟ้ากับเหว เพราะต้องอยู่อย่างแออัดยัดเยียด ยากจนข้นแค้น อดอยากจนกระทั่งล้มตายเป็นจำนวนมาก และในแต่ละวันจะมีศพหนังหุ้มกระดูกของคนเหล่านั้นนอนเกลื่อนตามท้องถนนให้เห็นอยู่ตลอด ซึ่งก็จะถูกเก็บใส่รถเข็นไปฝังกลบรวมกันราวกับเป็นขยะ แต่ศพพวกคนรวยก็จะถูกนำใส่โลงอย่างหรูแห่ไปฝังในสุสาน โดยการนำเสนอความเป็นอยู่ที่แสนจะขัดแย้งกันเช่นนี้ก็ช่างชวนให้คิดไปว่าชาวยิวที่ร่ำรวยช่างไร้หัวจิตหัวใจและเห็นแก่ตัวเสียจริงๆ


ภาพที่เห็นคือการจัดฉากขึ้นมาทั้งสิ้น
แล้วหนังเรื่องนี้ก็จุดประกายให้ ผกก.ชาวอิสราเอลอย่าง Yael Hersonski ลุกขึ้นมาทำสารคดีตีแผ่ความจริงเกี่ยวกับหนัง โดยได้เชิญชาวยิวบางคนที่เคยอาศัยอยู่ใน Ghetto แห่งนั้น มานั่งดูหนังทุกม้วน และการสืบหาทีมสร้างหนังเรื่องนี้ ที่ก็ตามพบมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น คือตากล้องชาวเยอรมันคนหนึ่ง มานั่งให้สัมภาษณ์ รวมทั้งยังมีข้อมูลจากไดอารี่ของชาวยิวหลายคนในนั้นมาเสริมข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัดมากขึ้นอีกด้วย


ฟิล์มหนังยังอยู่ในสภาพดีอยู่เลย
ซึ่งจากปากคำของทุกฝ่ายก็ล้วนบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าภาพที่เห็นในหนังเกือบทั้งหมดเป็นการจัดฉากจากฝ่ายเยอรมันทั้งสิ้น โดยเฉพาะภาพความเป็นอยู่อย่างสุขสบายของชาวยิวทั้งหลาย เพราะตามสภาพความเป็นจริงแล้วชาวยิวในนั้นล้วนอยู่กันอย่างตกระกำลำบากไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหนก็ตาม และทุกคนล้วนยังต้องจำยอมให้ความร่วมมือเป็นดาราจำเป็นกันแต่โดยดี เพราะถ้าใครไม่ยอมร่วมมือ หรือแสดงไม่โดนใจกองถ่าย ก็ต้องโดนลากไปยิงเป้ากันสถานเดียว


โฉมหน้า ผกก. Yael Hersonski
สารคดีเรื่องนี้ยังคงสามารถตอกย้ำให้เห็นถึงความเลวทรามต่ำช้าของพวกนาซีที่มีต่อชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างจะๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในแง่ความขี้จุ๊ ที่พยายามจัดฉากให้โลกภายนอกเห็นว่าชาวยิวน่าหมั่นไส้เพียงไหน (แต่ว่าดูยังไงๆ ชาวยิวในหนังก็ช่างน่าสงสารเห็นใจเป็นอย่างยิ่งอยู่ดี) ซึ่งเราก็จะได้ดูฟิล์มทั้งสี่ม้วนกันแบบเต็มๆ สลับกับภาพของชาวยิวบางคนที่มานั่งดูหนังไปด้วยและคอมเม้นต์แฉหนังไปด้วย ในขณะที่ฝ่ายเยอรมันที่ถูกสัมภาษณ์ก็ตอบแบบอ้อมแอ้มด้วยสีหน้าสำนึกผิด มีตราบาปคอยหลอกหลอนมาตลอดชีวิต นี่จึงสารคดีที่มีภาพทางประวัติศาสตร์ที่หาดูได้ยาก ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองหรือเรื่องราวของชนชาติยิวก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า
  • จุดเด่น: เป็นหนังสารคดีที่เสนอแง่มุมอีกแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างน่าสนใจ กับฟุตเตจฟิล์มที่หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
  • จุดด้อย: มีแต่ภาพหนังขาวดำชีวิตความเป็นอยู่ของชาวยิวในนั้น ที่ไม่ชวนเจริญหูเจริญตานัก จึงไม่ใช่สารคดีที่ดูกันเพลินได้สำหรับทุกคน แต่น่าจะเหมาะกับผู้ที่สนใจเฉพาะทางจริงๆ มากกว่า




*รีวิวหนังที่เกี่ยวกับชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ภายในบล็อก (คลิกรูปเพื่ออ่าน)*


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น