วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2554

The Concert (2009): สวมรอยไปบรรเจิด




The Concert (2009) :
หนังดราม่าตลกจากฝรั่งเศสที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับวงดนตรีคลาสสิคสุดอลหม่านเรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล César (หรือตุ๊กตาทองของฝรั่งเศส) ถึงหกสาขาด้วยกัน (ก่อนจะกวาดมาได้สอง) และยังได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำครั้งล่าสุดในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วยแน่ะ (แต่ก็แห้ว)

สาวคนนี้คุ้นหน้าคุ้นตาที่สุดในเรื่องแล้ว
Andreï Filipov วาทยากรชื่อดังชาวรัสเซียแห่งคณะ Bolshoï โดนพิษจากระบอบคอมมิวนิสต์เล่นงานจนต้องตกอับกลายเป็นภารโรงมากว่า 30 ปี แล้ววันดีคืนดีเขาก็สบโอกาสได้แอบสวมรอยเป็นคณะ Bolshoï ซึ่งถูกเชิญให้ไปเปิดการแสดงที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ว่าแล้วเขาก็เลยต้องวิ่งวุ่นรวบรวมอดีตลูกวงที่ต่างกระจัดกระจายไปประกอบอาชีพหาเช้ากินค่ำกันหมดแล้ว จนเกิดเป็นเรื่องราววุ่นๆ ขำๆ สนุกสนาน ประทับใจปนบรรเจิดไปกับเสียงเพลงคลาสสิคกันตลอดงานเลยจ้า


ฉากเล่นคอนเสิร์ตบรรเจิดมาก
แม้จะมาด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับวงดนตรีคลาสสิคแต่ก็ไม่ได้มีแต่ฉากเล่นดนตรีกันตลอดทั้งเรื่องหรอกนะ ผกก.Radu Mihaileanu เล่าเรื่องให้ออกมาดูง่าย ผ่อนคลาย ตลก และยังประทับใจแบบซึ้งๆ ได้อีกเป็นอย่างดีด้วยเรื่องราวสไตล์'รวบรวมทีมสุดอลหม่าน'ในช่วงแรกอันสนุกสนาน และตามมาด้วยฉากดราม่าขำไม่ออกในช่วงกลางเรื่อง ก่อนจะปิดท้ายด้วยฉากแสดงคอนเสิร์ตที่ลากยาวเต็มๆ เกือบ 20 นาทีได้อย่างสุดบรรเจิดน่าประทับจิตยิ่งนัก

ดูความหล่อของผู้ชายแต่ละคนซะก่อน
นักแสดงส่วนใหญ่ดูจะไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตานัก (คุ้นสุดก็นางเอก Mélanie Laurent จาก Inglourious Basterds [2009] นั่นแหล่ะ) แต่ก็ทำหน้าที่กันได้ดี แถมทุกคนยังเล่นดนตรีได้อีกด้วย ก็เลยสร้างความน่าเชื่อถือและอารมณ์ร่วมในฉากเล่นคอนเสิร์ตท้ายเรื่องได้แบบสุดๆ ไปเลย ซึ่งสำหรับคนที่เคยไม่หือไม่อือกับเพลงคลาสสิคมาก่อน ดูเรื่องนี้แล้วท่านจะพบว่าเพลงคลาสสิคนี่ก็น่าฟัง และฟังไม่ยากอย่างที่เคยคิดเลยล่ะ ขอบอก


นักแสดงส่วนใหญ่เล่นดนตรีได้จริงๆ ไม่มีเม้ม
สิ่งที่น่าสังเกตในหนังเรื่องนี้คือการที่ชาวตะวันตกเขามีดนตรีในหัวใจกันอย่างน่าชื่นชมจริงๆ คนทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะยากดีมีจน ล้วนสามารถหยิบจับเครื่องดนตรีชนิดโปรดของตนมาบรรเลงได้อย่างมีความสุข เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขาจริงๆ ซึ่งก็น่าเสียดายที่บ้านเราคงจะเห็นภาพแบบนั้นได้ยาก เพราะไม่ว่าจะด้วยพื้นฐานทางวัฒนธรรมหรืออะไรๆ อีกหลายอย่าง ที่แม้แต่เครื่องดนตรีไทยเรายังจะหาคนเล่นได้ยากเลย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนไทยส่วนใหญ่จึงคิดว่าดนตรีคลาสสิคถึงเป็นอะไรที่ห่างไกลจากพวกเขานัก (เราเองก็เคยคิดแบบนั้น)
  • จุดเด่น: เป็นหนังดราม่าตลกที่เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคที่ทำได้ดี ดูไม่ยาก ตลกและน่าประทับใจอีกต่างหาก แฟนๆ ของ Tchaikovsky คงจะถูกใจกันแน่เชียว (นะจ้ะ คุณศล)
  • จุดด้อย: หนังที่ว่าด้วยเรื่องดนตรีคลาสสิคแบบนี้ คงจะไม่ค่อยเข้าทางคนส่วนใหญ่นัก และจังหวะของหนังช่วงกลางมันเอื่อยลงจนทำให้หนังกลมกล่อมน้อยลงไปบ้างนะ





*ช่วงเพลงในหนัง*

ทั่น Tchaikovsky
พวกพระเอกเราเป็นชาวรัสเซีย และพระเอกเราก็ชื่นชมปนช่ำชองกับเพลงของ Pyotr Ilyich Tchaikovsky คีตกวีเอกชาวรัสเซียยิ่งนัก จนถึงกับตั้งอกตั้งใจจะเล่น Violin Concerto in D major, Op. 35 ในคอนเสิร์ตที่ปารีส ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันในหมู่นักดนตรีคลาสสิคว่านี่เป็น ไวโอลิน คอนแชร์โต้ ปราบเซียนที่เล่นยากที่สุดเพลงหนึ่งเลยทีเดียว

และอย่างที่เราจะเห็นในหนังว่าหลังจากที่พวกเขาไม่ได้เล่นด้วยกันมากว่า 30 ปีแล้ว แถมยังไม่ได้มีโอกาสซ้อมกันเลย เพราะต่างคนต่างมัวแต่ดอดไปทำธุระของตนเอง ในตอนเริ่มต้นเล่นจึงทำไม่ดีกันนัก ก่อนที่จะค่อยๆ หลอมรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันได้ในเวลาต่อมา ว่าแล้วเราก็มีฉากสุดบรรเจิดนี้มาให้ชมกัน ซึ่งก็ถือว่าสปอยล์กันนิดหน่อย (แต่ไม่ร้ายแรง) ถ้าใครดูแล้วติดใจเราก็มี MP3 ไว้ให้โหลดไปฟังกันบรรเจิดไปข้างเลยด้วยจ้า




ฉากเล่นคอนเสิร์ตของหนัง




*รีวิวหนังตลกจากฝรั่งเศสเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก (คลิกรูปเพื่ออ่าน)*




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น