วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Morning Glory (2010): เรื่องวุ่นเช้านี้



Morning Glory (2010) :
ถ้าดูจากผลงานที่ผ่านๆ มาของลุง Harrison Ford พระเอกชื่อดังจากยุค 80-90 แล้วก็จะพบว่าลุงแกแทบจะไม่ค่อยได้เล่นหนังตลกสักเท่าไหร่ และในรอบสิบปีที่ผ่านมานี้แกก็มีหนังตลกออกมาเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้นคือ Hollywood Homicide (2003) ที่ก็ล้มเหลวทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ซะอีกต่างหาก วันดีคืนดีแกก็เลยขอกลับมาพร้อมหนังตลกอีกสักครั้ง โดยควงแขนสาว Rachel McAdams และป้า Diane Keaton มาเรียกรอยยิ้มจากบรรดามิตรรักแฟนหนังด้วย


ลุง Harrison Ford กับหนังตลกเรื่องแรกในรอบ 7 ปี!
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ Becky Fuller (McAdams) โปรดิวเซอร์รายการข่าวรอบเช้าสไตล์'เรื่องเล่าเช้านี้' ต้องมารับมือกับนักข่าว/ผู้ประกาศข่าวระดับตำนานซึ่งมีอีโก้สูงสุดๆ อย่าง Mike Pomeroy (ลุง Ford) ที่แกก็ดันเกาเหลากันกับผู้ประกาศข่าวรุ่นเก๋าซึ่งทำหน้าที่ด้วยกันอย่าง Colleen Peck (ป้า Keaton) เสียอีก นางเอกเราก็เลยต้องคอยงัดเอาทุกกลเม็ดเด็ดพรายออกมาใช้เพื่อทำให้รายการออกอากาศได้อย่างราบรื่น และยังต้องเจียดเวลามาบริหารความรักของตนให้ลงตัวอีกด้วยต่างหาก


สาว McAdams น่ารักได้ใจมากๆ ในหนังเรื่องนี้
ผกก.Roger Michell (Notting Hill [1999]) กลับมาทำหนังตลกเอาใจคุณสาวๆ อีกครั้งได้อย่างน่าพอใจทีเดียว หนังทั้งดูสนุกและตลก แต่ก็ในแบบที่กำลังพองาม ไม่ได้บ้าบอแต่อย่างใด ที่สำคัญคือหนังได้กลุ่มผู้แสดงนำที่ได้ใจคนดูไปเต็มๆ ทั้งคุณ McAdams ในบทโปรดิวเซอร์สาวผู้กระตือรือร้นและทุ่มเทกับงานสุดๆ แต่กลับตกม้าตายเอาง่ายๆ ในเรื่องความรัก ซึ่งเธอทำหน้าที่ได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งยังดูสวยขึ้นกล้อง น่ารักน่าชัง และสามารถพาความสดใสชื่นมื่นมาสู่หนังในทุกวินาทีที่มีเธออยู่บนจอ ซึ่งนั่นก็หมายถึงตลอดทั้งเรื่องเลยล่ะมั้ง


ลุง Jeff Goldblum ก็มากับเขาด้วย
ด้านลุง Ford ก็มาในบทอิตาลุงที่ปากร้าย นิสัยแย่ แต่ที่จริงแล้วแอบน่าสงสารและมีความน่ารักแฝงอยู่ ซึ่งลุงเขาก็มาด้วยมาดนิ่งๆ หน้าตาเบื่อโลก แต่ก็แฝงด้วยเสน่ห์ในแบบที่คอหนังคงจะให้ใจลุงแกได้ไม่ยาก ส่วนป้า Keaton ก็เล่นได้แจ่มแจ๋วและมาเพื่อเรียกรอยยิ้มได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าป้าจะค่อนข้างมีบทบาทน้อยกว่าสองคนเมื่อกี้ก็ตามที ในขณะที่ส่วนประกอบด้านอื่นๆ ก็ล้วนช่วยกันพาความสดใสซาบซ่ามาสู่หนังได้เป็นอย่างดีทั้งสิ้น โดยเฉพาะบรรดาเพลงแนวป็อปร็อคที่เพราะๆ ติดหูทั้งนั้น


จะดูกี่มุมๆ นางเอกเราก็ยังน่ารักอยู่ดี อิอิ
โดยรวมแล้วถึงจะไม่ได้เป็นหนัง Chick flick ที่ดีเด่นถึงขั้นได้โล่ และอาจจะเป็นเหมือน The Devil Wears Prada (2006) เวอร์ชั่น'เรื่องเล่าเช้านี้' แต่ก็มีดีมากพอที่จะมอบความบันเทิงเริงใจให้แก่ท่านผู้ชมได้ สาระดีๆ ก็ยังพอมีให้เก็บตกไปขบคิด โดยเฉพาะในเรื่องการทุ่มเทชีวิตให้หน้าที่การงาน ซึ่งอะไรที่มันมากเกินไปก็ต้องไม่ส่งผลดีแน่ๆ นี่จึงเป็นหนังฟีลกู้ดซ่อนสาระอีกเรื่องที่จะทำให้ท่านดูไปอมยิ้มแก้มตุ่ยไปตลอดทั้งเรื่องเลยทีเดียวจ้า อวยๆ
  • จุดเด่น: เป็นหนังดราม่า/ตลก ที่ดูสนุกเพลิดเพลินอุรา นักแสดงก็ล้วนมีเสน่ห์ได้ใจ ถูกใจจริงๆ
  • จุดด้อย: ยังคงเป็นหนังที่คุณผู้หญิงจะชอบได้มากกว่าคุณผู้ชายอยู่เช่นเดิม ไม่งั้นเขาจะเรียกว่า chick flick เร๊อะ (แต่ผมชอบนะ อิอิ)






*ช่วงเพลงในหนัง*

The Weepies
หนังที่ดูเพลินดูสบายใจถูกใจคุณสาวๆ เช่นนี้ก็ต้องเต็มไปด้วยเพลงป็อปเพราะๆ อยู่แล้ว ซึ่งเมื่ออยู่ในหนังแล้วก็ส่งเสริมอารมณ์ฟีลกู้ดให้กับหนังได้ดีมากๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลงของคู่รักอินดี้โฟล์คจากอเมริกาอย่าง The Weepies กับเพลง Same Changes ที่เป็นเพลงขายจากหนัง หรือ Natasha Bedingfield ที่มากับเพลง Strip Me ที่ถูกใช้ในตอนจบของหนัง และแม้แต่เพลงโคตรเก่าแต่น่ารักจากปี 1938 ของ Hoagy Carmichael ก็ยังมีมาให้ฟังเลย แจ่มจริงๆ จ้า



MP3: Hoagy Carmichael - Two Sleepy People



*รีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ของ Rachel McAdams ภายในบล็อก (คลิกเพื่ออ่านรีวิว)*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น