วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Tekken (2010): ทัวร์นาเม้นท์หมัดทะลวงไส้(ติ่ง)


Tekken (2010) :
มาอีกแล้วครับท่าน หนังจากเกมที่คราวนี้เป็นการนำเอาเกมแนวต่อสู้สุดฮิตของญี่ปุ่นอย่าง Tekken (ที่มีเกมออกมาถึง 6 ภาคแล้ว)มาขึ้นจอ (หลังจากที่เคยมีเวอร์ชั่นของญี่ปุ่นเองเมื่อปี 1990 มาทีหนึ่งแล้ว) ซึ่งดูจากหน้าหนังที่ล้วนมีแต่นักแสดงไม่คุ้นหน้า แถมยังส่งตรงลงแผ่นเลยในอเมริกาอีกต่างหาก ก็ย่อมทำให้มองไปก่อนแล้วว่า คงจะออกมา(ห่วย)อีหรอบเดียวกับหนังจากเกมต่อสู้เรื่องอื่นๆ อย่าง Street Fighter (1994) หรือ DOA: Dead or Alive (2006) หรือ Mortal Kombat (1995) เป็นแน่เชียว


หนังเรื่องนี้มีดีตรงที่พระเอกหน้าตาดี
และก็เป็นไปอย่างที่คาด เพราะหนังก็ไม่มีอะไรโดดเด้งขึ้นมาจริงๆ นั่นแหล่ะ เพราะมากับพล็อตเดิมๆ ประมาณว่าพระเอกตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้ทัวร์นาเม้นท์เดือดเพื่อแก้แค้นให้บุพการี จนแก้แค้นได้สำเร็จ จบ แถมหนังยังจะเสียเปรียบเรื่องอื่นๆ ตรงที่ไม่มีดาราคุ้นหน้ามาเรียกแขกอีกต่างหาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าหนังไม่มีข้อดีเอาเสียเลย เพราะอันที่จริงแล้ว พอได้ดูกลับรู้สึกว่าเข้าท่ากว่าหนังเกมต่อสู้เรื่องอื่นๆ ไปซะงั้น


มีแต่หนุ่มๆ โชว์หุ่นล่ำถูกใจเก้งกวางมากฮ๊าา
ก่อนอื่นเลยคือหนังใช้การต่อสู้แบบศิลปะป้องกันตัวล้วนๆ ไม่มีใช้สลิงให้เหาะลอยไปลอยมา หรือปล่อยพลังแสงใส่กันแบบสุดโม้เช่นเรื่องอื่นๆ และไม่มีอะไรที่ดูแล้วออกแนวตลกหรือเด๋อมากกว่าเท่ โอเค อาจจะมีชุดของบรรดานักสู้สาวๆ ที่ออกจะเซ็กซี่เกินเหตุไปบ้าง แต่เขาต้องออกแบบตามเกมซึ่งก็ต้องเข้าใจในจุดนี้ด้วยเนอะ และงานสร้างฉากเฉิกอะไรก็ดูดีไม่กิ๊กก๊อก อีกทั้งดูเหมือนผู้สร้างจะรู้ดีว่าคนดู(โดยเฉพาะผู้ชาย)ต้องการอะไร เลยประเคนกันเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเรื่องรวดเร็วบู๊แบบนอน-สต็อปไม่มีเสียเวลา และมีหนุ่มๆ สาวๆ หน้าตาดีมาโชว์หุ่นเซ็กซี่ให้ดูกันจุใจเชียว


พวกเธอแต่งกายเช่นนี้เพื่อขึ้นต่อสู้ (เอิ่ม...)
สรุปแล้วถึงจะไม่ดีเด่นอะไรมากกว่าหนังจากเกมต่อสู้เรื่องอื่นๆ นัก แต่ก็ยังดูได้เพลินๆ คิวบู๊โอเคเลย ผู้ชมหนุ่มๆ ก็คงจะชอบกัน ส่วนสาวๆ ก็ยังชอบกันได้อยู่เพราะพระเอก Jon Foo (เคยเล่นเป็นตัวประกอบให้คุณพี่จา พนม เตะตูดมาแล้วใน ต้มยำกุ้ง [2005]) เขาหุ่นล่ำ หล่อแบบใสๆ ได้ใจชะงัดนักแล แล้วนี่เห็นว่าพระเอกเราจะไปเล่นหนังจากเกมอย่าง Streetfighter: Legacy (2010) ในบท Ryu อีกด้วย ดูท่าว่าจะชอบหนังจากเกมจริงๆ นะจ้ะเนี่ย พ่อคุ๊ณณ


ภาพการต่อสู้จากเกมต้นฉบับ
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังแอ็คชั่นเตะต่อยที่สร้างจากเกม ที่พอดูได้เพลินๆ คิวบู๊โอเค งานสร้างไม่กิ๊กก๊อก หนุ่มสาวหน้าดีอีกต่างหาก
  • ไม่น่าดูเพราะ: ไม่ได้เหนือกว่าหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ เลย แถมยังจะเสียเปรียบตรงที่ไม่มีนักแสดงดังๆ มาดึงดูดให้อยากดูอีกต่างหาก




*ช่วงอันเนื่องมาจากหนัง*

ไหนๆ ก็เอ่ยถึงหนังที่สร้างจากเกมต่อสู้แล้ว ก็เลยขอเชิญชวนไประลึกชาติด้วยกันเลยว่ามีหนังเรื่องอะไรเด่นๆ ที่สร้างออกมาจากเกมแนวนี้กันบ้าง ซึ่งก็มีดังต่อไปนี้จ้า

Double Dragon (1994)


ถึงแม้จะไม่ได้เป็นหนังที่สร้างจากเกมต่อสู้แบบดวลกันสองคนก็ตามเพราะเกมเป็นแบบเดินหน้าต่อยไปเรื่อย แต่ก็หยวนๆ ละกันเพราะนี่เป็นหนังเรื่องแรกๆ ของฮอลลีวู้ดที่สร้างจากเกม (ต่อจาก Super Mario Bros. ที่เจ๊งไปล่วงหน้าแล้ว) ซึ่งชะตากรรมของหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน คือนอกจากจะเจ๊งแล้วยังโดนด่ากระจาย(ทำเงินไปเพียง 2 ล้านเหรียญ) จนครองอันดับสามใน 'สิบหนังที่สร้างจากเกมได้ห่วยที่สุด' จากการจัดอันดับของนิตยสาร Time แม้จะมี Robert Patrick ที่กำลังฮอตจาก Terminator 2: Judgment Day (1991) มาเล่นเป็นตัวโกงให้ก็ตามที





Street Fighter (1994)

ช่วงนั้นเกมต่อสู้จากญี่ปุ่นเกมนี้กำลังดังคับทุ่ง ยิ่งพอมีการนำมาสร้างเป็นหนัง มีดาราดังๆ อย่าง Jean-Claude Van Damme (พระเอกนักบู๊ที่กำลังดังขึ้นหม้อในยุคนั้น), เจ๊ Kylie Minogue และแม้กระทั่งนักแสดงคุณภาพอย่าง Raul Julia ก็ยังมารับบทเป็นตัวโกงใหญ่ให้ด้วย ดังนั้นนี่จึงเป็นหนังที่ใครๆ ต่างก็ใจจดใจจ่ออยากจะดู ซึ่งพอเมื่อฉายก็ปรากฏว่าทำเงินอย่างที่คาด คือกวาดไปกว่า 99 ล้านเหรียญจากทุนสร้าง 35 ล้าน แต่ผลที่ตามมาคือคนดูต่างก่นด่าถึงความเห่ยของหนัง ที่ดัดแปลงเกมขึ้นจอแบบรับไม่ได้จริงๆ จนครองอันดับหนึ่งใน 'สิบหนังที่สร้างจากเกมได้ห่วยที่สุด' จากการจัดอันดับของนิตยสาร Time นับแต่นั้นมาชีวิตการแสดงของ Jean-Claude Van Damme ก็มีแต่ย่ำแย่ลง ส่วน Raul Julia ก็เสียชีวิตไปโดยทิ้งผลงานสุดห่วยเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย นับเป็นหนังที่ทุกคนที่เคยเกี่ยวข้องไม่อยากจำจดเลยจริงๆ





Mortal Kombat (1995) และ Mortal Kombat: Annihilation (1997)

หนังที่สร้างจากเกมต่อสู้ยอดฮิตของยุค 90 โดยเวอร์ชั่นหนังได้ดาราอย่าง Christopher Lambert มาเรียกแขก (พี่ จา พนม เรายังไปเป็นสตั้นท์ให้อีกด้วย) ซึ่งภาคแรกที่ฉายปี 95 ก็ฮิตซะเกินคาด กวาดไปร้อยยี่สิบล้านจากทุนสร้างแค่ยี่สิบล้านเหรียญ(ทั้งๆ ที่หนังห่วยออก) ว่าแล้วผู้สร้างเลยรีบเข็นภาคสองออกมาในปี 97 ซึ่งคราวนี้ก็ เอิ่ม..ไม่ตูมตามอย่างที่หวัง(ห่วยหนักกว่าเดิมอีก) ว่าแล้วหนังแฟรนไชส์นี้ก็หายเงียบไปเลยนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ในขณะที่ตัวเกมก็ยังคงทำออกมาเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้





DOA: Dead or Alive (2006)
หนังจากเกมต่อสู้ที่เน้นไปที่ตัวละครนักสู้สาวๆ นุ่งเครื่องแต่งกายฟิตเปรี๊ยะ ซึ่งเวอร์ชั่นจอเงินก็เน้นไปที่สาวๆ สุดเซ็กซี่กันเต็มเหนี่ยวเช่นกัน หนังได้ Corey Yuen ผกก.หนังบู๊และนักออกแบบคิวบู๊จากฮ่องกงที่เคยทำหนังอย่าง The Transporter (2002) มาแล้ว แต่ทว่าพอมาเรื่องนี้หนังกลับห่วยได้ใจ คิวบู๊ก็ออกแนวสลิงหนังกำลังภายในกันเต็มที่ แม้จะใช้ทุนสร้างแค่ 21 ล้านเหรียญ แต่ก็ทำเงินกลับไปได้เพียง 7 ล้านเหรียญเท่านั้น เล่นเอา ผกก.เราที่กำลังโกอินเตอร์ต้องพับเสื่อกลับบ้านแทบไม่ทันเลยทีเดียว





Street Fighter: The Legend of Chun-Li (2009)

วันดีคืนดีจู่ๆ ก็มีหนังจากเกม Street Fighter ออกมาให้ดูกันอีก แม้จะเป็นภาคแยกที่เน้นไปที่ตัวนางเอก ชุนลี ก็ตามเถอะ หนังได้น้อง Kristin Kreuk ผู้แสนน่ารักมาเป็นชุนลึ และได้ผกก.Andrzej Bartkowiak ที่ถนัดหนังแนวเตะต่อยแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาเสริมทัพ แถมยังมาถ่ายทำที่ไทยแลนด์แดนสไมล์บ้านเราซะอีกกว่า 90% แต่เสียดายที่หนังจืดสนิท คิวบู๊ก็งั้นๆ เนื้อเรื่องก็งั้นๆ งานนี้ก็เลยเจ๊งกันไปตามระเบียบ(ทุน 50 ล้านแต่ทำเงินมาได้เพียง 12 ล้านทั่วโลก) ซึ่งเดาว่าที่สร้างออกมาก็เพื่อตามกระแสตอนที่เกม Street Fighter ภาคใหม่ออกวางจำหน่ายพอดีในช่วงนั้นละมั้ง (เล่นง่ายนะจ้ะเนี่ย)




และนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่สร้างจากเกมแนวต่อสู้เตะๆ ต่อยๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งถึงแม้ส่วนใหญ่ที่ทำออกมามักจะไม่เป็นที่สบอารมณ์ของคอเกมหรือไม่ก็คอหนังก็ตาม แต่เชื่อว่าเรายังคงจะได้ดูหนังจากเกมกันต่อไป ตราบใดที่เกมแนวนี้ยังเป็นที่นิยมอยู่ พ่อค้าหัวใสก็คงไม่เลิกล้มที่จะนำเกมมาขึ้นจอดูดเงินคนดูเข้ากระเป๋าง่ายๆ แน่นอนทีเดียว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น