วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Cemetery Junction (2010): สามช่าซ่าป่วนเมือง


Cemetery Junction (2010) :
น้า Ricky Gervais เป็นนักแสดงตลกจากอังกฤษที่ได้ดิบได้ดีจากซีรี่ส์ The Office จนทำให้ได้เป็นพระเอกเต็มตัวกับเขาบ้างใน Ghost Town (2008)และ The Invention of Lying (2009) โดยเฉพาะในเรื่องหลังนี้น้าเขาโชว์สเต็ปควบหน้าที่ทั้งเขียนบท/กำกับเองด้วย และนี่ก็คือผลงานเรื่องล่าสุดของเขาซึ่งคราวนี้ขอเกี่ยวก้อยมากับ Stephen Merchant (เทวดาโย่งใน Tooth Fairy [2010] ที่เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัย The Office โน่นแล้ว) ให้มาร่วมกำกับ/เขียนบทกันตามเทรนด์สมัยนี้ที่ ผกก.มักมาเป็นคู่ดูโอ้


จะหล่อ,เท่,สวย,เด๋อ หนังเรื่องนี้มีให้ครบ
ในหนังดราม่าตลกที่พาย้อนยุคไปในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งของอังกฤษช่วงปี 1973 เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตของสามหนุ่มสามมุมที่เป็นเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่เด็ก อันประกอบด้วย Freddie หนุ่มหล่อเนี้ยบที่สมัครไปขายประกันชีวิตเพราะอยากรวยๆจะได้ไม่ต้องไปทำงานโรงงานจนแก่เหมือนพ่อ, Bruce หนุ่มโรงงานมาดเท่ที่ชอบชกต่อยไปทั่วจนแทบจะนอนห้องขังเป็นอาจิณ และ Snork หนุ่มตุ้ยรูปไม่หล่อแถมคารมห่วยอีกต่างหาก ที่หลีสาวเมื่อไหร่เป็นวงแตกซะทุกทีไป


นางเอกน่ารักจริงหนอ
วิถีชีวิตของทั้งสามนอกจากการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามไปวันๆ แล้ว ส่วนใหญ่ก็คือการ หลีหญิง เที่ยวผับ มีเรื่องชกต่อย นอนตาราง ไร้แก่นสารไปเรื่อย แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าบางทีชีวิตคนเรามันอาจจะมีอะไรที่มากกว่านี้ จึงเริ่มหันกลับมาสำรวจชีวิตตนเอง และก็ได้เรียนรู้ที่จะวิ่งตามฝันของตน ได้รู้จักที่จะรัก ได้เห็นความรักของคนในครอบครัว และอะไรๆ อีกมากมายที่จะทำให้ท่านผู้ชมประทับใจไปด้วยมิรู้คลายเลยเชียว


ดาราสมทบล้วนมีชื่อเสียง
ในคราวนี้น้าเขาหาได้ควบบทพระเอกเองไปด้วยไม่(ซึ่งก็ดีแล้ว) แต่ขอเล่นเป็นตัวประกอบแทน โดยบทนำตกไปยังหนุ่มทั้งสามซึ่งก็ดูมีเสน่ห์ได้ใจคนดูกันดี แถมนางเอกยังสวยน่ารักได้อีก ส่วนนักแสดงสมทบก็มีชื่อเสียงกันทั้งนั้น(โปรดดูในรูป) โดยรวมแล้วหนังไม่ได้ตลกโปกฮา แต่ออกแนวดราม่าฟีลกู้ด coming of age ที่ทำได้ดูเพลิน มีเสน่ห์ ให้แง่คิด ความประทับใจก็มีให้ ซึ่งก็ต้องขอปรบมือให้กับน้าเขา(กับคู่หู)ที่ทำหนังออกมาได้ดูดีเช่นนี้ เก่งมากนะครับน้าเนี่ย มิน่าถึงดังเอาดังเอาเช่นนี้

  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังที่ดูเพลิน นักแสดงมีเสน่ห์ ให้แง่คิด น่าประทับใจพอสมควร เพลงก็เพราะได้อีกต่างหาก
  • ไม่น่าดูเพราะ: หนังค่อนข้างออกไปทางสูตรสำเร็จอยู่บ้าง และขาดอะไรเด็ดๆ ที่สำคัญดูเอาฮาไม่ได้นะจ้ะ





*ช่วงเพลงในหนัง*
Led Zeppelin และ ป้าแอ๊ว Elton John สมัยยังผมดกปรกไหล่
หนังเน้นเสนอเรื่องราวของคนวัยหนุ่มสาวในปี 1973 ดังนั้นจึงต้องมีเพลงจากศิลปินยุคนั้นมาให้ฟังกันเพียบแน่ และหนังก็เลือกใช้แต่เพลงดังๆ ของศิลปินระดับเกรดเอ(ในสมัยนั้น)ทั้งนั้น แถมยังใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ T. Rex, Led Zeppelin, Slade, Elton John, David Bowie เป็นอาทิ โดยเฉพาะเพลง Saturday Night's Alright (For Fighting)ของเจ้าป้า Elton John ที่เป็นเพลงร็อคแอนด์โรลมันส์ๆ ในฉากชกต่อย หรือจะเพลง Cum On Feel the Noize ของ Slade ในฉากงานราตรี แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นเพลง The Rain Song ของวงร็อคในตำนาน Led Zeppelin ที่ใช้ในฉากจบชนิดได้อารมณ์สุดๆ เราเลยขอนำทั้งสามเพลงเด่นจากหนังมาฝากกันจ้า





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น