วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Dead Man's Shoes (2004): ละเลงแค้นเพื่อน้องรัก

Dead Man's Shoes (2004) :
หากจะเอ่ยถึง ผกก.ชาวอังกฤษวัย 38 ขวบอย่าง Shane Meadows ขึ้นมา คอหนังก็คงต้องนึกไปถึงหนังเด็กแก่แดดริเหยียดผิวอย่าง This is England (2006) ขึ้นมาทันใด ในขณะที่อีกหลายๆ คนก็อาจจะนึกไปถึงหนังล้างแค้นเรื่องนี้แทน ซึ่งถือเป็นการที่ ผกก.Meadows กลับมาร่วมงานกับ Paddy Considine (The Bourne Ultimatum [2007]) นักแสดงคู่บุญของเขาอีกครั้ง (และเฮีย Paddy เรายังก็ขอร่วมเขียนบทด้วยอีกต่างหาก)


ก็แค้นเขามีไว้ให้ชำระนี่
หนังเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Richard (Considine) ทหารพลร่มที่กลับไปบ้านเกิดโดยพกเอาความแค้นมาตุงเป้ เพื่อมาแก้แค้นให้ Anthony (Toby Kebbell จาก Prince of Persia: The Sands of Time [2010]) น้องชายสุดรักที่ไม่ค่อยเต็มของเขา ซึ่งถูกแก๊งจิ๊กโก๋แถวบ้านกลั่นแกล้งทารุณกรรมต่างๆ นาๆ จนชีช้ำเกินทน ว่าแล้วเขาก็ตามทวงแค้นให้น้องแบบเรียงตัวไปเลย ชนิดที่ว่าพวกนั้นคงต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งที่มาเจ๊าะแจ๊ะกับน้องของเขาเช่นนั้นแน่ๆ


ดูเหมือนก๊วนในรูปซ้ายะจะเครียดๆ กันชอบกล
ถึงหนังจะมาพร้อมพล็อตพื้นๆ เรื่องการแก้แค้นแบบบ้านๆ แต่ ผกก.Meadows เขาก็มีของมากพอที่จะทำให้ออกมาน่าสนใจได้มากๆ คือนอกจากจะมีสไตล์แล้ว ยังมีลูกล่อลูกชน กระทบใจ ไม่ได้โม้สะบัด ในขณะที่ความรุนแรงนั้นก็ถึงเลือดถึงเนื้อซะ และที่สำคัญคือหนังประสบความสำเร็จในการทำให้เชื่อว่าทำไมผู้พี่ถึงได้โกรธแค้นจนต้องกลับมาสางแค้นให้น้องได้แร๊งถึงเพียงนี้ ทั้งนี้แม้เรื่องราวจะซีเรียสแค่ไหนแต่ก็ยังอุตส่าห์มีอารมณ์ขันเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้ยิ้มมุมปากกันอยู่บ้างด้วย


ถือขวานมาเฉาะอะไรจ้ะนั่น
ทางด้านนักแสดง เฮีย Considine ทำหน้าที่ได้ดีในมาดทหารที่ความแค้นจุกอก ซึ่งดูเป็นตัวอันตรายที่เราคงไม่อยากไปมีเรื่องด้วยแน่ๆ ส่วนคุณพี่ Kebbell ก็มาในบทบาทน้องชายผู้ไม่เต็มได้อย่างน่าสงสารเห็นใจเป็นที่สุด ในขณะที่เหล่าตัวโกงก็แลดูทั้งน่าตึ๊บและน่าสงสารอยู่ในทีเช่นกัน และเป็นธรรมเนียมหนังของ ผกก.Meadows ที่ต้องมีเพลงโฟล์คเพราะๆ ให้ได้ฟังกัน รวมถึงมีภาพสะท้อนความเป็นอังกฤษแบบรากหญ้าให้ได้เห็นกันอีกด้วย

อย่าเพิ่งนึกว่าเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Slipknot ซะล่ะ
จะว่าไปแล้วทุกๆ คนในหนังมีล้วนชีวิตจิตใจ แม้แต่พวกผู้ร้ายก็ไม่ได้เหี้ยมจน ม.ม้าหนีหายเหมือนเรื่องอื่นๆ พวกเขาเพียงแค่คึกคะนองจนได้ทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตไป และถึงแม้จะไม่มีคนพี่มาตามแก้แค้น พวกเขาก็ต้องมีตราบาปนี้คอยหลอกหลอนพวกเขาไปตลอดชีวิตอยู่ดี ในขณะที่พี่ชายผู้เคียดแค้นก็ถูกความแค้นครอบงำจนได้ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนโหดเหี้ยม กลายเป็นฆาตกร ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะแก้แค้นได้สำเร็จแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย เหมือนหนังกำลังจะบอกแก่เราว่า 'ที่ไหนมีแค้น ที่นั่นมีทุกข์' นั่นแหล่ะจ้า
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังดราม่า แก้แค้น ที่ทำได้ถึงคุณภาพ กระทบจิตใจ เยี่ยมมากๆ
  • ไม่น่าดูเพราะ: ถึงจะเป็นหนังแก้แค้น แต่ก็ในแบบบ้านๆ(ของอังกฤษ) ไม่ได้มันส์ระทึกเป็นหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ดหรอกนะจ้ะ


*ช่วงเพลงในหนัง*

M. Ward
ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของ ผกก.Meadows ไปซะแล้วที่หนังของเขาต้องมาพร้อมกับเพลงประกอบแนวโฟล์คเพราะๆ ซึ่งในเรื่องนี้มีแต่เพลงโฟล์คเศร้าๆ เปลี่ยวเหงา ที่แสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวและความคิดภายในจิตใจของพระเอกเราได้เป็นอย่างดีจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ Clayhill, Gravenhurst, Calexico โดยเฉพาะเพลง Dead Man ของศิลปินโฟล์คชาวมะกันอย่าง M.Ward ที่อยู่ในช่วงเอนด์เครดิตนั้น เพราะ เศร้า เหงา ซึม เข้ากับอารมณ์หนังเอามากๆ ทีเดียว ว่าแล้วก็นำมาให้ฟังกันซะเลยดีกว่า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น