วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

The Human Centipede (First Sequence) (2009): จับคนมาทำตะขาบ


The Human Centipede (First Sequence) (2009) :
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงคุณงามความเสื่อมของหนังสยองขวัญเล็กๆ จากเนเธอร์แลนด์เรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการที่หนังอุบาทว์จัดจนทำให้คนดูพากันเดินออกจากโรงระหว่างฉายรอบทดลอง หรือการที่ Roger Ebert นักวิจารณ์ชื่อดังงดให้ดาวซึ่งมีหนังน้อยเรื่องนักที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้ แต่กระนั้นหนังเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ฮือฮาจากบรรดาคอหนังซาดิสม์ และมักจะได้ติดโผเข้ารอบการจัดอันดับ"สุดยอดหนังชวนอ้วก"จากสื่อหนังสำนักต่างๆ เป็นประจำอีกด้วย อืม... แบบนี้เห็นทีต้องลองของซะหน่อยแล้วมั้งเนี่ย


หนังใช้นักแสดงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
หนังว่าด้วยเรื่องราวของสองสาวสวยชาวมะกันดวงซวยที่ดันหลงทางระหว่างท่องราตรีในยุโรปไปเจอะหมอศัลย์ชาวเยอรมันวัยปลดเกษียณผู้หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่จะสร้างแฝดสยามตัวติดกันแบบสามคนรวด ว่าแล้วพวกเธอก็เลยถูกจับ(ตามฟอร์ม)ไปผ่าตัดพ่วงเข้ากับหนุ่มญี่ปุ่นอีกคน โดยการ เอิ่ม..เย็บปากเข้ากับรูทวาร(หรือรูตูดนั่นเอง)ของอีกคน(ดังรูปข้างล่าง) เสร็จแล้วทั้งสามจึงมีสภาพออกมาเหมือนมนุษย์ตะขาบดังชื่อเรื่อง ชนิดที่ว่าดูแล้วเป็นใครก็ต้องอดออกปากชมคนคิดเรื่องขึ้นมาดังๆ เสียมิได้ว่า "โอ้วว คิดได้ไงเนี่ย ไอ้บ้าาา!!??"

นี่คือคอนเซปท์ของการผ่าตัดในเรื่อง
Tom Six ผกก.หนุ่มไฟแรงได้ไอเดียสุดพิลึกปนอุบาทว์นี้มาจากมุกตลกที่เขาเคยคิดกันเล่นๆ กับเหล่าเพื่อนฝูงว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการลงโทษพวกชอบข่มขืนเด็กโดยการเย็บปากพวกนั้นเข้ากับรูทวาร(รูตูด)ของสิงห์สิบล้อตัวอ้วนฉุ ว่าแล้วเขาก็เลยนำไอเดียนี้มาพัฒนาเป็นบทหนังเรื่องนี้ในที่สุด ซึ่งกว่าจะสร้างออกมาฉายได้เนี่ยไม่ใช่ง่ายๆ เลย เพราะบรรดานักแสดงมากมายต่างพากันยี้ สะบัดก้นหนีเมื่อได้รู้คอนเซปท์ของหนัง รวมทั้ง ผกก.เรายังต้องคอยปิดบังต่อบรรดานายทุนถึงเรื่องเย็บปากเข้ากับรูทวาร (โดยบอกไปแต่เพียงว่าจะสร้างหนังเกี่ยวกับการจับคนมาเย็บติดกัน) จนกระทั่งถ่ายทำเสร็จแล้วถึงค่อยบอก (ก็ถอนตัวไม่ทันแล้วสิงานนี้)


ตัวโกงของเรื่องหน้าตาโรคจิตได้ใจ
ผลที่ออกมาคือหนังโดดเด่นมากในเรื่องไอเดียความอุบาทว์ตรงจุดนี้ที่คิดได้ไงเนี่ย ซึ่งเท่านี้ก็สามารถสร้างความพะอึดพะอมให้บรรดาคนดูขวัญอ่อนกันได้แล้ว หนังใช้นักแสดงไม่กี่คนและสถานที่แทบจะแห่งเดียวตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะในส่วนของความตื่นเต้นระทึกขวัญหรือความโหดความแหว่ะเลือดสาดก็ยังถือว่ามีน้อยเกินไป ถ้าจะเทียบกับหนังแนวโหดๆ ส่วนใหญ่แล้ว แถมยังมีจุดอ่อนยอดฮิตตามธรรมเนียมหนังสยองขวัญเกรดรอง เช่นการที่มักให้ตัวละครทำหรือพูดอะไรที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลนัก


นักแสดงเรื่องนี้เขากล้าอุบาทว์กันดี
และก็อย่างที่ชื่อเรื่องบอกนั่นแหล่ะ นี่เป็นเพียงปฐมบท(แห่งความอุบาทว์)เท่านั้น เพราะตอนนี้ ผกก.เรากำลังขะมักเขม้นถ่ายทำภาคต่ออยู่ในอังกฤษ ซึ่งเขาออกมาแพล่มน้ำลายแตกฟองให้ฟังว่า "ภาคแรกเป็นแค่น้ำจิ้มที่เราอยากจะแนะนำไอเดียมนุษย์ตะขาบให้คนดูรู้จักเท่านั้น แต่ภาคต่อไปเราจะทวีคูณความอุบาทว์มากขึ้นเป็นเท่าตัวแน่น๊อน และถ้าภาคสองไปได้สวย รับรองมีภาคสามออกตามมาแน่ ขอบอก" ในเมื่อพี่เขาอวดอ้างสรรพคุณซะขนาดนี้ บรรดาคอหนังใจซาดิสม์ทั้งหลายก็ต้องคอยดูต่อไปว่าภาคต่อจะอุบาทว์ถึงใจได้เพียงใดล่ะเนอะ
  • + เป็นหนังสยองเล็กๆ แต่ไอเดียอุบาทว์นั้นไม่เล็กเลย ถูกใจคอหนังคัลต์นักเชียวนั่น
  • - นอกจากไอเดียที่ว่าแล้ว หนังก็ธรรมดาไป โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังสยองทั่วๆ ไปแล้ว และผู้ที่ไม่นิยมดูอะไรไม่เจริญหูเจริญตา ก็พึงหลีกเลี่ยงทุกลู่ทาง เราเตือนท่านแล้ว




*ของแถม*

มนุษย์ตะขาบเวอร์ชั่นเด็กเกรียน(ดูมันทำ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น