วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

[Rec] 2 (2009): เมื่อตากล้อง(ติดอาวุธ)ต้องวิ่งหนีผี

[Rec] 2 (2009) :
ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2007 นำแนวคิด 'เรื่องจริงผ่านจอ' แบบเหวี่ยงกล้องถ่ายมาผสมผสานกับหนังแนวซอมบี้สไตล์ 28 Days Later... (2002) ในพื้นที่อันแสนจำกัดเข้าออกไม่ได้ ได้อย่างสร้างสรรค์จนหนังเป็นที่นิยมชมชอบจากคอหนังสยองขวัญทั่วโลก (ซึ่งฮอลลีวู้ดก็จับไปรีเมคแบบพอใช้ใน Quarantine [2008]) ในที่สุดก็ถึงคราวที่สอง ผกก.Jaume Balagueró และ Paco Plaza ผู้ปลุกปั้นภาคแรกจนฮิต จะกลับมาอีกครั้งกับภาคต่อที่แฟนๆ หนังตั้งตารอคอยมากว่าสองปี อ่า..การรอคอยสิ้นสุดลงซะที

ทุนสูงกว่าเดิม บู๊กว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะดีกว่าเดิมนะ
หนังเดินเรื่องต่อจากภาคแรกทันที โดยคราวนี้เหล่า จนท.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ GEO (หน่วยสวาทของสเปน) สี่นายจะต้องอารักขาชายคนหนึ่งที่เป็นคนของทางการเข้าไปในตึกสยองแห่งนี้โดยมีจุดประสงค์บางอย่าง ซึ่งทั้งสี่มารู้เอาทีหลังว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนของทางการแต่เป็นบาทหลวงที่ถูกทางคริสตศาสนจักรส่งมาเก็บตัวอย่างเลือดของตัวการปล่อยเชื้อ(ตัวแม่) เพื่อเอาไปทำวัคซีนแก้พิษซอมบี้นี้ ซึ่งเข้ามาได้ไม่นานพวกเขาก็รู้ตัวว่าถึงจะเก่งกาจติดอาวุธมาดีแค่ไหนก็ตาม ทว่าการจะเอาตัวรอดในตึกแห่งนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เอาซะเลย แถมนี่ยังต้องตามหาตัวแม่ของซอมบี้พวกนี้ด้วย งานนี้ก็มึนสิครับ และที่มึนหนักขึ้นไปอีกก็คือ พวกเขาพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็คือ เอิ่ม..'ซาตาน'นั่นเอง (เอางั้นเลยนะเพ่)

ยังใช้กล้องโหมดไนท์วิชั่นกันอีกครั้งในภาคนี้
หนังไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลงให้มากความเหมือนภาคแรก และเปลี่ยนจากการมีกล้องตัวเดียว เป็นใช้กล้องหลายๆ ตัวรับช่วงต่อกันไป อย่างเช่นการที่ จนท.แต่ละนายมีกล้องติดอยู่บนหมวกของตน ทำให้บางช่วงของหนังทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมหรือว่ากำลังดูหนังเรื่อง Aliens (1986) อยู่ก็มิปาน ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่ใช้ได้ทีเดียว ส่วนความระทึกทรวงเลือดกระฉูดนั้นก็ยังมีมามอบให้ ทั้งบรรยากาศ หรือองค์ประกอบทุกอย่างยังเจ๋งเหมือนเดิม รวมทั้งยังได้บู๊สนั่นกว่าภาคแรกซะ(เพราะมีปืนสู้) แถมมีตัวประหลาดพันธุ์ใหม่โผล่มาให้สยองกัน ในขณะที่ตัวละครจากภาคแรกบางคนก็ยังอุตส่าห์โผล่มาอีกครั้งแบบมีบทบาทสำคัญต่อความเป็นไปของหนังอีกด้วย


พี่โล้นจากภาคแรกโผล่มาอีกครั้งในบทซอมบี้เหม่ง
แต่น่าเสียดายที่หนังเพิ่มคนภายนอกอีกกลุ่มเข้ามา(นอกจากพวกที่กล่าวถึงในข้างต้น) ซึ่งไม่น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมสักเท่าไหร่ เพราะต้องเสียเวลาบิ้วท์อารมณ์กันใหม่อีกรอบ และดูเหมือนเหล่าตากล้องจำเป็นของเรามือจะนิ่งกว่าภาคแรกขึ้นมาเยอะจนดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ หนังกลายเป็นหนังภูติผีซาตานเต็มตัวไปในที่สุด(หลังจากที่เกริ่นไว้เล็กน้อยแล้วในภาคแรก) เราจึงจะได้เห็นฉากการถือไม้กางเขนกำหราบผีของบาทหลวงกันล่ะทีนี้(ป๊าด) ถึงจะไม่สดหรือเจ๋งเท่าภาคแรก และมีอะไรที่ไม่เข้าท่าอยู่เล็กๆ น้อยๆ แต่ก็นับเป็นภาคต่อที่น่าพอใจ ยังดูระทึกได้อยู่ ถ้าไม่คาดหวังกับมันไว้มาก ซึ่งไหนๆ ก็ดูมาแต่ภาคแรกแล้ว ก็รอดูภาคสามที่จะออกฉายในปี 2011 ด้วยล่ะครับ ดูสิว่าจะแถไปทางไหนกันอีก เหอๆ
  • น่าดูเพราะ: ยังเป็นภาคต่อของหนังชุดนี้ที่ทำได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ช่วงเวลาระทึกมีมาให้ แฟนๆ ภาคแรกทราบแล้วเปลี่ยน
  • ไม่น่าดูเพราะ: ทางเราอยากจะปลื้มหนังภาคนี้จริงๆ แต่ดูเหมือนมันจะด้อยกว่าภาคแรกเยอะ แถมยังพาเรื่องราวออกทะเลเรื่อยๆ ซึ่งถ้าไม่เคยดูภาคแรกอาจมีงงนะเนี่ย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น