วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Piranha 3DD (2012): มหกรรมห่วยทะลุจอ



Piranha 3DD (2012) :

ก็เพราะภาคแรกเมื่อปี ค.ศ.2010 ออกมาฮิตโดนใจบรรดาคอหนังจอมซาดิสม์ทั้งหลายซะขนาดนั้น ก็ต้องมีภาคต่อออกมาหากินกันยาวๆ อีกเป็นธรรมดา (ภาคแรกเขาทิ้งเชื้อไว้โต้งๆ ซะปานนั้นแล้วด้วย) ซึ่งหากท่านย้อนไปดูรีวิวภาคแรกในบล็อกนี้จะพบว่า เราได้ติงว่าไม่เห็นมีหนังเรื่องไหนที่มีฉากเด็กตายสยองเหมือนใน Feast (2005) หนังสัตว์ประหลาดแหกกฏสยองบ้างเลย และพับเผื่อยเถอะ มาภาคนี้หนังดันจัดเต็มฉากเด็กตายสยองมาจนได้ซะงั้น แถมที่สำคัญ ผกก.ก็คือยอดชายนาย John Gulager จาก Feast เสียด้วยสิ ป๊าด!! อะไรมันจะบังเอิญปานนั้น?!


ภาคนี้มากัดกันในสระแทน
ภาคแรกผู้สร้างแถให้ฝูงปลาปิรันย่าจอมกระหายเลือดไปโผล่ในทะเลสาบกลางอเมริกาได้อย่างสวยสดงดงอม มาคราวนี้ก็พยายามแถให้มันไปไล่กัดตูดคนในสวนน้ำแทน โดยหนังมีคำโปรยบนโปสเตอร์ไว้เรียกลูกค้าว่างานนี้ "แอ็คชั่นเป็นสองเท่า สยองเป็นสองเท่า และเต้า (ใหญ่) เยอะเป็นสองเท่า" ตามประสาภาคต่อหนังฮิตที่อะไรๆ ก็ต้องทวีคูณเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อไม่ให้น้อยหน้าภาคแรก

สาวสวยเซ็กซ์ภาคนี้มีมานิดเดียว
แต่ทว่าผลที่ออกมากลับกลายเป็นว่าหนังดันทำไม่ได้อย่างที่คุยเลยซะฉิบคือจะสนุกก็ไม่สนุก สยองก็ไม่สยอง ลุ้นก็ไม่ลุ้น อารมณ์ขันก็ฝืดสนิท ครั้นจะดูสาวๆ โชว์เต้าก็ไม่ได้มีเยอะหรือเด็ดกว่าภาคแรกเลย (ดูๆ แล้วทุนสร้างก็น่าจะน้อยกว่าด้วยนะ) การที่ได้ ผกก.Gulager ที่เคยทำหน้าที่โชว์เจ๋งแหกกฏสยองจากหนังไตรภาค Feast ก็ไม่ได้ช่วยทำให้หนังดูดีขึ้นมาเลยสักนิด จนเรียกได้ว่าหนังภาคนี้เข้าขั้นห่วยแบบเต็มปากเต็มคำเลยก็ว่าได้


ลุง Ving Rhames จากภาคแรกก็มากับเขาด้วย
ปกติทางบล็อกเราไม่ค่อยจะด่าหนังเรื่องไหนว่าห่วยหรอกครั่บพี่น้อง แต่สำหรับเรื่องนี้ก็ขอหน่อยเหอะนะ เพราะในภาคแรกถึงจะไม่ใช่หนังที่ดีเลิศอะไรแต่ก็สามารถมอบความบันเทิงแก่คนดูได้ในแนวทางของมันเอง ทว่าภาคนี้อะไรๆ ก็ดูประดักประเดิดไปซะหมด ทั้งไอเดียสยองและมุกตลก ชนิดที่ว่าดูไปก็ต้องส่ายหัวไปด้วยตลอด (บทลุง Ving Rhames จะใส่เข้ามาอีกทำไม๊?) หนังเป็นความน่าเบื่อ ทั้งๆ ที่ตัวหนังนั้นสั้นเพียงแค่ 70 กว่านาทีเท่านั้น (ไม่รวมเอนด์เครดิต) แต่ดูเหมือนกับว่าหมดมุขจะเล่นไปตั้งนานแล้ว (แถมตอนจบก็ยังอุตส่าห์ยัดเบื้องหลังฉากหลุดใส่เข้ามาอีกต่างหาก)

มุกเด็ดปิรันย่ามุด...
เพราะหนังแย่กว่าภาคแรกในทุกกรณีแบบนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่อเมริกาเองยังฉายแบบจำกัดโรง ดังนั้นจึงเห็นทีว่าแฟรนไชส์นี้อนาคตคงจะค่อยไม่สวยงามซะแล้วล่ะ แต่ว่าในตลาดหนังแผ่นก็คงยังจะไปได้อยู่ แบบที่ว่าถ้ามีภาคสามออกมาอีก ก็คงจะส่งตรงลงตลาดหนังแผ่นเลยทันทีนั่นแหล่ะครั่บ ฟันธง!
  • + อืม..คิดไม่ออก
  • - ห่วยกว่าภาคแรกในทุกกรณี ดูแล้วเสียเซลฟ์จริงๆ




*รีวิวหนังของ ผกก.Gulager และหนังเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง*


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น