วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Jonah Hex (2010): เดชไอ้คาวบอยหน้าเละ

Jonah Hex (2010) :
พักหลังๆ มานี้ในขณะที่เหล่าตัวการ์ตูนของ Marvel Comics ตัวแล้วตัวเล่า(อาทิ Spider-Man, Iron Man)ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังขึ้นจอเงินต่างก็โด่งดังทำเงินระเบิดระเบ้อไปตามๆ กัน แต่ทางด้านหนังจากตัวการ์ตูนของ DC Comics นั้นเล่ากลับเงียบเหงาเศร้าซึมกันยิ่งนัก เพราะมีแค่ในรายของ Batman ยุคเฮีย Christopher Nolan เท่านั้นที่พอจะเรียกได้เต็มปากว่าประสบความสำเร็จเป็นหน้าเป็นตาให้ทางบริษัทได้บ้าง(แม้แต่ Superman ตอนล่าสุดยังเดี้ยงเลย)


แค้นนักเชียวที่มาทำหน้าข้าเสียโฉม
แต่พวกเขาก็ถือว่าเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทาง Marvel เลยเพราะทั้งเก่าแก่กว่า(ตั้งห้าปีแน่ะ) ทั้งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 76 ปี ซึ่งแน่นอนที่ต้องมีบรรดาตัวการ์ตูนเด็ดๆ มากมายอยู่ในสังกัด ซึ่งตัวล่าสุดที่ถูกนำมาขึ้นจอก็คือตัวการ์ตูนคาวบอยนักล่าเงินรางวัลหน้าเละ Jonah Hex ที่เรื่องราวของเขาถูกตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1972 เลยโน่น โดยเวอร์ชั่นหนังนี้ได้เฮีย Josh Brolin ที่เคยคว้าออสก้าร์สมทบชายจาก Milk (2008) มารับบทพระเอก แถมยังพ่วงสาวเซ็กซี่ Megan Fox (Jennifer's Body [2009]) มาเป็นตัวเรียกหนุ่มๆ อีกด้วย


ถึงโดนจับก็อุ่นใจที่มีหนู Megan ยืนโชว์จั๊กแร้อยู่ข้างๆ
หนังได้ ผกก.Jimmy Hayward (Horton Hears a Who! [2008]) ที่คลุกคลีแต่ในแวดวงหนังแอนิเมชั่นมาโดยตลอด (เคยเป็นลูกหม้อเก่าของ Pixar ซะด้วยนะ) มารับผิดชอบ ด้วยทุนสร้างปานกลาง(47 ล้านเหรียญ) พร้อมด้วยดารามีเกรดมากหน้าหลายตา ซึ่งทำให้หน้าหนังออกมาน่าดูมากๆ แต่ผลที่ออกมา หนังกลับซ้ำซาก จำเจ เดิมๆ น่าเบื่อ ไม่สนุก ฉาบฉวย และเหมือนจะรีบฉายๆ ให้จบๆ ไปด้วยการหั่นหนังซะเหี้ยนจนเหลือความยาวเพียงแค่ 73 นาทีเท่านั้น(ไม่รวมเอนด์เครดิต)


ป๋า John Malkovich กับบทผู้ร้าย(อีกแล้ว)
เฮีย Brolin และคนอื่นๆ ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว แต่ในเมื่อบทมันเป็นแบบนี้ก็คงจะโทษพวกเขาไม่ได้ ในขณะที่หนู Megan ก็ไม่ต้องทำอะไรมากนอกจากสวยเซ็กซ์ไปตามเรื่อง(แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับหนุ่มๆ) ในขณะที่ฉากแอ็คชั่นก็ธรรมดาซะ และที่น่าตำหนิอีกอย่างก็คือสกอร์แนวเมทัลของ วงโปรเกรสซีฟเมทัล Mastodon ที่จับมือมากับ Marco Beltrami นั้นแสนจะโฉ่งฉ่าง หนวกหู น่ารำคาญ มากกว่าจะเท่เข้ากับตัวหนังนะ(ความเห็นส่วนตัว)

แหม ขี่ม้าติดปืนกลซะด้วยนะ พ่อคุ๊ณณ
เวลาหนังห่วย คนมักจะโทษ ผกก.เป็นรายแรก แต่ในเรื่องนี้ถ้ามองกันลึกๆ แล้วน่าจะมีเงื่อนงำซับซ้อนไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการที่อยู่ๆ ผกก.Francis Lawrence (I Am Legend [2007]) ก็มาดูแลงานช่วง Post Production แทน ผกก.Hayward ไปซะงั้น ซึ่งงานนี้ไม่ว่าจะเพราะใครเป็นตัวการ แต่การที่หนังทำเงินได้เพียงแค่ 10 ล้านในอเมริกาจนต้องงดฉายโรงแล้วส่งหนังลงแผ่นเลยในหลายประเทศ ก็เพียงพอจะทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้อยากจะทำลืมๆ ไปซะว่าเคยมีหนังเรื่องนี้อยู่ในเครดิตตน และน่าเสียดายที่เราคงจะไม่ได้เห็น Jonah Hex โลดแล่นบนจอเงินไปอีกสักพัก(หลายปี)เลยล่ะเน้อ
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังที่สร้างจากการ์ตูน ที่มีดาราเกรดเอร่วมแสดง หน้าหนังดูดี และที่สำคัญยังมีน้องหนู Megan Fox มาปั้นหน้าสวยให้ยลเหมือนเดิม
  • ไม่น่าดูเพราะ: หนังดันออกมาซ้ำซาก จำเจ เดิมๆ น่าเบื่อ ไม่สนุก ฉาบฉวย ไปอย่างน่าเสียดาย




*ช่วงเพลงในหนัง*

วง Mastodon มารับผิดชอบซาวน์แทร็คหนังเรื่องนี้
เพราะว่าเป็นหนังจากการ์ตูนที่ออกจะแมนๆ สร้างออกมาดูเอามันส์ สกอร์ของหนังเลยขอเท่ๆ แมนๆ สไตล์เมทัลด้วย โดยตัว ผกก.Hayward ได้จีบให้ Mastodon วงโปรเกรสซีฟเมทัลมากฝีมือจาก แอตแลนต้า จอร์เจีย อเมริกา ให้มาทำสกอร์สำหรับหนัง โดยการชี้แนะจาก Marco Beltrami ผู้คร่ำหวอดกับสกอร์แนวร็อคๆ อยู่แล้วอีกทีหนึ่ง ซึ่งผลที่ออกมาก็อย่างที่บอกไปข้างต้น ที่รู้สึกว่าฟังแล้วไม่ค่อยเข้ากับหนังเลย แต่พอเอามาฟังอย่างเดียวแล้วก็โอเคเลยนะ ว่าแล้วเราก็เลือกเอาแทร็คเท่ๆ ที่ชื่อ Train Assault มาให้ลองฟังกันดูจ้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น