วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Animal Kingdom (2010): ครอบครัวฉันมีแต่โจร(ว่ะ)



Animal Kingdom (2010) :
หนังดราม่าอาชญากรรมเล็กๆ จาก ออสเตรเลีย เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะสามารถคว้ารางวัล Grand Jury Prize จากเทศกาลหนัง Sundance Film Festival ครั้งล่าสุดมาครองได้สำเร็จ ที่สำคัญก็คือหนังแจ่มพอจนอาจมีสิทธิ์ได้เข้าไปลั้นลาถึงเวทีออสก้าร์ครั้งต่อไปในบางสาขาเสียด้วยซ้ำ(หวังว่าเช่นนั้นนะ อิอิ)


พ่อหนุ่มคนนี้ประเดิมผลงานเรื่องแรกได้ไม่เลวเลยทีเดียว
หนังเล่าเรื่องของ Joshua 'J' Cody (รับบทโดยนักแสดงหน้าใหม่ James Frecheville) หนุ่มน้อยวัย 17 ที่แม่เพิ่งเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด จนเขาต้องระเห็จไปอยู่กับครอบครัวของยาย ซึ่งประกอบด้วยลุงๆ ที่เป็นพ่อค้ายาเสพติดกันทั้งบ้าน ซึ่งก็แน่นอนที่เมื่อเขาได้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวใหม่นี้แล้ว ก็ย่อมต้องถูกดึงให้ถลำลึกสู่โลกมืดของอาชญากรรมที่จะทำให้ชีวิตของเขาและคนรอบข้างเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยทีเดียว


คุณ Guy Pearce กับบทตำรวจน้ำดี(อีกแล้ว)
ผกก.David Michôd ประเดิมผลงานหนังยาวเรื่องแรกของเขานี้ได้อย่างถึงคุณภาพ ด้วยการเสนอโลกอาชญากรรมของชาวออสซี่ผ่านครอบครัวโจรครอบครัวหนึ่ง ซึ่งแม้หนังจะเดินเรื่องเนิบๆ แต่ก็เต็มไปด้วยจุดหักเหที่ชวนให้ต้องอึ้ง รุนแรงแบบไม่ต้องยิงกันจะๆ ให้เห็น ทั้งยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศมาคุไม่น่าไว้วางใจทั้งเรื่อง จนกลายเป็นหนังสุดระทึกไปได้โดยไม่ต้องมีเรื่องราวใหญ่โตหรือยิงกันกระจายดังเช่นหนังอาชญากรรมของฮอลลีวู้ดเลย ส่วนทางด้านดนตรีประกอบแนวอิเลคโทรนิคสุดหม่นของ Antony Partos ก็ช่วยสร้างบรรยากาศมาคุให้กับหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


ให้แฟนขี่หลังแบบในหนังเกาหลีเลยนะพ่อคุ๊ณ
ด้านบรรดานักแสดงของหนัง แม้แทบจะไม่มีใครที่คุ้นหน้าเลย (คนดังสุดก็เฮีย Guy Pearce จาก L.A. Confidential [2007] ที่ก็มาในบทตัวประกอบเสียด้วย) แต่นักแสดงทุกคนล้วนทำหน้าที่ได้ดีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพระเอกเราที่ประเดิมหนังเรื่องแรกได้อย่างดูเป็นธรรมชาติน่าชื่นชม ทว่าคนที่เด่นที่สุดก็คงจะไม่พ้นคุณ Jacki Weaver ในบทคุณยายผู้แสนดี(??) และคุณ Ben Mendelsohn ในบทพี่ใหญ่ขาโหดประจำบ้าน ที่ทั้งคู่น่าจะได้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบในรางวัลสำคัญๆ ต่างๆ ช่วงปลายปีบ้างแหล่ะน่า


สองคนนี้อาจได้เข้าไปลั้นลาบนเวทีแจกรางวัลหนังสำคัญๆ ต่อไป
ถ้ามองข้ามความเนิบของหนังไปได้และตั้งใจดูอีกนิดก็จะพบว่านี่เป็นหนังที่ มีชั้นเชิง ชวนเหวอ น่าพอใจมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่สงสัยว่าแม่แบบไหนหนอถึงได้เลี้ยงลูกออกมาให้เป็นโจรทั้งบ้านได้แบบนี้ ซึ่งหนังก็มีคำตอบให้ ชนิดที่มันอาจจะทำให้ท่านได้อึ้งเลยทีเดียว ยังไงซะก็โปรดจับตาดู ผกก.Michôd ไว้ให้ดี ท่าทางอนาคตไกลนะเนี่ย พ่อคนเนี้ย
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังดราม่าอาชญากรรมเล็กๆ ที่ผลลัพธ์ออกมาไม่เล็ก ดูแล้วท่านจะลืมไม่ลงเลยล่ะ ขอบอก
  • ไม่น่าดูเพราะ: หนังเดินเรื่องเนิบนาบ ดังนั้นถ้าไม่ตั้งใจดูอาจมีเซ็ง และการที่หนังขาดแคลนนักแสดงคุ้นหน้า จึงทำให้หน้าหนังไม่ชวนให้อยากดูเท่าไหร่นัก




*ช่วงเพลงในหนัง*

เพลงของ Air Supply ถูกนำมาใช้ในหนัง
นอกจากดนตรีประกอบแนวอิเลคโทรนิคสุดหม่นโดยฝีมือของ Antony Partos จะสร้างความมืดมน ไม่น่าไว้วางใจให้กับหนังได้เป็นอย่างดีแล้ว หนังยังนำเพลงของคู่หูดูโอ้ซอฟท์ร็อคชาวออสซี่อย่าง Air Supply มาใช้ด้วย ซึ่งก็คือเพลง All Out of Love จากอัลบั้มชุด Lost in Love (1980) ของพวกเขานั่นเอง โดยเราจะได้ยินกันในช่วงกลางเรื่องซึ่งเป็นฉากที่ Pope ขาใหญ่ประจำครอบครัวนั่งดูเอ็มวีเพลงนี้อยู่แบบอินๆ เมาๆ ทั้งนี้เพลงยังถูกนำไปใช้เปิดในเทรลเลอร์ของหนังอีกด้วย ซึ่งก็นะ พอเพลงรักหวานเลี่ยนแบบนี้ถูกนำไปใช้ในหนังอาชญากรรมเช่นนี้ ก็ช่างตัดอารมณ์และฟังดูประชดประชันไปซะงั้นจนได้ เชื่อเขาเลยสิพับเผื่อย!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น