วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Repo Men (2010): เครื่องในข้าใครอย่าแตะ


Repo Men (2010) :
ถ้าดูเครดิตผลงานที่ผ่านมาของเฮีย Jude Law ดีๆ แล้วจะพบว่าเขามักจะหาหนังไซไฟเนื้อหาน่าสนใจเล่นอยู่เรื่อยๆ แต่หนังไซไฟเรื่องที่แล้วอย่าง Sky Captain and the World of Tomorrow (2004) นั้นเล่นเอาเฮียเขาเข็ดหนังไซไฟไปซะหลายปีเลยทีเดียว จนในที่สุดหนังแอ็คชั่น-ไซไฟเรื่องนี้ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจพอที่จะทำให้เขาตัดสินใจกลับมารับเล่นหนังแนวนี้อีกครั้งหนึ่งจนได้


เฮีย Law ยังเถิกได้อีกในเรื่องนี้(แต่ก็เถิกแบบหล่อนะ)
หนังเล่าเรื่องในอนาคตปี ค.ศ.2025 เมื่อวิทยาการล้ำหน้าจนถึงขั้นที่มนุษย์สามารถสร้างอวัยวะเทียมของส่วนต่างๆ ในร่างกายขึ้นมาได้ คนเราจึงสามารถเปลี่ยนอวัยวะทุกส่วนได้ราวกับเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ก็มิปาน โดยบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่นาม The Union เป็นผู้จัดหน่ายผูกขาดในด้านนี้อยู่ แต่ด้วยความที่การปลูกถ่ายอวัยวะเทียมเหล่านี้มีราคาค่างวดสูงมากๆ จนลูกค้าจำนวนมากไม่สามารถผ่อนชำระเงินได้ตามกำหนดเวลา ทางบริษัทเลยต้องมี จนท.ที่เรียกว่า Repo-men ออกคอยยึดอวัยวะเหล่านั้นคืน ซึ่งก็เล่นผ่าออกสดๆ โดยไม่สนใจว่าลูกค้าจะอยู่หรือตายก็ตาม


ฉากแอ็กชั่นดุเดือดเลือดพุ่งใช้ได้เลยทีเดียว
แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ จนท.Repo-men มือวางอันดับหนึ่งของบริษัทอย่าง Remy (Law) ดันประสบอุบัติเหตุจนต้องใส่หัวใจเทียมของบริษัทเข้า ซึ่งก็แน่นอนที่เขาก็ไม่มีปัญญาชำระเงินจำนวนมหาศาลได้ตรงเวลาเช่นกัน ทำให้ตนเองต้องกลายสภาพจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่าไปในที่สุด ชีวิตใครๆ ก็รักใครก็หวง ดังนั้นมีหรือที่เขาจะยอมให้ทวงหัวใจคืนง่ายๆ งานนี้เลยต้องไล่ล่ากันเถิดเทิง บู๊กันแหลกลาญกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียวเชียว


นายทุนมักจะเป็นตัวร้ายสำหรับหนังอนาคต
ผกก.Miguel Sapochnik ทำหน้าที่ในหนังใหญ่เรื่องแรกของเขาได้อย่างเข้าที ด้วยการเสนอเรื่องราวที่เล่นกับแนวคิด 'วิทยาการยิ่งสูงศีลธรรมยิ่งต่ำลง' และไอเดียที่ว่า 'หากซื้อบ้านไม่มีเงินจ่ายก็ต้องถูกยึด ซื้อรถไม่มีเงินจ่ายก็ต้องถูกยึด ดังนั้นถ้าซื้ออวัยวะเทียมแล้วไม่มีเงินจ่ายก็ต้องถูกยึดคืนเช่นเดียวกัน' หนังเสนออนาคตในอีก 15 ปีในแบบที่ไม่ล้ำยุคจนดูเว่อร์เกินไปเหมือนหลายๆ เรื่อง ส่วนในฉากแอ็คชั่นก็ดุเดือดเลือดพล่านสมฐานะหนังเรทอาร์ซะจริงๆ


หนังมีฉากล้วงตับกันสดๆ ให้ดูกันจนหนำใจเชียว
แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่ดูเอาสนุก เอามันส์ ไม่ใช่หนังที่เหมาะกับทุกคน เพราะฉากแอ็คชั่นถึงจะดุเดือดรุนแรงแต่ก็มีน้อย และเน้นเสนอฉากผ่าอวัยวะสดๆ ชวนเสียวท้องน้อยเสียจริง ในขณะที่ความน่าติดตามกลับน้อยนิด ดังนั้นหนังจึงก้ำกึ่งระหว่างเข้าท่าและไม่เข้าท่า แต่การที่ช่วงท้ายๆ ของหนังกล้าที่จะฉีกตัวออกจากสูตรสำเร็จของฮอลลีวู้ด เลยทำให้ถือว่าสอบผ่านสำหรับเราไปในที่สุด ซึ่งก็อย่างว่านะหลายคนดูแล้วอาจจะชอบหรือไม่ก็รู้สึกผิดหวังไปเลยก็ได้


ขำกิ๊กอะไรกันอยู่จ้ะ
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังไซไฟที่มีแนวคิดน่าสนใจ ฉากแอ็คชั่นเด็ดขาดใช้ได้ และกล้าที่จะฉีกตนเองจากสูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวู้ดทั่วไป
  • ไม่น่าดูเพราะ: เล่าเรื่องได้ยังไม่ค่อยน่าติดตามนัก และเป็นหนังที่ดูแล้วอาจจะชอบหรือไม่ก็ผิดหวังกับมันไปเลยทีเดียว



*ช่วงเพลงในหนัง*

เนื่องจากเป็นหนังไซไฟ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หนังจึงมีทั้งเพลงอิเลคโทรนิคล้ำๆ อย่างเพลงของ UNKLE ในฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ และโดยเฉพาะเพลงเก่าๆ เก๋ๆ เพราะๆ อย่าง Dream a Little Dream of Me ของ The Mamas & the Papas ในช่วงท้ายที่หนังจงใจใส่เข้ามาเพื่อสร้างอารมณ์เย้ยหยันประชดประชันได้เป็นอย่างดีเชียว และนี่คือเพลงในหนังที่เราคัดมาฝากกันจ้า

MP3: UNKLE - Burn My Shadow


MP3: The Mamas & The Papas - Dream a Little Dream of Me


*หมายเหตุ*


โปรดอย่าจำสับสนกับหนังชื่อคล้ายกันอย่าง Repo Man (1984) หนังคัลต์ที่นำแสดงโดย Emilio Estevez สมัยยังเอ๊าะซะล่ะ แต่ถ้าเกิดหยิบผิดมาล่ะก็ ดูไปเหอะเพราะเรื่องนี้ก็ถือเป็นหนังคัลต์คลาสสิคอีกเรื่องหนึ่งเลยนะจ้ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น