วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

The Legend Is Born: Ip Man (2010): ก่อนจะมาเป็นปรมาจารย์ยิปมัน


The Legend Is Born: Ip Man (2010) :
เป็นเพราะว่าเฮียดอนนี่ เยน สวมวิญญาณท่านอาจารย์ยิปมัน วาดลวดลายมวยหย่งชุนอย่างเมาแม้วจนคอหนังพากันติดอกติดใจกันเป็นแถว เล่นเอาชื่อเสียงของท่านอาจารย์และมวยหย่งชุนโด่งดังขึ้นมาในวงกว้าง ทำให้หลายคนถึงขนาดลงทุนแห่ไปเรียนมวยนี้กันเลยก็มี และทำให้ผู้สร้างหนังหลายรายหันมาสนใจที่จะสร้างหนังที่เกี่ยวกับท่านอาจารย์ ดังนั้นเห็นทีเราคงจะได้ดูหนังเกี่ยวกับอาจารย์เขาอีกเยอะ เหมือนที่ยุคหนึ่งเคยนิยมสร้างหนังเกี่ยวกับ หวงเฟยหง ออกมานั่นแหล่ะ


โฉมหน้าท่านอาจารย์ตอนหนุ่มฟ้อ
ถ้าติดตามข่าวสารในวงการหนังมาบ้างก็จะพอทราบว่าตอนนี้นอกจากเวอร์ชั่นของเฮียเยนแล้ว ยังมีสร้างออกมาอีกสองเจ้า(เป็นอย่างน้อย)คือเวอร์ชั่นของ หว่องกาไว ที่ได้ เหลียงเฉาเหว่ย มาสวมบทเป็นท่านอาจารย์(เอิ่ม...) และเวอร์ชั่นนี้ที่ขอย้อนไปเล่าเรื่องราวของท่านในช่วงตั้งแต่ยังเด็กยันหนุ่มบ้าง (คือระหว่างปี ค.ศ.1905-1929) ว่าไปยังไงมายังไงท่านถึงได้เก่งและเก๊กมาดนิ่มอย่างที่เราเห็นในหนังเวอร์ชั่นเฮียเยนนั่นเอง


สาวๆ สุดน่ารักก็มีมาให้ดูกัน
เวอร์ชั่นนี้ได้ โตหยูฮัง (ที่มองเผินๆ หน้าก็คล้ายๆ เฮียเยนอยู่นะ)ที่เคยคลุกคลีตีโมงกับหนังยิปมันมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว มารับบท อ.ในช่วงหนุ่มแน่น และยังพ่วงมาด้วยนักแสดงหน้าเดิมจากยิปมันเวอร์ชั่นก่อนมาตั้งหลายคนแหน่ะ(แต่มาเล่นคนละบทกับเวอร์ชั่นเดิมเน้อ) ทั้งยังมีนักบู๊รุ่นเดอะอย่าง หยวนเปียว ที่ขอมาบู๊กับเขาด้วย ทว่าจุดขายเด็ดที่สำคัญที่สุดคงจะไม่พ้นการที่หนังได้ลูกชายคนโตของท่านอาจารย์อย่างท่านปู่ ยิปชุน มารับบทอาจารย์คนที่สองของ อ.ยิปมันในหนังด้วย(เป็นอาจารย์ของพ่อตนเองซะงั้น อิอิ)


ลูกชายของท่านอาจารย์ที่ยังเตะปี๊บดังก็มาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วย
ก่อนอื่นเลยคงต้องพูดถึงพระเอก โตหยูฮัง ที่ถึงจะไม่ค่อยเป็นที่คุ้นหน้าจากคอหนังนัก(เพราะเล่นเป็นตัวประกอบประเภทลูกน้องโจรมาโดยตลอด)แต่ก็รับบทท่านอาจารย์ได้อย่างทะมัดทะแมงดูเข้าท่าดีทีเดียว ทว่าคงจะไม่ถึงขั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจใช่เลยและช่วยให้หน้าหนังดูมีราศีขึ้นแบบในรายของเฮียเยนหรอกนะ หนังเล่าเรื่องไปแบบเรื่อยๆ คิวบู๊ก็ดีพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงขนาดดูเจ๋งและสดเท่าเวอร์ชั่นก่อน (หลีกเลี่ยงที่จะนำไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเฮียเขาไม่ได้จริงๆ) แฟนเก่าๆ ของ หงจินเป่าและหยวนเปียวคงจะดีใจที่ได้เห็นทั้งสองคนมาปะมือกันบนจออีกครั้ง ในขณะที่แฟนๆ ของหนังเวอร์ชั่นเฮียเยนก็สามารถดูเวอร์ชั่นนี้เพื่อเติมเต็มรายละเอียดเรื่องราวชีวิตของท่านอาจารย์ให้สมบรูณ์มากขึ้นไปอีกได้ด้วย
  • น่าดูเพราะ: แฟนๆ หนังอาจารย์ยิปมัน ยังคงดูสนุกได้อยู่ แถมได้รู้เรื่องราวของท่านมากขึ้นด้วย
  • ไม่น่าดูเพราะ: คิวบู๊ไม่สด ไม่แหล่ม เท่าเวอร์ชั่นเฮียเยน และเนื้อเรื่องธรรมดาออกแนวหนังทีวีไปนิดล่ะมั้งเนี่ย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น