Transformers: Dark of the Moon (2011): อเมริกาโชว์เคส

Transformers: Dark of the Moon (2011):

และแล้วก็จบไตรภาคไปจนได้ สำหรับศึกหุ่นยนต์ตีกัน ที่ยกพวกกันไปถล่มโรงหนังทั่วโลกโกยเงินเข้ากระเป๋าผู้สร้างไปเกือบสามพันล้านเหรียญ (แค่ภาคนี้ภาคเดียวก็ทำเงินไปพันล้านเหรียญแล้ว) เล่นเอาร่ำรวยกันไปเป็นแถว และส่งอานิสงส์ผลบุญให้เสี่ย Michael Bay ผกก.จอมระเบิดภูเขาเผากระต๊อบยังคงติดโผ ผกก.หนังทำเงินแห่งยุคอีกต่อไปสักพัก

พระเอกเรากำลังวิ่งหูตูบ

ส่วนพล็อตเรื่องภาคนี้ก็คงไม่ต้องเล่าให้มากความ เพราะส่วนใหญ่คงจะดูกันมาหมดแล้ว และมันก็ไม่มีอะไรมากกว่าการยกพวกตีกันของหุ่นยนต์ แต่ที่น่าสนใจคือการเปลี่ยนนางเอกจากหนู Megan Fox (ที่โดนปลดกลางอากาศเพราะเผลอไปพูดจาลบหลู่ทั่น ผกก.Bay ออกสื่อ) มาเป็นหนู Rosie Huntington-Whiteley นางแบบสาวก้านยาวจากอังกฤษ ที่หลายคนติงว่าเธอสวยเซ็กส์สู้หนู Fox ไม่ได้ แถมหน้าตายังเหมือนกระเทยได้อีกต่างหาก (ปานนั้น) ส่วนการแสดงนั้น ในหนังเสี่ย Bay เขาคงไม่ขออะไรมากนอกจาก เอิ่ม..แค่ทำหน้าที่สวยก็พอแล้วล่ะเนอะ

มีแต่แฟนสวยเอ็กซ์นะพระเอกเรา

ภาคที่แล้วอัดฉากวินาศสันตะโรมาจนเฝือ และเป็นเหมือนหนังแสดงแสนยานุภาพและโฆษณาขายอาวุธของอเมริกาไปกลายๆ ซะงั้น มาภาคนี้ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาโฆษณาแฝงกันแบบเห็นๆ เช่นเดิม (กระดาษดับเบิ้ลเอของบ้านเราก็ยังมากับเขาด้วย) แต่ก็ยังถือว่าดูสนุกดูดีกว่าภาคก่อนเยอะ และมีฉากเด็ดๆ ให้เห็นพอสมควร โดยเฉพาะในด้านเอฟเฟกต์ฉากวินาศสันตะโรทั้งหลาย ที่ดีเด่นได้โล่ระดับเต็มสิบได้สิบสามไปเลยเหมือนภาคที่ผ่านๆ มา ส่วนด้านเรื่องราว บท หรือการเล่าเรื่องนั้นก็เป็นไปในสไตล์หนังเฮียเขาล่ะ คือดูเอามันส์ อย่าคิดมาก เดี๋ยวจะปวดไมเกรนเอา อิอิ

โลกนี้ก็รักนะแต่รักเธอมากกว่า

ดังนั้นจะมุ่งตำหนิเสี่ย Bay ว่าชอบทำหนังออกมาล้น แย่ ฉาบฉวย บู๊ล้างผลาญ โปรอเมริกา หรือไม่ประเทืองปัญญานั้นก็ดูจะไม่ค่อยแฟร์กับแกสักเท่าไหร่นัก เพราะจะว่าไปแล้ว ทุกวันนี้จะมี ผกก.สักกี่คนที่ทำหนังแนวระเบิดภูเขาเผาเพิงหมาแหงนสเกลใหญ่ระดับนี้ได้เหมือนแก ดังนั้นทำได้ขนาดนี้ก็ให้เครดิตแกบ้างเถ๊อะ คือถ้าเรารู้ตัวว่าคาดหวังอะไรจากหนังของแกได้และอะไรที่คาดหวังไม่ได้ แล้วสนุกกับสิ่งที่แกทำได้ดีให้เต็มที่ ก็จะสามารถดูหนังของแกได้อย่างแฮปปี้ขึ้นมาเยอะ สบายใจ วินๆ กันทั้งสองฝ่ายจริงมั้ย?

สองหนุ่มกำลังยืนตะลึงกับความสวยเซ็กส์ของนางเอก

สำหรับหนังไตรภาค Transformers นี้นอกจากจะสร้างให้ดูเอามันส์แล้ว ก็ยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง ประกาศศักดา (และสร้างภาพ) ของอเมริกา ว่าประเทศข้าสวดยอดแค่ไหน เพราะมีให้เห็นทั้งแสนยานุภาพทางทหาร ความหรูหราฟุ่มเฟือย (อย่างการโชว์รถสวยๆ แพงๆ) ตึกรามบ้านช่องความเป็นอยู่สุดหรู และยังแสดงให้เห็นความภาคภูมิใจของชาวมะกัน ที่ขอเป็นฮีโร่แห่งโลก ที่พร้อมจะลุกขึ้นต่อกรกับหุ่นยักษ์หรือเหล่าร้ายชนิดบ่ยั่น และนี่ล่ะคือตัวอย่างของการเผยแพร่วัฒนธรรม สร้างภาพ ผ่านสื่อภาพยนตร์ของอเมริกาที่เด่นชัดที่สุดอีกเรื่องหนึ่งแห่งยุคเลยจ้า!

• + งานสร้างยอดเยี่ยม ดีหนึ่งประเภทหนึ่ง บู๊กันแหลกลาญ ดูกันเพลินๆ ไม่ต้องคิดมาก
  
• - หนังของเสี่ย Bay ย่อมเป็นหนังที่ไม่ควรคาดหวังคุณภาพระดับขวัญใจนักวิจารณ์อยู่แล้วขอบอก
  

*ช่วงเพลงในหนัง*

Linkin Park (ลิงกินผัก) ยังคงตามมาทำเพลงขายให้กับหนังอีกครั้ง

ภาคนี้วง Linkin Park ก็ยังคงตามมาทำเพลงขายให้หนังเหมือนเช่นสองภาคที่ผ่านมา โดยภาคนี้พวกเขามอบเพลง Iridescent ซึ่งมีจังหวะกลางๆ นุ่มนวล เต็มไปด้วยความหวัง ท่วงทำนองไม่กร้าวเท่าเพลงจากสองภาคแรก ซึ่งก็ติดหูฟังเพราะฟังเพลินดีไปอีกแบบ ส่วนเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มซาวน์แทร็คก็คัดกันมาแต่เพลงร็อคโดนๆ ของวงดังๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคไปยันเมทัล ชนิดที่ว่าหนังฮิตแล้วเพลงก็ยังฮิตตามไปด้วยแน่นอน ว่าแล้วเราก็มีมาให้ฟังกันด้วยจ้า

MP3: Linkin Park - Iridescent

MP3: My Chemical Romance - The Only Hope for Me Is You

MP3: Paramore - Monster

(ท่านสามารถดาวน์โหลดอัลบั้มซาวน์แทร็คชุดนี้ไปฟังโดยการคลิกที่รูปด้านบน)