หนังแนวเชือดๆๆ เรื่องนี้มาพร้อมกับคาแร็คเตอร์ฆาตกรโรคจิตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่พอสมควร แต่ที่เด็ดดวงที่สุดคงจะเป็นงานด้านเมคอัพเอฟเฟกต์ที่เจ๋งเกินหน้าหนังสยองเกรดบีทั่วๆ ไป ซึ่งทั้งนี้คงเป็นเพราะหนังมี ผกก.เป็นช่างเมคอัพเอฟเฟกต์ที่ช่ำชองในวงการอย่าง Robert Hall ที่เคยมีผลงานเมคอัพในหนัง Quarantine (2008) และหนังดังๆ อีกหลายเรื่องนั่นเอง
อยู่ๆ สาวนิรนาม (Bobbi Sue Luther) ก็ตื่นขึ้นมาและพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในโลงศพ เมื่อดิ้นรนจนออกมาจากโลงได้ก็พบว่าตนอยู่ที่โรงฌาปณกิจแห่งหนึ่ง ในขณะกำลังโทรแจ้งตำรวจ จู่ๆ ชายหัวโล้นในชุดดำที่สวมหน้ากากโลหะรูปกระโหลกก็โผล่มาจู่โจมเธอ แต่เธอก็หนีไปได้โดยมีชายชุดดำคนนั้นตามเช็ดตามล้างเธอตลอดทั้งเรื่อง ชนิดที่ว่าทุกคนที่เธอไปขอความช่วยเหลือเนี่ยไม่ได้ตายดีสักคนเลย ทำไมมันถึงตามล่าเธอ? เธอเป็นใครกัน? อันนี้ก็ต้องหาคำตอบจากหนังกันเอาเองเน้อ
ฉากแหว่ะทำได้แหว่ะชนิดที่ไม่เสียชื่อ ผกก.
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าหนังมีดีตรงฉากแหว่ะทั้งหลายที่ทำออกมาได้ฮาร์ดคอร์ดีแท้ อย่างเช่นฉากปืนลูกซองลั่นใส่หัวกระจุย ที่ทำให้เห็นกันแบบจะๆ ชนิดที่ว่าแฟนหนังแนวนี้คงได้ซู้ดปากด้วยความพอใจแน่ และที่่น่าเซอร์ไพรส์เล็กๆ คือหนังยังได้นักแสดงที่พอจะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างคุณ Lena Headey (300 [2007]) และคุณ Johnathon Schaech (Quarantine [2008]) มาร่วมแจมในบทรับเชิญชนิดที่ว่า "มาทำไมฟะ?"ด้วย (ซึ่งก็เดาว่าคงเป็นการมาช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในฐานะเพื่อนที่เคยร่วมงานกันกับ ผกก. มาก่อน)
เจ๊ราชินีจากเรื่อง 300 (2007) ก็มากับเขาด้วย
แต่ด้วยความที่เป็นหนังเกรดบีเลยไม่ต้องคาดหวังอะไรกันมาก พล็อตเนี่ยไม่ต้องสืบเลย มีหลายสิ่งหลายอย่างในหนังที่ไม่น่าจะกระทำกันตามความน่าจะเป็นซึ่งดูแล้ว อาจรู้สึกเป็นที่ขัดใจ โดยเฉพาะจุดจบของตัวโกงที่..เอิ่ม ทำไปได้
*ถึงจะโหดแต่ห่วยแบบนี้ กระนั้น ผกก.ก็ประกาศสร้างเป็นไตรภาคแล้วเน้อ*
- +มีฉากแหว่ะที่โหดสะบัดถูกใจคอหนังแนวนี้แน่นอน
- - นอกนั้นห่วยหมดทุกองก์ประกอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น