ภาคแรกที่ออกมาในปี 2009 นั้นฮิตในหมู่คอหนังสยองขวัญซะ ทั้งๆ ที่ตัวหนังนั้นเข้าขั้นห่วย (แต่มีงานด้านเมคอัพเอฟเฟกต์สยองระดับดีหนึ่งประเภทหนึ่ง) ผกก.Robert Hall เจ้าเก่าเขาก็เลยประกาศสร้างออกมาเป็นไตรภาคซะเลย (ตามฟอร์ม) และนี่ก็คือภาคสองที่มีดีกรีความโหดเลือดสาดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาคแรกเลยล่ะ ขอบอก
มันกลับโหดมาอีกครั้ง!!
หนังเดินเรื่องต่อจากตอนจบของภาคแรกทันที โดยปรากฏว่าไอ้โล้นซ่าหน้ากากโลหะดันไม่ถึงที่ตายเพราะมีกลุ่มคนชุดดำจำนวนหนึ่งรีบมานำตัวมันไปรักษาพยาบาลจนกลับมาฟิตปั๋งดึ๋งดั๋ง และพร้อมที่จะออกไปลั้นลาเชือดโหดเหล่าคนหน้าตาดีแต่ดวงกุดอีกครั้งหนึ่ง ให้เป็นที่ม่วนซื่นโฮแซวของบรรดาคอหนังจอมซาดิสม์ไปตามๆ กันเลยทีเดียวเชียวล่ะงานนี้
สาวสวยคือเหยื่อชั้นดีของไอ้บ้าโรคจิตทั้งหลาย
หนังภาคนี้ยังคงโดดเด่นโดดเด้งตรงงานด้านเมคอัพเอฟเฟกต์ที่อยู่ในขั้นสุดยอดของ ผกก.เขา เพราะเต็มไปด้วยฉากโหดจะๆ ระดับฮาร์ดคอร์ได้ใจคอซาดิสม์เป็นอย่างยิ่ง แถมยังมีฉากโชว์เทพสยองกันลองเทคให้ได้ซูฮกอีกต่างหาก ส่วนนักแสดงก็เกณฑ์ที่หน้าตาคุ้นๆ (แต่ไม่ดัง) มาหลายคน อาทิ ราชินีหนังสยองเกรดบีอย่าง Danielle Harris (Halloween [2007]) นั่นยังไง
ไอ้หมอนี่จะกลายเป็นตำนานอีกตัวหรือไม่หนอ?
ทว่าถึงเอฟเฟกต์ของหนังจะแจ่มแค่ไหน แต่ในส่วนของบทก็ยังออกมาธรรมดาๆ เอาแต่ฆ่าๆๆ ไร้เหตุผลสไตล์หนังเกรดบีอยู่ดังเดิม และดูเหมือนหนังจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแฟนๆ จากภาคแรกโดยเฉพาะ เพราะดำเนินเรื่องกันชนิดเดินหน้าลุยทุ่งดุ่ยๆ ไม่สนใจคนที่ไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนเลยว่าจะงงเต๊กกันแค่ไหน แต่เอาน่านี่มันหนังเชือดพันธุ์ถึกที่ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนปานซีรีย์ Lost ซะหน่อย ดังนั้นงงนิดๆหน่อยๆ ก็คงไม่ถึงกับต่อไม่ติดหรอกน่า ยังไงซะแฟนๆ หนังเชือดโหดๆ ก็คงจะถูกใจและต้องรอดูภาคสามกันต่อไปแหล่ะจ้า หุหุ
- + อีกครั้งที่งานด้านเมคอัพเอฟเฟกต์สุดโหดของตัว ผกก.ยังอยู่ในระดับสุดยอดสะใจคอซาดิสม์ดีแท้
- - ถึงหนังจะดีกว่าภาคแรก แต่ก็ยังถือว่าธรรมดาไปจนไม่สามารถโดดเด่นกว่าหนังสยองเกรดบีอีกหมื่นๆ เรื่องในท้องตลาด
*รีวิวหนังไอ้โล้นซ่าฆ่าไม่ยั้งภาคอื่นๆ ภายในบล็อก*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น