วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

300: Rise of an Empire (2014): มหาศึกสโลว์โมชั่น

300: Rise of an Empire (2014): มหาศึกสโลว์โมชั่น

     ภาคแรกที่ออกมาในปี ค.ศ.2006 กลายเป็นขวัญใจมหาชนคนดูหนังซะขนาดนั้น หลายปีผ่านมา ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆ ก็มีภาคต่อนี้ออกมาให้ดูกันอีก ซึ่งหลายคนก็ได้แสดงอาการยี้ใส่แต่เนิ่นๆ ด้วยเห็นว่าไม่มีเหตุอันควรใดๆ ที่จะทำภาคสอง (นอกจากเงิน) เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ว่าในหนัง 300 พวกพระเอกน่ะตายหมดแล้ว (ขอโทษที่สปอยล์สำหรับบางคนที่ยังไม่ได้ดูนะ อิอิ)

     แต่ช้าก่อน ผู้สร้างเขาไม่ได้กะทำภาคต่อออกมาแบบหวังตีหัวเข้าบ้าน เอาชื่อ 300 มาหากินซะอย่างเดียวจนไม่สนใจอะไร เพราะจริงๆ แล้วภาคนี้ก็มีเพิ่มมุมมองทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้านหนึ่งของมหาสงครามครั้งโน้นมานำเสนอ ส่วนเรื่องราวนั้นจะเกิดขึ้นคู่ขนานกันไปกับภาคแรก โดยหันมาว่ากันถึงฝ่ายกรีกที่ต้องทำยุทธนาวีกับฝ่ายเปอร์เซียบ้างล่ะ ซึ่งกำลังพลของพวกเขาก็มีจำนวนเพียงน้อยนิดหากเทียบกับฝ่ายตรงข้าม เรียกว่าตกเป็นเบี้ยล่างไม่ได้ดีไปกว่าเหล่าทหารสปาร์ตั้น จาก 300 สักเท่าไหร่เลยล่ะ

     แน่นอนที่จุดขายเด่นๆ ของหนังคือยังคงเป็นฉากบู๊มันส์ๆ โหดๆ เลือดซีจีสาด เน้นขายสไตล์ โชว์สโลว์โมชั่นเท่ๆ สวยๆ ซึ่งแม้ทุกวันนี้อะไรแบบนี้จะถูกลอกสูตรนี้ไปใช้กันจนเกร่อแล้ว แต่ยังดีที่ในหนังบรรดาฉากบู๊ส่วนใหญ่ยังถูกออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจอยู่

     สิ่งที่ขาดไปจากภาคนี้ แน่นอนก็คือความรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับบรรดาฉากการรบ ที่ทุกวันนี้มีให้เห็นกันจนเฝือ แทบจะไม่หือไม่อือกันแล้ว ไม่เหมือนกับในสมัยที่ภาคแรกออกฉาย และในด้านอารมณ์เสียดสี อารมณ์ตกเป็นรองของฝ่ายพระเอกที่ยังถูกนำมาเน้นได้ไม่ค่อยชัดเจนจนคนดูต้องคอยลุ้นเอาใจช่วยเหมือนในภาคแรก

     สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องย่อมต้องเป็นแม่สาว Eva Green ที่ทั้งสวย เท่ แกร่ง โหด เซ็กซี่ มีเสน่ห์ดึงดูดสุดๆ เธอเป็นตัวแทนของพลังหญิงที่ถูกขับเน้นให้สามารถถ่วงดุลอำนาจกับเหล่าเพศชายแมนๆ ทั้งหมดทั้งปวงในเรื่องได้อย่างสมศักดิ์ศรี เรียกได้ว่างานนี้ถ้าไม่มีเธอสักคนแล้วล่ะก็ หนังคงจะกร่อยลงไปเยอะเลยทีเดียว

     แน่นอนว่าหนังคงไม่ดีเทียบเท่าภาคแรกอยู่แล้ว แต่ก็ต้องบอกเลยว่าภาคนี้ไม่ได้ทำให้ภาคแรกต้องเสียชื่อแต่อย่างใด เพราะสามารถยึดอกพกมีดของตนมาตั้งหลักบู๊ได้อย่างไม่เสียฟอร์ม ทั้งยังสามารถแทรกตัวเองเข้ากับเรื่องราวในภาคแรกได้แบบเนียนๆ เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ได้เป็นเอกเทศแยกออกจากกันเหมือนหนังคนละม้วนเช่นหนังภาคต่อเรื่องอื่นๆ ทั้งยังดูสนุก ให้ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ (แม้อาจจะไม่ตรงเป๊ะๆ) อีกต่างหากแหน่ะ





ดูสนุก ดูเพลิน ไม่ทำให้ต้นฉบับต้องมัวหมอง ให้ 7/10 ไปเลยโลด



ปล.การได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอ IMAX ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้อีกเยอะ แต่รอบที่เราดู รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหนังโดนหั่นไปอย่างน้อย 2 ฉาก (โดยเฉพาะฉากเลิฟซีน อดเลย! :P) ซึ่งถ้าจะทำหมอกลงแบบในภาคแรกซะ เราว่ายังจะโอเคซะกว่าที่จะตัดฉับออกไปดื้อๆ แบบนี้ เพราะทำให้เสียความต่อเนื่องไปเยอะทีเดียว ที่โรงอื่นๆ รอบอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกันใช่ไหม วานบอกที?






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น