วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

The Grey (2012): หนีตายมัจจุราชเขี้ยวแหลม


The Grey (2012) :
ดูเหมือน ผกก.Joe Carnahan จะติดอกติดใจในการร่วมงานกับน้า Liam Neeson เข้าซะแล้ว หลังจากที่บู๊เถิดเทิงด้วยกันมาจาก The A-Team (2010) คราวนี้พวกเขาเกี่ยวก้อยลั้นลากันมาอีกครั้งในหนังผจญภัยหนีตายสุดระทึกท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน อุณหภูมิอันหนาวเหน็บแต่แฝงไปด้วยภยันตรายนานับประการ


เมื่อคนกับหมาป่าต้องมาฉะกัน
John Ottway (น้า Neeson) มีหน้าที่คอยจัดการกับเหล่าหมาป่าที่ออกเพ่นพ่านคุกคามชีวิตบรรดาพนักงานบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ อลาสก้า และในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางกลับบ้านโดยเครื่องบินก็ดันเกิดอุบัติเหตุเครื่องตกที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งยังดีที่มีคนรอดชีวิตมาได้จำนวนหนึ่ง แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งนี้เท่านั้น เพราะพวกเขายังต้องเผชิญกับอุหภูมิติดลบอันหนาวเหน็บและฝูงหมาป่ากระหายเลือดที่คอยวนเวียนรอขย้ำคอพวกเขาอยู่ ซึ่งพระเอกเราและพวกพ้องก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาทางเอาชีวิตรอดจากนรกเยือกแข็งแห่งนั้นกลับไปพบครอบครัวของตนอีกครั้งให้จงได้


งานนี้เล่นเอาน้า Liam ถึงกับต้องนั่งกุมขมับ
ผกก.Carnahan เขาเก่งอยู่แล้วในการทำหนังโม้แหลกให้ออกมาดูจริงจังสุดระทึก และสำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกัน ที่มาพร้อมด้วยบรรยากาศจริงจัง ไม่มีเล่นหัว แม้จะเป็นเรื่องราวการเอาชีวิตรอดท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรกับภูมิอากาศสุดหฤโหดอย่างที่เราเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว แต่หนังก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดระทึกมากมายมากำนัล โดยเฉพาะฝูงหมาป่าที่เป็นตัวร้ายประจำเรื่อง ที่ก็ออกมาร้ายกาจ น่าเกรงขามโคตรๆ (เก่งกล้าเกินหมาป่าไปนิด) ส่วนน้า Liam ก็สามารถพาอารมณ์ดราม่ามาขับเคลื่อนเรื่องราวแอ็คชั่นลุ้นฉี่เหนียวในหนังได้ดีอย่างที่แกถนัดอยู่แล้ว


เห็นแต่หิมะขาวโพลนกันทั้งเรื่อง
ทว่าสิ่งที่อาจจะแบ่งคนดูออกเป็นสองฝั่งอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างชอบไม่ก็เกลียดไปเลยก็คือตอนจบของหนังที่เป็นปลายเปิด ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ถ้าในเทรลเล่อร์ไม่ดันสร้างความคาดหวังล่วงหน้าให้แก่คนดูไว้ซะเยอะสุดๆ แล้ว (ดูจบแล้วประมาณ "อะไรวะ เอางี้เลยเหรอ?!") และการกระทำของพวกพระเอกที่ชวนให้ขัดใจในหลายๆ จุด (อย่างเช่นการที่พวกพระเอกไม่ยอมหาอาวุธพกติดตัวทั้งๆ ที่รู้ว่ามีฝูงหมาป่าตามขย้ำอยู่) แต่โดยรวมแล้วก็นี่ก็ยังเป็นหนังที่ชวนระทึกอยู่ดี ซึ่งจะชอบหรือไม่นั้นก็แล้วแต่บุคคลไปว่าจะซื้อกับฉากจบแบบนี้หรือไม่

ทีนะที่ยังก่อไฟให้หายหนาวได้บ้าง
เห็นเรื่องราวในหนังแล้วก็นึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาทันใด นั่นก็คือ "Only the strongest will survive" อันเป็นกฏแห่งความอยู่รอดของธรรมชาติที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งกฏนี้ไม่ได้จำกัดตนเองไว้แค่ในป่าเท่านั้น ในสังคมเมืองทุกวันนี้ก็ยังใช้กฏนี้อยู่เช่นเดียวกัน แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงอำนาจ สติปัญญา รูปโฉม ฐานะ ฯลฯ อีกด้วย ดังนั้นอย่าได้แปลกใจเลยว่าทำไมคนเราถึงได้แสวงหาสิ่งเหล่านี้กันนัก ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะสัญชาติญาณแห่งความอยู่รอดนั่นเอง...
  • + หนังแนวหนีตายสุดระทึก ที่ทำออกมาได้มีลุ้น จริงจัง
  • - จบแบบชวนเหวอ มีหลายจุดที่ชวนให้คนคิดมากหงุดหงิด





*รีวิวหนังของน้า Liam Neeson เรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น