วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Remember Me (2010): เรื่องรักๆของคนอมทุกข์

Remember Me (2010) :
ณ พ.ศ.นี้คงจะไม่มีหนุ่มคนไหนที่ฮอตฮิตครองใจสาวน้อยสาวใหญ่เกือบทั่วโลกเท่ากับพ่อหนุ่มแวมไพร์หน้าว่อก Robert Pattinson จากหนังชุด Twilight อีกแล้ว ดังนั้นผลงานหนังของเขาทั้งใหม่และเก่าย่อมต้องได้รับความสนใจจากแฟนๆ เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็รวมถึงเรื่องนี้อันเป็นหนังใหม่เรื่องแรกของเขาที่ไม่ใช่อีกภาคของหนังชุด Twilight ที่สร้างออกมาติดๆ กันซะในช่วงสองปีมานี้ (น้ำขึ้นให้รีบวิด)


คนมันหน้าตาดีสาวน้อยสาวใหญ่ก็พากันรุมล้อมเป็นธรรมดา
เมื่อหนุ่ม Tyler (Pattinson) และสาว Ally (Emilie de Ravin จาก The Hills Have Eyes [2006]) ได้มาเจอะกัน พวกเขาก็ตกหลุมรักกันในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสองคนนี้มีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกัน คือเคยสูญเสียผู้อันเป็นที่รักของตนไปเหมือนกัน มีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์คล้ายๆ กัน และต่างมีปัญหากับ'พ่อ' ของตนเช่นกัน ดังนั้นเมื่อคุณพ่อไม่ปลื้มซะแบบนี้ ความรักของทั้งคู่คงจะไม่ได้โปรยไปด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน แฟนๆ ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าบทสรุปความรักของพ่อหนุ่มหน้ามนคนอมทุกข์ของเราจะจบลงยังไงล่ะเนอะ


พระนางกำลังชวนกันเล่นสงกรานต์ในห้องน้ำ
สำหรับสาวๆ ที่หวังจะไปดูหนุ่ม Pattinson ในหนังรักหวานซึ้งสุดจี๊ดก็คงจะต้องผิดหวังกันแน่ เพราะจริงๆ แล้วนี่เป็นหนังดราม่าเกี่ยวกับวัยรุ่นมีปมประเภทพ่อไม่เข้าใจผม/หนูซะมากกว่า ในขณะที่กลับเสนอเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวได้อย่างไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไร โดยเฉพาะบทสรุปของหนังที่ไม่ว่าจะเคยอ่านสปอยล์หรือไม่เคยมาก่อนก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกทางอารมณ์ที่แตกต่างกันในยามดูหนังแต่ประการใด เพราะว่าหนังไม่สามารถบิ้วท์อารมณ์จนไปถึงจุดที่จะกระทบใจในท้ายที่สุดได้


ทำไงดีพ่อไม่เข้าใจเราสองคนเลย(แต่เราเคยเข้าใจพ่อบ้างมั้ย?)
แม้พ่อหนุ่ม Pattinson จะทำหน้าที่ของตนได้อย่างดี แต่ดูเหมือนหนังจะเทน้ำหนักไปที่ตัวเขามากจนเกินไป ซึ่งก็มาในมาดหนุ่มเก็บกดที่มักจะระเบิดอารมณ์ออกมาบ่อยๆ จนเห็นแล้วก็ชวนให้เกิดคำถามตลอดว่า'เป็นอะไรของนายหนักหนาเนี่ย?'ซะมากกว่าที่จะได้ใจคนดูไปครอง ในขณะที่ปมของนางเอกที่หนังกล่าวถึงตั้งแต่แรกก็กลับถูกไม่ค่อยถูกนำมาพูดถึงซะงั้น คนดูก็เลยอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอินไปกับพระนางได้เท่าที่ควร พอมาเจอกับความยาวของหนังที่กินเวลาเกือบสอง ชม.แบบนี้เลยรู้สึกว่าจะอืดๆ เอื่อยๆ ไปหน่อยมั้ยเนี่ย


พระเอกเรากำลังมองเครื่องบินในมุมมองที่น่าตื่นตา(!?)
แต่เอาน่ายังไงหนังเรื่องนี้ก็ไม่ไร้สาระ และไม่เอาใจตลาดกะขายความดังของพระเอกจนน่าเกลียด ซึ่งอันนี้ก็ต้องชื่นชมพระเอกเราด้วยที่มักจะหาบทประเภทท้าทายๆ เล่นอยู่เสมอ ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเล่นหนังขายๆ เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว(แต่อนาคตก็อีกเรื่องหนึ่ง) ส่วนสำหรับคนที่กำลังคิดว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจฉันเอาซะเลย บางทีก็น่าจะลองนึกย้อนไปในมุมกลับกันบ้างว่า 'แล้วเราล่ะเคยเข้าใจท่านบ้างมั้ย?' พ่อหนุ่ม Pattinson เขาฝากบอกมาจ้า ^^
  • น่าดูเพราะ: เหมาะสำหรับแฟนๆ ของหนุ่ม Pattinson ที่อยากเห็นเขาในบทบาทอื่นๆ บ้าง และใครที่ชอบดูหนังดราม่าเกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ถือเป็นหนังที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
  • ไม่น่าดูเพราะ: ไม่ใช่หนังรักเอาใจตลาด หรือกะขายความหวานซึ้ง หนังมีความตั้งใจดีแต่ทำออกมาได้ไม่ถึงจุดที่ควรจะเป็น เลยออกมาค่อนข้าง เฉยๆ เอื่อยๆ ไปอย่างน่าเสียดาย



*ช่วงเพลงในหนัง*

Sigur Rós
ด้วยเพราะเป็นหนังดราม่าที่ไม่ได้เน้นความรื่นรมย์ เพลงในหนังก็เลยไม่ค่อยจะถูกเน้นนัก แต่ก็ยังอุตส่าห์มีโดดเด่นออกมาจนได้นั่นก็คือเพลง Andvari ของวงสุดแนวจากไอซ์แลนด์อย่าง Sigur Rós ที่เราจะได้ยินกันในฉากเลิฟซีน อันที่จริงอัลบั้มซาวน์แทร็คของหนังเรื่องนี้ยังมีเพลงดีๆ อีกแยะ เราก็เลยเลือกบางเพลงมาฝากกันซะเลยจ้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น