She's Out of My League (2010): ดอกฟ้ากับนายกระจอก(ไม่ทันกินน้ำ)

She's Out of My League (2010) :
หลังจากที่หมั่นรับบทประเภทเพื่อนพระเอกมาตลอดจนเริ่มเข้าตาคอหนัง ในที่สุดพ่อหนุ่มหุ่นกะหร่อง Jay Baruchel (Tropic Thunder [2008]) ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นพระเอกเต็มตัวกับเขาเสียทีในหนังโรแมนติคคอมเมดี้เรทอาร์เรื่องนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นการประเดิมบทพระเอกได้ไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับหนุ่มชาวแคนาดาวัย 28 ขวบรายนี้

เจอสาวสวยแบบนี้มายิ้มหวานให้เป็นใครก็คงจะเพ้อแหล่ะ

หนังตอบสนองความฝันของหนุ่มๆ เต็มที่ เมื่อยอดชายนาย Kirk (Baruchel) จนท.TSA ประจำสนามบินนานาชาติพิตส์เบิร์ก ผู้เป็นทุกอย่างที่อยู่ห่างไกลจากคำว่า 'ผู้ชายในฝัน' เพราะไม่ว่าจะรูปลักษณ์ การงาน หรือแม้แต่คนในครอบครัวที่ดูช่างจะพร้อมใจกันทำให้เขารู้สึกตัวว่าเป็นพวกขี้แพ้ดีๆ นี่เอง ซึ่งดูเหมือนเขาจะยอมรับความคิดนี้เกี่ยวกับตัวเองเป็นอย่างดีซะด้วย โดยจัดการให้คะแนนตัวเองเสร็จสรรพคือถ้าเต็มสิบ เขาก็คงได้ไม่ถึงห้าคะแนนแน่ๆ

ลูกคู่ของพระเอกและนางเอก

แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ดันได้รู้จักมักจี่กับสาวฮ็อตคะแนนสิบเต็มที่ชื่อ Molly McCleish (Alice Eve จาก Sex and the City 2 [2010]) โดยบังเอิญ ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะตระหนักดีว่าตนเป็นเหมือนหมาวัดเห่าเครื่องบิน แต่ไปๆ มาๆ เขาก็มารู้ว่าสาวเจ้านั้นมีใจให้ เอาล่ะสิ งานเข้าล่ะทีนี้ แล้วเรื่องราววุ่นๆ ขำๆ ฮาๆ จึงเกิดขึ้นชนิดที่ท่านจะยิ้มไม่หุบไปกับความหรรษาที่หนังมอบให้เลยล่ะครับ พี่น้อง

ดูหน้าพระเอกก็รู้ว่าชอบสีแดงมากกวาสีเหลือง(?!)

Jim Field Smith ผกก.หนุ่มชาวอังกฤษรู้ดีว่าคนดู(วัยหนุ่มสาว)ต้องการอะไร และเขาก็ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของคนดูได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว เพราะหนังมาพร้อมอารมณ์ขันกวนๆ มองโลกในแง่บวก มุกตลกที่ไม่ทะลึ่งจนเกินไป และเพลงเพราะๆ โดนใจอีกเพียบ จนเป็นหนังสำหรับคนวัยทำงานตอนต้น(20 กว่าๆ)ที่ดูได้เพลินจริงหนอ

เวลาไปเดทกับสาวๆ โปรดอย่าแต่งตัวเหมือนบริกรร้านอาหาร(ไม่งั้นอาจเซ็งเป็ด)

แต่ว่าหนังก็ไม่สามารถทำให้เคลียร์ ประเด็น'ดอกฟ้ากับหมาวัด' ให้คนดูเชื่อเต็มเหนี่ยวได้ว่า ฝ่ายหญิงที่ดีพร้อมเช่นนี้จะมารักฝ่ายชายผู้หยองกรอดและดูเหมือนไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนทั่วๆ ไปเลยได้จริงๆ หรอ แต่ก็เอาเหอะหนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาให้ดูไปคิดมากไป ยังไงซะหนังก็ยังมีข้อคิดดีๆ ให้อยู่คือ 'ปัญหาของเราส่วนใหญ่คือ เรามักมองไปที่คนอื่นและคิดว่าคนตัวเราคงไม่ดีพอหรือไม่ควรค่าสำหรับใคร แต่จริงๆ แล้ว แทนที่จะมัวแต่คิดเช่นนั้น เราควรจะคิดให้ถ้วนถี่ก่อนว่าตัวของเรานั้นดีพอสำหรับตัวเราเองแล้วหรือไม่ เพราะตราบใดที่เรายังรู้สึกว่าเราไม่ดีพอสำหรับตัวเอง ก็คงจะไม่มีทางที่จะดีพอสำหรับใครอื่นทั้งนั้นแหล่ะเนอะ' อืม น่าคิดๆ

• น่าดูเพราะ: เป็นหนังโรแมนติกคอเมดี้ที่ดูได้เพลินๆ ยิ้มได้ตลอดเรื่อง มุกไม่ทะลึ่งจนเกินงาม และนางเอกสวยดีจริงหนอ
  
• ไม่น่าดูเพราะ: ยังเคลียร์ได้ไม่ดีนักในส่วนของความรักระหว่างพระเอกและนางเอก และแน่นอน หนังดูจะเพ้อฝันขัดใจคนซีเรียสไปหน่อยมั้ย