วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Win Win (2011): เมื่อชีวิตนี้มันห่วยเข้าวิน


Win Win (2011) :
เฮีย Paul Giamatti เป็นนักแสดงในกลุ่ม 'หน้าไม่หล่อแต่เร้าใจ' (ตรงไหน?) มือวางอันดับต้นๆ ของวงการหนังฮอลลีวู้ดยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยลีลาการแสดงอันอร่อยเหาะแซ่บหลายของแก เลยมีคอหนังคอยชื่นชมซูฮกอยู่มากมาย ซึ่งหลายปีมานี้เฮียแกก็มีผลงานเด็ดๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าส่วนใหญ่แกจะมาในฐานะนักแสดงสมทบก็ตามที แต่ขอโทษ ถึงจะเป็นตัวประกอบแต่ก็เป็นตัวประกอบไฮโซนะขอบอก (อ่ะจร้า พ่อคุ๊ณณ)

กี่เรื่องๆ ก็ยังมาด้วยผมทรงนี้
มาถึงหนังดราม่า/ตลก/กีฬาเรื่องนี้นั้น ก็ว่าด้วยเรื่องราวของ Mike (Giamatti) ทนายหน้ากลมตัวกลม ที่เปิดสำนักงานให้คำปรึกษาทางกฏหมายเล็กๆ ใน New Jersey และยังรับจ๊อบเป็นโค้ชทีมมวยปล้ำให้กับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งชีวิตส่วนตัวของเขาและผลงานของทีมนั้นก็อยู่ในภาวะห่วยเข้าวิน จนเล่นเอาเฮียหน้ามืดวิงเวียนศรีษะคล้ายจะเป็นลมทาถูๆ อยู่บ่อยๆ ดีนะที่ฟ้ายังเห็นใจ ประทานไอ้หนุ่มหัวทองผู้มีฝีปล้ำระดับพระกาฬนาม Kyle (Alex Shaffer) มาให้ อะไรๆ เลยเริ่มสดใสซาบซ่าขึ้นมาบ้าง แต่ก็เชื่อเถอะว่านี่แค่จุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ ที่กำลังจะตามมาอีกเป็นคันรถ


หนุ่มน้อยหัวทองคนนี้ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว
ถึงนี่จะเป็นหนังเล็กๆ ทุนน้อยนิดชนิดที่เรียกว่าหนังอินดี้ แต่คุณภาพกลับไม่น้อยนิดเอาซะเลย ซึ่งพอเหลือบไปเห็นชื่อ ผกก.ว่าเป็น นักแสดง/ผกก.Thomas McCarthy (The Visitor [2007]) ก็เลยถึงบางอ้อ เพราะว่าทั่นผู้นี้ทำหนังออกมาทีไรเป็นได้รับการซูฮกอย่างสูงไปซะทุกเรื่อง และหนังเรื่องนี้ก็มาด้วยอารมณ์ยิ้มๆ ขำๆ เพลินๆ กำลังดีตลอดงาน กับเรื่องราวดราม่าให้แง่คิดที่ไม่ซีเรียสจนเกินไป พร้อมด้วยบรรดานักแสดงที่เปี่ยมเสน่ห์และเต็มไปด้วยสีสันชวนฮาอีกเพียบ

นักแสดงแต่ละคนเต็มไปด้วยสีสัน
จริงอยู่ที่นี่เป็นเพียงหนังเล็กๆ กับเรื่องราวของฝรั่งบ้านๆ ที่ไม่หวือหวา แปลกใหม่ สุดยอด เด็ดสะระตี่ แต่ก็เป็นหนังที่ ดูเพลิน มีสาระ ดูแล้วฟีลกู้ดเอามากๆ เรื่องหนึ่งเลยล่ะ เอาแค่ที่หนังเริ่มต้นด้วยการให้หนูน้อยลูกสาวพระเอกอุทานแบบหัวเสียว่า 'Shit!' ได้อย่างน่ารักน่าชัง ก็เล่นเอาอดที่จะยิ้มแก้มตุ่ยและรู้สึกดีกับหนังได้ตั้งแต่วินาทีนั้นแล้วล่ะ อิอิ
  • + เป็นหนังดราม่า/ตลก ที่ดูเพลิน ฟีลกู้ด มีสาระ แฟนๆ หนังของ ผกก.Thomas McCarthy ไม่มีผิดหวังแน่จ้า
  • - ด้วยความที่เป็นหนังเล็กๆ เรื่องราวก็บ้านๆ เลยอาจไม่ค่อยดึงดูดคอหนังให้สนใจสักเท่าไหร่





*ช่วงเพลงในหนัง
*

The National
และเพราะเป็นหนังอินดี้ ก็เลยต้องมีเพลงประกอบเป็นเพลงอินดี้กับเขาด้วยถึงจะเข้าคอนเซปท์ ว่าแล้วหนังก็ได้เพลงเพราะๆ ของ The National วงอินดี้จากบรู้คลิน นิวยอร์ค ที่ชื่อ 'Think You Can Wait' ซึ่งทางวงบรรจงแต่งเพื่อหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะซะด้วย แจ่มไปโลด และอีกเพลงคือเพลงของ Bon Jovi ที่ถึงจะไม่อินดี้แต่ก็ถูกนำมาใช้ในหนังได้อย่างมีเสน่ห์ ในฉากคุณเมียพระเอกประกาศตนอย่างภาคภูมิใจว่าตนเป็นสาวกวง Bon Jovi ตัวจริงเสียงจริง เพราะเป็นคนเจอร์ซี่ด้วยกัน อิอิ น่ารักจริงนะหนังเรื่องนี้

*รีวิวหนังของเฮีย Paul Giamatti เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจภายในบล็อก *
เพิ่มรูปภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น