วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

Wrath of the Titans (2012): เทพยุทธแฟมิลี่


Wrath of the Titans (2012) :

ภาคแรกที่ออกมาในปี ค.ศ.2010 ทำเงินซะเถิดเทิงเสียขนาดนั้น ว่าแล้วทางผู้สร้างก็รีบเข็นภาคสองตามออกมาทันที โดยคราวนี้ขอเปลี่ยนตัว ผกก.เป็น Jonathan Liebesman ที่ทำหน้าที่ได้อย่างเข้าตา (นายทุน) กับผลงานชิ้นก่อนของเขาอย่าง Battle Los Angeles (2010) นั่นเองจ้า


ภาคนี้ตัวโกงตัวใหญ่กว่าภาคแรกอีก
เวลาผ่านไปจากภาคแรกสิบปี Perseus (Sam Worthington) พระเอกของเรากลายเป็นพ่อหม้ายลูกติด ละทิ้งยศถาบรรดาศักดิ์ไปใช้ชีวิตเป็นชาวประมงหาปลาจนหัวฟูไปเรื่อยอย่างสงบสุข แต่แล้วก็งานเข้าจนได้เมื่อต้องเข้าไปสะสางปัญหาครอบครัวเทพเจ้าของเขาเองที่คาราคาซังกินเกาเหลากันมาช้านาน ซึ่งงานนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพันตามฟอร์มอีกแล้วครั่บพ่อแม่พี่น้องที่รักทั้งหลาย

สองนักแสดงยอดฝีมือจากภาคแรกกลับมาอีกครั้ง
ถึงหนังภาคนี้จะเปลี่ยนตัว ผกก.แต่ยังคงมาในสไตล์เดินเรื่องเร็ว มาเร็ว เคลมเร็ว เช่นเดิม แถมยังอัดฉากแอ็คชั่น ซีจีสุดตระการตาเข้ามาเพียบ จึงออกมาดูกันได้เพลินๆ ดีแท้ และนั่นก็ยังทำให้หนังประสบปัญหาเดิมๆ นั่นคือมีเวลาเล่าเรื่องจำกัด (99 นาที) สำหรับหนังมหากาพย์ที่มีตัวละครยี่บยั่บ เรื่องราวยืดยาวแบบนี้ หนังจึงต้องพยายามเดินเรื่องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชนิดรุดหน้าเดินไปดุ่มๆ ไม่มีหันซ้ายหันขวา ไม่มีผ่อน ไม่มีพัก ในอารมณ์ระดับเดียวกันตลอด เมื่ออัดฉากแอ็คชั่นเข้ามาๆ เยอะๆ หนังจึงดูเฝือๆ ไม่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นเต้นให้คนดูไปได้ตลอดรอดฝั่ง


ลุง Bill Nighy คือตัวขโมยซีนประจำเรื่อง
ที่เพิ่มขึ้นมาจากภาคแรกคือมีอารมณ์ขันมากขึ้น ด้านบรรดานักแสดง พี่ Worthington ก็มากับหัวฟูของแก และเล่นแบบไปเรื่อยๆ เน้นออกแรงเข้าไว้ ส่วนการที่ได้นักแสดงฝีมืออย่าง Ralph Fiennes กับ Liam Neeson กลับมาอีกครั้งก็ไม่มีอะไรให้ทั้งคู่ได้วาดลวดลายมากนัก (บทบาทน้อยกว่าภาคแรกอีก) คนที่ขโมยซีนไปเต็มๆ ก็น่าจะเป็นลุง Bill Nighy ที่ถึงโผล่มาไม่นานแต่คงก็สามารถสร้างรอยยิ้มแก่คนดู ได้ใจไปเต็มๆ เลยลุง


นางเอกเปลี่ยนคนแล้วจ้า
ไอ้เรื่องบิดเรื่องราวให้เปลี่ยนแปลงไปจากตำนานนั้น เราไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เพราะด้วยความที่เป็นหนังที่มีเวลาเล่าเรื่องจำกัด คงจะเดินเรื่องตามแบบเป๊ะๆ ไม่ได้แน่ แต่หนังโดยรวมแล้วยังทำได้ไม่ค่อยโดนนัก คือถามว่าสนุกมั้ย สนุก (แต่ไม่มากนะ) เพลินมั้ย ก็เพลิน แต่ประมาณว่าดูจบแล้วก็แล้วกันไป ก็ต้องดูกันต่อไปว่าภาคหน้าจะหาเรื่องแถมายังไงอีก ก็เล่นจบแบบบอกว่าไม่มีเทพเจ้าอีกต่อไปแล้วนี่ อิอิ


ลุง Liam สะบักสะบอมทั้งเรื่อง
  • + เอฟเฟกต์ตระการตา ดูกันได้เพลินๆ พอๆ กับภาคแรก
  • - เล่าเรื่องรวบรัดแบบภาคแรก อัดฉากแอ็คชั่นจนเฝือ ดูจบแล้วก็แล้วกันไป




*รีวิวหนังของพระเอก Sam Worthington และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องภายในบล็อก*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น