คอหนังหลายคนคงจะเคยติดอกติดใจกับหนังเพลงสีสันจัดจ้านแต่สุดจะรันทดอย่าง Memories of Matsuko (2006) ของ ผกก.เท็ตซึยะ นากาชิม่า กันมาแล้ว และนี่คือผลงานล่าสุดของเขาที่แจ่มแจ๋วซะจนถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสก้าร์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมปีนี้ และก็ติดโผเข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อยหอยเสียบเสียด้วย ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ยเรื่องเนี้ย
ดูท่าทางคุณครูจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะเนี่ย
มาเรื่องนี้คุณ ผกก. ควงแขนนักร้อง/นักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง ทากาโกะ มัตสึ (Tokyo Tower: Mom and Me, and Sometimes Dad [2007]) มารับบทครูสาวที่เชื่อว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอถูกนักเรียน ม.ต้นสองคนในชั้นฆ่าตายโดยเจตนา ครั้นจะแจ้งความดำเนินคดีพวกนั้นคงรอดคุกแน่เพราะยังเป็นผู้เยาว์กันอยู่ ดังนั้นการแก้แค้นอันสุดบรรเจิดของเธอจึงได้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่การจับพวกนั้นไปแล่เนื้อเถือหนังตามอย่างหนังแก้แค้นทั่วๆ ไปหรอกนะ เพราะวิธีการของเธอนั้นแสนจะร้ายกาจกว่านั้นเยอะทีเดียว (โห!?)
งานด้านภาพอย่างกับเอ็มวี
หนังเปิดตัวขึ้นมาในชั้นเรียนกับภาพที่คุณครูสาวท่าทางใจดีผู้กำลังจะลาออก กำลังพล่ามอะไรไปเรื่อยโดยที่บรรดานักเรียนส่วนใหญ่ต่างไม่ใคร่จะมีใครสนใจ ซึ่งฉากนี้ฉากเดียวก็กินเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว และเฉลยตัวร้ายตั้งแต่ช่วงแรก ต่อด้วยการแก้แค้นของนางเอกที่ทั้งเรื่องแทบจะไม่ได้โผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย(เอ๊ะ ยังไง?) แต่หนังกลับไม่น่าเบื่อเลยสักนิด ทว่ากลับยิ่งค่อยๆ ทวีความน่าติดตามมากขึ้นทุกที ซึ่งมีแต่เรื่องชวนอึ้ง เหนือความคาดเดา และรุนแรงพอดูทีเดียวหนังเต็มไปด้วยวัยรุ่นหน้าตาน่ารัก
ถึงคุณมัตสึ จะโผล่หน้าในหนังไม่นานนัก แต่สิ่งที่เธอทำกลับมีผลกระทบตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งการแสดงของเธอ(ที่มาในสภาพหน้าตาซีดเซียวจืดชืดไร้เมคอัพ)นั้นก็แหล่มมากๆ ในทุกวินาทีที่เธอขึ้นจอในมาดครูสาวมาดนิ่งผู้เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ส่วนบรรดาเด็กวัยรุ่นวัยละอ่อนที่มีบทบาทบนจอมากกว่านั้นก็ล้วนหน้าตาดี(อันนี้ล่ะสำคัญ อิอิ) แสดงดีตามที่บทต้องการ เมื่อมาเจอกับงานด้านภาพสวยๆ สโลว์โมชั่น แนวๆ เหมือนมิวสิควีดีโอ และเพลงประกอบเพราะๆ ตามสไตล์หนังของ ผกก.คนนี้เขาล่ะ มันก็เลยเป็นอะไรที่ทำให้หนังบรรเจิดขึ้นไปอีกพอดูทีเดียวที่ไหนๆ เขาก็มีแกล้งเพื่อนแล้วถ่ายคลิป
นอกจากจะเป็นหนังแนวแก้แค้นแล้ว หนังยังเสนอภาพของปัญหาสังคมของคนญี่ปุ่น และความเป็นไปของวัยรุ่นสมัยนี้ด้วย ซึ่งไม่ว่าจะวัยรุ่นที่ไหนยุคไหนก็นะ ต้องมีปัญหากันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าวัยรุ่นในยุคไอทีเช่นนี้ต่างจากวัยรุ่นยุคก่อนๆ ก็ตรงที่มีโอกาสได้แสดงและเผยแพร่ความป่วยของตนให้สังคมได้รับรู้กันแบบง่ายๆ บนโลกออนไลน์ จนแทนที่จะมีปัญหาอยู่คนเดียว ยังสามารถหาแนวร่วมป่วยได้สบายๆ อีกด้วย - จุดเด่น: หนังดี การแสดงเด่น เล่าเรื่องได้ชวนติดตาม สะท้อนปัญหาสังคม มีแต่วัยรุ่นหน้าตาน่ารักอีกต่างหาก(อิอิ)
- จุดด้อย: ช่วงแรกเต็มไปด้วยบทสนทนา อาจทำให้หมดความสนใจในแว่บแรกที่ดู และการเล่าเรื่องอาจไม่เรียบง่ายชวนงงสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับหนังญี่ปุ่นอยู่บ้าง
*ช่วงเพลงในหนัง*
Radiohead
ไม่รู้ว่าพักหลังๆ นี้สมาชิกวงร็อคสุดเทพจากอังกฤษอย่าง Radiohead ติดใจอะไรกับหนังญี่ปุ่นนักหนา เพราะในรายของ Jonny Greenwood มือกีต้าร์ของทางวงก็ไปทำดนตรีประกอบให้หนัง Norwegian Wood (2010)มาแล้ว และสำหรับเรื่องนี้ทางวงก็อนุญาตให้นำเพลง Last Flowers จากอัลบั้ม In Rainbows มาใช้เป็นเพลงธีมประจำเรื่องอีกด้วย แถมยังมีเพลงเก๋ๆ จากศิลปินอื่นๆ อีกด้วย (เช่น The xx และ Boris) แจ่มนะเนี่ยหนังเรื่องเนี้ย
MP3: Radiohead - Last Flowers
MP3: The xx - Fantasy
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น