หนังดราม่าแนวชีวิตบัดซบเนื้อหาหนักอึ้งตามน้ำหนักตัวของนักแสดงนำเรื่องนี้น่าจะได้ไปโลดแล่นบนเวทีมอบรางวัลหนังสำคัญๆ เป็นแน่ เพราะนอกจากหนังจะสามารถสะท้อนปัญหาการทารุณกรรมภายในครอบครัวได้อย่างถึงแก่นแล้ว หนังยังมาพร้อมการแสดงอันหนักแน่นของเหล่านักแสดงมากหน้าหลายตา โดยเฉพาะหน้าใหม่วัย 26 ขวบ อย่าง Gabourey 'Gabby' Sidibe ที่รับบทสาววัยรุ่นผู้ประสบปัญหาชีวิตอันแสนบัดซบ ได้อย่างโดดเด่นสุดๆ ชนิดที่นักแสดงอาชีพบางคนยังอายเลยทีเดียว
เจออ้วนดำคนนี้เข้า อ้วนดำบ้านเราชิดซ้ายตกคลองไปเลย
หนังเล่าเรื่องของ Claireece Precious Jones (Sidibe) สาวอ้วนดำวัย 16 ที่อาศัยอยู่ในย่านฮาเร็ม นิวยอร์คในปี 1987 ซึ่งโดนพ่อแท้ๆ ของตนข่มขืนจนตั้งท้องถึงสองครั้งสองครา และยังเป็นที่รองมือรองเท้า(ตีน)ของแม่จอมซาดิสม์ของตนอีกด้วย เธอจึงกลายเป็นเด็กวัยรุ่นมีปัญหาที่ใครๆ ก็หมางเมิน หน้าตาก็บึ้งตึงตลอดเวลา แถมยังอ่านหนังสือก็ยังไม่แตกด้วยซ้ำ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่เธอทำได้คือ การจินตนาการว่าตนเองเป็นคนดังหรือนักร้อง นางแบบ ที่ใครๆ ก็รักชอบ แม้กระทั่งการจินตนาการว่าตนเป็นสาวสวยผิวขาวหุ่นดี เพื่อหลบหนีจากความเป็นจริงอันบัดซบของชีวิต กระทั่งเธอถูกเชิญออกจากโรงเรียนหลังจากตั้งท้องครั้งที่สอง(วัยรุ่นตั้งท้องคงไม่แฮปปี้แบบใน Juno ไปซะหมดหรอกนะ) แต่ยังดีที่เธอมีโอกาสได้ไปเรียน กศน.(การศึกษานอกโรงเรียน) ซึ่งที่นี่เธอได้ครูที่ดูี(แถมสวยอีกต่างหาก) อย่างคุณครู Rain (Paula Patton จาก Deja Vu [2006]) และมีเพื่อนๆ ที่เข้ากันได้ ซึ่งก็ทำให้เธอพอจะมีความหวังที่จะสู้ชีวิตต่อไปขึ้นมาบ้าง
สองคนนี้คงได้วาดลวดลายบนเวทีออสก้าร์ครั้งนี้แน่
ผกก.Lee Daniels (Shadowboxer [2005]) ทำหนังเนื้อหาหนักอึ้งเรื่องนี้ออกมาได้อย่างถึงคุณภาพ แม้จะชวนรันทดแต่ก็ไม่ฟูมฟายจนเกินไป สองคนที่เด่นที่สุดคงไม่พ้นนางเอกของเราและแม่จอมซาดิสม์ของเธอที่รับบทโดย Mo'Nique ที่ถ้าทั้งคู่จะได้ติดโผออสก้าร์สาขานำหญิงและประกอบหญิงก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลย ส่วนนักแสดงสมทบก็ทำหน้าที่กันได้ดีทุกคน แม้แต่เจ๊ Mariah Carey ก็ยังแสดงได้ดีเกินคาดในบทนักประชาสงเคราะห์ (โอ้ว เป็นไปได้ด้วยหรือเนี่ย!?) สรุปว่านี่เป็นหนังดราม่าชั้นดีเรื่องหนึ่งของปีนี้ที่ไม่ควรพลาดเลยครับพี่น้อง
หนังได้เหล่านักแสดงสมทบที่คุ้ยเคยมาร่วมแจมหลายคน
เหมือนเป็นการเย้ยหยันที่เด็กสาวที่มีชื่อว่า Precious กลับมีผู้ปกครองที่ปฏิบัติกับเธอเหมือนถังขยะ และยังถูกทุกคนหมางเมิน จนเธอถึงกับเคยนึกตัดพ้อว่า "บางครั้งฉันก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ แต่ไม่รู้จะตายยังไง มันไม่มีปลั๊กจะให้ถอดออก ไม่ว่าฉันจะรู้สึกแย่แค่ไหน หัวใจของฉันก็ยังไม่หยุดเต้นและฉันก็ยังลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าต่อไป." ในสังคมเราทุกวันนี้ก็ยังมีคนที่ประสบปัญหาคล้ายๆ เธอ และเชื่อว่าคนที่คิดแบบนี้เหมือนเธอก็มีไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องมีชีวิตต่อไป ถึงทุกอย่างจะดูสิ้นหวังและเหมือนกับเราไม่มีค่า ทว่าจริงๆ แล้วเราก็ยังเป็นผู้อันเป็นที่รักของใครบางคน คนที่พร้อมจะเป็นกำลังใจให้เรายืนหยัดต่อไปอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเราจะตระหนักได้หรือเปล่าเท่านั้นแหล่ะว่า "คุณคือ Precious ของใครและใครคือ Precious ของคุณ?"
ยังดีนะที่มีคนนี้มาให้ชื่นใจอยู่บ้าง
- น่าดูเพราะ: หนังสะท้อนปัญหาสังคมได้ดี การแสดงเด่น แฟนหนังดราม่าชั้นดีไม่ควรพลาด
- ไม่น่าดูเพราะ: รันทดและไม่ค่อยมีอะไรเจริญหูเจริญตาให้ดูนัก บางคนดูแล้วยิ่งเครียด
*ช่วงดันดารา*
สาวคนนี้ดำดีไม่มีตกจริงๆ
*ข้อมูลจาก wikipedia.org*
สาวคนนี้ดำดีไม่มีตกจริงๆ
สาว Gabourey "Gabby" Sidibe (26 ขวบ) คนนี้แค่เล่นหนังเรื่องแรกก็ทำได้ดีจนแจ้งเกิดในวงการบันเทิงซะแล้ว เธอเป็นลูกของ Alice Tan Ridley นักร้องแนวอาร์แอนด์บี-กอสเพล และคุณพ่อ Ibnou Sidibe คนขับแท็กซี่ซึ่งมีเชื้อสายเซเนกัล
เธอไม่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงเลยตอนที่ร่วมคัดตัวสำหรับบทนำในหนังเรื่องนี้ และสามารถเอาชนะสาวอ้วนดำกว่าอีก 300 ชีวิตที่มาจากทั่วสารทิศได้ในที่สุด เมื่อออกฉายหนังก็สามารถคว้ารางวัลต่างๆ มามากมาย รวมถึงเธอที่สามารถคว้ารางวัลนำหญิงจาก Independent Spirit Award มาได้ ซึ่งคาดว่าบนเวทีออสก้าร์คงได้มีชื่อเธอติดโผหนึ่งในห้าเป็นแน่(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) ช่วงนี้เธอเพิ่งเล่นหนัง Yelling to the Sky เสร็จและอาจจะไปเล่นหนังทีวีเรื่อง The C Word ต่อ เป็นสาวอ้วนพริ้วมีความสามารถแบบนี้ล่ะก็ ขอให้ไปดีมาดีในเส้นทางบันเทิงนะจ้ะแม่คุ๊ณณณ
เธอไม่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงเลยตอนที่ร่วมคัดตัวสำหรับบทนำในหนังเรื่องนี้ และสามารถเอาชนะสาวอ้วนดำกว่าอีก 300 ชีวิตที่มาจากทั่วสารทิศได้ในที่สุด เมื่อออกฉายหนังก็สามารถคว้ารางวัลต่างๆ มามากมาย รวมถึงเธอที่สามารถคว้ารางวัลนำหญิงจาก Independent Spirit Award มาได้ ซึ่งคาดว่าบนเวทีออสก้าร์คงได้มีชื่อเธอติดโผหนึ่งในห้าเป็นแน่(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) ช่วงนี้เธอเพิ่งเล่นหนัง Yelling to the Sky เสร็จและอาจจะไปเล่นหนังทีวีเรื่อง The C Word ต่อ เป็นสาวอ้วนพริ้วมีความสามารถแบบนี้ล่ะก็ ขอให้ไปดีมาดีในเส้นทางบันเทิงนะจ้ะแม่คุ๊ณณณ
*ข้อมูลจาก wikipedia.org*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น