แบ่งปัน
เจ๊ Amy Adams คือสาวงามประจำเรื่อง
*ช่วงเพลงในหนัง*
Aerosmith
หนังดราม่ากีฬาที่สร้างจากชีวิตจริงของอดีตนักมวยดัง"Irish" Micky Ward เรื่องนี้เป็นโปรเจ็คท์ในฝันของยอดชายนาย Mark Wahlberg เลยก็ว่าได้ โดยจะเห็นได้จากการที่เขาควบตำแหน่งโปรดิวซ์เซอร์ให้กับหนังและแสดงนำเอง ซึ่งว่ากันว่าเขาทุ่มเทฟิตหุ่นตนเองให้ล่ำบึ๊กมากว่า 5 ปี เพื่อให้สมกับบทบาทนักมวยและการที่ได้รับการคัดเลือกจาก Micky Ward ตัวจริงให้มารับบทนี้เลยทีเดียว ป๊าด! ทุ่มเทน่าดูนะเนี่ย พ่อคุ๊ณณ
สองพี่น้องคู่ซี้ตะลุยสังเวียน
หนังผ่านมือ ผกก.และดาราดังๆ มาหลายคนอาทิ Brad Pitt, Matt Damon, ผกก.Darren Aronofsky (The Wrestler [2008]) หรือแม้แต่กระทั่งผกก.Martin Scorsese จนกระทั่งมาลงเอยกับ ผกก.David O. Russell ที่หายหน้าหายตาไปนับตั้งแต่ I Heart Huckabees (2004) เลยโน่น ส่วนอีกคนที่มารับบทเด่นเป็นตัวสร้างสีสันในเรื่องก็คือพระเอกแบทแมน Christian Bale โดยหนังถือว่าใช้ทุนสร้างจิ๊บจ๊อย(ตามมาตรฐานฮอลลีวู้ด)เพียงแค่ 11 ล้านเหรียญเท่านั้นเอง
เฮีย Christian Bale ลงทุนเถิกเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
หนังโฟกัสไปที่เรื่องราวของ Micky Ward (Wahlberg) นักมวยจากย่านชุมชนคนใช้แรงงานใน โลเวลล์ แมสซาชูเซตส์ อเมริกา ที่นอกจากจะพยายามฝึกซ้อมเพื่อขึ้นชกให้ชนะแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว ความรัก แถมต้องหนักอกหนักใจกับความประพฤติของ Dicky Eklund(Bale) พี่ชายต่างบิดาที่เป็นอดีตนักมวยชื่อดังแต่ตอนนี้ดันกลายสภาพเป็นขี้ยาชื่อดังไปแทนซะงั้น โอ๊ย ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ เลยนะเนี่ย งานเนี้ย
เจ๊ Amy Adams คือสาวงามประจำเรื่อง
ถ้าดูเผินๆ หนังก็ออกมาสไตล์คล้ายๆ กับหนังดราม่าชกมวยทั่วๆ ไปที่พระเอกเราจะออกแนวชีวิตรันทดเป็นหมารองบ่อนที่ยืนหยัดลุกขึ้นสู้จนประสบความสำเร็จเพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า 'ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น'(เอ๊ะ ยังไง?) หนังยังมีทีเด็ดตรงที่เป็นการสร้างจากเรื่องจริง จากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ แถมก็ยังร่วมสมัยเพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่กี่ปีนี่เอง (ตัวจริงยังมีชีวิตสุขีสโมสรกันดีอยู่) และหนังยังเน้นหนักไปทางดราม่าความผูกพันภายในครอบครัว การไถ่บาปกลับตัวกลับใจ ส่วนฉากการชกก็ดูจริงจัง ขึงขัง ตื่นเต้น อย่างกับดูการชกจริงๆ ก็มิปาน
เฮีย Bale มีสิทธิ์ลุ้นออสก้าร์จากเรื่องนี้
นอกจากการได้เห็นเฮีย Wahlberg เขาทุ่มเทฟิตหุ่นจนเหมือนนักมวยตัวจริงเสียงจริงแล้ว อีกสองคนในเรื่องที่เด่นมากๆ จนแทบจะเด่นเกินหน้าเฮีย Wahlberg ไปเลย ก็คงจะเป็นเฮีย Bale ที่ลงทุนทำหัวเถิกลดน้ำหนักให้ดูผอมกะหร่องเป็นขี้ยา และเล่นได้อย่างโดดเด่นเป็นตัวขโมยซีนซะจนอาจจะมีสิทธิ์ซิวออสก้าร์ประกอบชายเลยทีเดียว(ถ้าไม่มีเขา หนังคงจะจืดลงไปกว่านี้เยอะเลยล่ะ) ส่วนอีกคนที่เด่นไม่ใช่เล่นคือคุณป้า Melissa Leo ที่มารับบทคุณแม่จอมบงการ(แต่รักลูก)ของหนุ่มทั้งสอง ที่ป้าแกก็อาจจะมีลุ้นออสก้าร์สมบทหญิงจากเรื่องนี้เช่นกัน
ถึงหนังจะไม่ได้มีอะไรใหม่เกินไปกว่าหนังแนวนี้ที่เราเคยผ่านตามานักต่อนักก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังที่เสริมสร้างกำลังใจและให้แง่คิดดีๆ แก่ผู้ชมแบบนี้ จะออกมากี่เรื่องๆ คนดูเขาก็พร้อมที่จะอ้าแขนต้อนรับอยู่เสมอแหล่ะเนอะ นี่ยิ่งมาพร้อมการแสดงระดับสุดแหล่มของเฮีย Bale และการทุ่มเทเพื่อบทบาทของเฮีย Wahlberg ด้วยแล้ว ก็ต้องได้ใจเราเป็นธรรมดา ถ้าปี 2009 เราเคยประทับใจไปกับ The Blind Side แล้วล่ะก็ ปี 2010 พี่น้องก็คงจะประทับใจกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเลยเช่นกันจ้า ขอบอก
- จุดเด่น: เป็นหนังดราม่าชกมวยจากชีวิตจริง ที่สร้างออกมาได้ดี การแสดงเยี่ยม ให้ข้อคิด กำลังใจ ความบันเทิงครบครัน
- จุดด้อย: เหมือนกับหนังแนวนี้เรื่องที่ผ่านๆ มา ซึ่งถ้าท่านเป็นคนที่ไม่ชอบมวยอยู่แล้วด้วย คงมีเมินกันบ้างล่ะ
*ช่วงเพลงในหนัง*
Aerosmith
หนังหมัดๆ มวยๆ แบบนี้ เพลงประกอบเลยต้องออกแนวแมนๆ ร็อคๆ กันหน่อย โดยเฉพาะเพลงร็อครุ่นเก่าจากยุค 70-80 เนี่ยตรึมเชียว(ตามวัยของพวกพระเอก) ในหนังเราจึงได้ยินเพลงของวงรุ่นเก๋าอย่าง Aerosmith, The Rolling Stone, Led Zeppelin หรือแม้แต่เพลงของวงรุ่นหลังๆ หน่อยอย่าง Red Hot Chili Peppers ก็ยังมี แหม่ หนังก็ดีเพลงก็โดน ถูกใจขาร็อคจริงๆ จ้า
เพิ่งดูจบ สนุกดีครับ
ตอบลบ