มาอีกเรื่องแล้วครั่บทั่นพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรัก สำหรับหนังแนวฮีโร่พันธุ์กิ๊กก๊อกที่ว่าด้วยเรื่องราวของชาวบ้านธรรมดาๆ ซึ่งริอยากจะทำตัวเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมขึ้นมา แต่ถึงใจจะรักแต่หุ่นดันไม่ให้ซะนี่ งานนี้ก็เลยแทนที่จะออกมาเท่ได้ใจ กลับออกมาอนาถาได้โล่ซะมากกว่าแทน ซึ่งที่ผ่านมาสองสามปีนั้น หนังแนวนี้ที่เข้าท่าก็มี Defendor (2009) และ Kick Ass (2010) นั่นยังไงล่ะจ้ะ
ฮีโร่พันธุ์โอทอปมาพบพี่น้องอีกรายแล้วจ้า
Frank (Rainn Wilson) หนุ่มใหญ่ขี้แพ้ที่เมียแสนสวย (Liv Tyler) ดันมาทิ้งเขาไปอยู่กินกับเจ้าพ่อค้ายาประจำถิ่น (Kevin Bacon) แทน และหลังจากที่จิตตกมาได้สักพัก Frank ก็ (คิดว่า?) ได้รับนิมิตจากพระเจ้าให้เขาลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นฮีโร่ชุดแดงแป๊ดผู้ผดุงความยุติธรรมนาม 'The Crimson Bolt' โดยมีสาวหน้าเด็กที่บ้าการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่อยู่เป็นทุนเดิม (Ellen Page) มายื่นความจำนงขอสมัครเป็นคู่หูจอมซ่าในนาม 'Boltie' อีกด้วย (ป๊าด!)
สองสาวสองแนวมาร่วมกันประชันเสน่ห์
ผลงานจากไอเดียของ ผกก.James Gunn (Slither [2006]) เรื่องนี้มาในแนวตลกร้าย คิวบู๊โหดรุนแรง คล้ายๆ Kick-Ass แต่เป็นในเวอร์ชั่นหนุ่มใหญ่ ที่ไม่เท่และทุนสร้างไม่สูงเท่า จึงไม่ใช่หนังฮีโร่ที่เหมาะกับเด็กๆ แน่นอน และอันที่จริงถ้าตัดอารมณ์ขันออกไปจากหนังให้หมดแล้วล่ะก็ นี่ก็เป็นเรื่องราวของคนโรคจิตสุดหม่น ดีๆ นี่เอง เพราะสิ่งที่คู่หูฮีโร่คู่นี้ทำลงไปทั้งหมดแทบจะมาจากเรื่องส่วนตัวล้วนๆ แถมยังชอบใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อความสะใจกันเป็นอาจิณเสียอีกด้วยแหนะ
น้า Kevin Bacon กับบทตัวโกง (อีกแล้ว?)
หนังมีอะไรที่คัลต์ๆ มาให้เห็นกันเป็นระยะ ทั้งสัตว์ประหลาด ฉากแหว่ะ กราฟฟิกแนวหนังสือการ์ตูนที่ถูกใช้ลดความรุนแรงของหนังลง (แต่ก็ยังดูรุนแรงอยู่ดี) และยังเสียดสีเรื่องความเอื้อต่อการใฝ่หาความรุนแรงของอเมริกาที่หาช็อปอาวุธทั้งหนักเบาทุกชนิดกันได้อย่างง่ายๆ เหมือนไป บิ๊กซี โลตัส หรือการชอบใช้พระเจ้ามาอ้างความต้องการของคนเรา ส่วนบรรดานักแสดงคุ้นหน้าทั้งหลายที่ยอมลดค่าตัวลงมาเล่นหนังเรื่องนี้ก็ล้วนทำหน้าที่ของตนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหนู Page ที่ดูน่ารักปนโรคจิตอยู่ในที จนนับเป็นตัวขโมยซีนของหนังอย่างแท้จริง
ฉากบู๊ค่อนข้างจะรุนแรงทีเดียว
เสียดายที่หนังดันออกมาทีหลังเรื่องอื่นเขา (โดยเฉพาะ Kick-Ass) เลยโดนมองว่าลอกเอาไอเดียชาวบ้านมาใช้ จนหนังไม่ประสบความสำเร็จเอาซะเลยทั้งด้านรายได้หรือคำวิจารณ์ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วหนังก็ไม่ได้ออกมาเลวร้ายอะไรเลย หนังประสบความสำเร็จในการแสดงให้เห็นว่าเมื่อคนเราสิ้นหวังไร้ที่พึ่งแล้วนั้นความคิดของเราพาเราไปไกลได้แค่ไหน ซึ่งในกรณีของพระเอกในหนังมันก็ออกมาดูตลกๆ ขำๆ ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามีอย่างนี้เกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมแล้วล่ะก็ มันก็คงจะขำไม่ออกแล้วล่ะเน้อ ขอบอก.
- + เป็นหนังแนวฮีโร่พันธุ์กิ๊กก๊อกอีกเรื่องที่ทำได้เข้าท่า ดูเพลิน มีดีน่าสนใจทีเดียว
- - การที่มาทีหลัง Kick-Ass เลยทำให้ถูกมองว่าลอกเขามา ทั้งที่จริงๆ แล้วหนังทั้งสองเรื่องล้วนดีกันไปคนละแบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น