เพราะความสำเร็จแบบสุดๆ ของ Paranormal Activity (2007) เลยทำให้หนังสไตล์'เรื่องจริงผ่านจอกำมะลอ' (found footage) กลับมาฮิตเถิดเทิงอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ The Blair Witch Project (1999) เคยปลุกกระแสนี้มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อกว่าสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา ซึ่งเราก็คงจะได้ดูหนังสไตล์นี้ไปอีกสักพักล่ะนะ และนี่ก็คือเรื่องล่าสุดที่ก็ประสบความสำเร็จด้วยดีทีเดียว เพราะสามารถทำเงินไปได้กว่า 60 ล้านจากทุนสร้างเพียง 1.8 ล้านเท่านั้น
เป็นใครก็ต้องกรี๊ดเมื่อเจอชายแปลกหน้ามายืนบ่นให้ฟังถึงขอบเตียง
หนังเสนอภาพฟุตเตจจากสารคดี(กำมะลอ) ที่ตามถ่ายทำ Cotton Marcus (Patrick Fabian) นักเทศน์ผู้มีพรสวรรค์ ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ทีมทำสารคดีตามติดไปถ่ายทำกลวิธีขับผีแบบลวงโลกของเขา เพื่อแฉให้เห็นว่าภูติผีปีศาจนั้นไม่มีอยู่จริงหร๊อก และที่เขาทำไปนั้นก็เพื่อขายความสบายใจให้กับบรรดาผู้คนที่เชื่อแบบนั้น แถมยังเงินดีอีกต่างหาก(อันหลังนี่สำคัญเลย อิอิ) แต่แล้วงานก็เข้าจนได้เมื่อเคสล่าสุดของเขาที่ต้องไปขับผีออกจากเด็กสาวที่ชื่อ Nell (Ashley Bell) ทำท่าว่าจะมีภูติผีปีศาจอยู่เบื้องหลังจริงๆ ซะแล้วสิ จนเล่นเอางานนี้ท่าน ศบ.เราถึงกับพลิกไบเบิ้ลต่อกรปีศาจตนนี้แทบไม่ทันเลยทีเดียวอย่ามองพี่ด้วยสายตาเยี่ยงนั้นสิครับน้อง
ผกก.Daniel Stamm พยายามทำหนังให้คล้ายสารคดีเต็มที่ งานด้านภาพก็เลยมืดๆ มัวๆ สั่นๆ กันเต็มเหนี่ยวตามสไตล์หนังแบกกล้องถ่าย เมื่อมาเจอมุกสยองที่สยองใช้ได้และบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจแถบ หลุยเซียน่า อเมริกา ก็เลยสร้างบรรยากาศสยองให้กับหนังได้ไม่เลวทีเดียว ในขณะที่บรรดานักแสดงที่มีกันไม่กี่คนก็เล่นกันได้ดีทั้งนั้นโดยเฉพาะคุณน้อง Ashley Bell ที่รับบทสาวน้อยใสซื่อที่โดนปีศาจเข้าสิงได้อย่างน่ากลัวชนิดที่คุณคงไม่อยากอยู่ใกล้ๆ เธอในตอนนั้นแน่ไปเจออะไรมาล่ะนั่น หน้าแหกมาเชียว
แต่ดูเหมือนว่าเหล่านักแสดงในเรื่องจะทำหน้าที่กันดีเกินไปหรือยังไงไม่ทราบ เลยยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวที่เห็นมันเป็นหนังมากกว่าชีวิตจริงไปซะงั้น ยิ่งมาเจอบางฉากบางตอนที่ถ้าสังเกตดีๆ จะรู้ว่าใช้กล้องถ่ายทำมากกว่าหนึ่งตัว ทั้งๆ ที่ควรจะต้องมีมุมกล้องจากตัวเดียวที่ใช้ถ่ายสารคดี งานนี้ก็เลยยิ่งลดความสมจริงลงไปแยะทีเดียว ผนวกกับการที่ใช้กล้องสั่นแบบนี้ก็เลยทำให้มีบางฉากที่คนดูแทบไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนจอกันแน่ โดยเฉพาะช่วงท้ายที่หลายคนคงต้องเกาหัวพร้อมกับพึมพำประมาณว่า "ฮ่วย อะไรของมันฟะเนี่ย?!"แน่เชียวสาวคนนี้เล่นเป็นคนถูกปีศาจเข้าสิงได้อย่างแจ่มแจ๋ว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังโดยรวมจะเลวร้ายนะ นี่เป็นหนังสารคดีกำมะลอโหมดสยองขวัญที่ทำออกมาได้ดีอยู่ เพียงแต่ว่าดันทำให้คนดูจับได้แบบนี้ก็เลยลดความน่ากลัวลงไปแยะ ซึ่งนี่ถ้าผู้สร้างจะหันไปทำเป็นหนังตรงๆ ไปเลย ผลลัพธ์มันนอาจจะออกมาโอเคกว่านี้ก็เป็นได้นะพี่น้อง ยังไงซะหนังอาจจะพยายามบอกเราว่า ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้เอ่ยถึงพระเจ้าและมารซาตานอยู่ตลอด ดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะเลือกเชื่อในการมีอยู่ของอย่างหนึ่งอย่างใดระหว่างพระเจ้ากับมารได้ คือถ้าเชื่อว่ามีพระเจ้าก็ต้องมีผีมารซาตานอยู่แน่ๆ ในทางกลับกัน ถ้าเชื่อว่ามีภูติผีปีศาจก็ต้องเชื่อว่ามีพระเจ้าเช่นเดียวกันเด้อ ขอบอกปล.ฉากที่สาวน้อย Nell ร่างกายบิดเบี้ยวนั้นไม่ต้องพึ่งเอฟเฟกต์เข้าช่วยเลยแม้แต่น้อย เพราะคุณ Ashley Bell ตัวจริงเขาเป็นพวกตัวอ่อนเป็นพิเศษอยู่แล้ว(hypermobility)
- น่าดูเพราะ: เป็นหนังสไตล์เรื่องจริงผ่านจอ(กำมะลอ) ที่ทำออกมาน่ากลัวใช้ได้เลยทีเดียว
- ไม่น่าดูเพราะ: กล้องสั่นเป็นอุปสรรคสำคัญที่ให้หลายฉากหลายตอนดูไม่รู้เรื่อง และหนังทำออกมาไม่ค่อยสมจริงแบบเรื่องจริงผ่านจออย่างที่ควรจะเป็นเท่าไหร่นัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น