Easy A (2010) :
น่ายื้มตัวสองคนนี้มาประจำการห้องน้ำตามห้างบ้าง
น้องหนู Emma Stone (Zombieland [2009]) คิดไม่ผิดเลยจริงๆ ที่ตัดสินใจทิ้งโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของ Sucker Punch (2011) หนังรวมพลังสาวเซ็กซ์บู๊กระจายของ ผกก.Zack Snyder ไป เพื่อมาเล่นหนังตลกวัยรุ่นเรื่องนี้ ซึ่งนอกจากหนังจะออกมาฮิตเกินคาดจนส่งผลให้เธอได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวแล้ว ยังทำให้เธอมีโอกาสได้เล่นหนังสไปเดอร์แมนฉบับรีบู๊ตที่จะออกฉายในปี 2012 อีกด้วย แจ่มไปเลยจ้า แม่คุ๊ณณ
น่ายื้มตัวสองคนนี้มาประจำการห้องน้ำตามห้างบ้าง
ในเรื่องนี้น้องเขารับบท Olive สาว ม.ปลายหัวดี แต่หนุ่มเมิน เลยยังไม่มีแฟนอย่างชาวบ้านชาวช่องเขาสักที(ทั้งๆ ที่อยากมีจะแย่อยู่แล้ว) และด้วยการกลัวเพื่อนสาวจะล้อเอา ชีก็เลยโม้สะบัดไปว่าเคยมีอะไรกับผู้ชายมาแล้ว ซึ่งเมื่อข่าวซุบซิบเรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน มันก็ทำให้คุณเธอกลายเป็นที่สนใจจากทุกคนที่เคยเมินเธอขึ้นมาทันที แต่จากการโกหกครั้งนั้นก็ได้ก่อปัญหาวุ่นวายต่างๆ นาๆ ให้แก่เธอมากมายขึ้นเรื่อยๆ จนไม่ไหวจะเคลียร์ ซึ่งก็ต้องเอาใจช่วยกันล่ะว่าเธอจะหาทางออกและเคลียร์ชื่อเสียงให้กับตนเองได้ยังไงกันเน้อ
เคยเขม่นสาวคนอื่นอย่างนี้บ้างไหมดูเหมือนว่าผลงานหนังตลกวัยรุ่นของ ผกก.Will Gluck เรื่องนี้จะเป็นการดัดแปลงเรื่องราวมาจากวรรณกรรมคลาสสิคเรื่อง The Scarlet Letter แถมยังมีการเอ่ยพาดพิงถึงอย่างหน้าชื่นตาบานอยู่ตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย ซึ่งหนังก็ไม่ได้ออกมาซีเรียสชีช้ำเหมือนต้นฉบับแน่นอน แต่สามารถนำประเด็นเรื่องการซุบซิบนินทาแบบปากต่อปากมาผูกเป็นเรื่องราวได้อย่างสนุกสนาน เก๋ไก๋ กุ๊กกิ๊ก เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน โดนใจวัยทีนไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
ขอแค่ได้นั่งรถตัดหญ้ากับคนที่ใช่ก็มีความสุขมากมายแล้ว
หนังได้เหล่านักแสดงมากฝีมือผลัดกันมาสร้างสีสันตลอดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Stanley Tucci กับ Patricia Clarkson ในบทพ่อแม่ผู้เข้าอกเข้าใจลูกแบบสุดๆ ของนางเอก หรือ Thomas Haden Church กับ Lisa Kudrow ในบทครูในโรงเรียน และที่จะลืมไม่ได้ก็คือสาว Amanda Bynes ซึ่งขอมาในบทตัวอิจฉาที่ก็ยังดูน่ารักน่าหยิกได้อีก แต่สำหรับคนที่แจ้งเกิดแบบเต็มๆ ก็คือนางเอกเราซึ่งทั้งสวย น่ารัก เซ็กซี่ เปี่ยมเสน่ห์ และยังดูฉลาดอยู่ในที ในแบบที่ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องนี้คงจะหลงเสน่ห์เธอได้ไม่ยากเลยล่ะ
หุ่นล่ำแบบนี้สาวๆ เขาปลื้มนักเชียว
ทว่าการที่จำกัดตัวเองเป็นหนังตลกวัยรุ่นเรท PG-13 อะไรๆ ก็เลยไม่ค่อยจะจริงจังไปซะหมด ซึ่งในช่วงท้ายของหนังก็เลยรู้สึกว่าทุกอย่างดูจะคลี่คลายไปในทางที่ดีง่ายไปนิดนึง ยังไงเสียนี่ก็เป็นหนังวัยรุ่นที่น่าดู มีแง่คิด และเต็มไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์ คุณสาวๆ ก็น่าจะชอบกันได้ไม่ยาก ส่วนคุณหนุ่มๆ ก็ยังดูได้เพลินๆ ที่น่าสังเกตคือในบางอารมณ์แล้วนางเอกเราดูคล้ายสาว Lindsay Lohan ซะ ซึ่งก็อย่าได้แปลกใจถ้าต่อไปจะมีคนนำสาวทั้งคู่นี้ไปเปรียบเทียบกัน และยกให้สาว Stone เป็น Lindsay Lohan คนใหม่ ยังไงก็หวังว่าจะไม่ดังไปทางฉาวเหมือนกันล่ะเน้อ เหอๆ
- น่าดูเพราะ: เป็นหนังตลกวัยรุ่นน่ารักๆ ที่สนุก มีแง่คิด เต็มไปด้วยนักแสดงที่มีเสน่ห์ผลัดกันมาสร้างสีสัน ดูเพลินจริงๆ
- ไม่น่าดูเพราะ: หนังสไตล์นี้คงเรียกแขกได้แต่เฉพาะวัยรุ่น(โดยเฉพาะสาวๆ) ด้วยความที่เป็นหนังตลกวัยรุ่น อะไรๆ ในหนังก็เลยไม่จริงจัง และมองโลกในแง่ดีเกินกว่าคอหนังผู้ซีเรียสจะยอมรับได้แน่ (อิอิ)
*ช่วงเพลงในหนัง*
Lenka
Lenka
เป็นหนังตลกสำหรับวัยทีนแบบนี้ ก็ต้องมีเพลงสำหรับวัยทีนทั้งนั้นแน่ๆ ซึ่งในเรื่องนี้จะเน้นไปทางเพลงป็อปร็อคเก๋ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเพลงของ Lenka, Natasha Bedingfield, The Pussycat Dolls, OneRepublic หรือแม้กระทั่งวงที่ออกแนวอินดี้หน่อยอย่าง Death Cab for Cutie และ The Boy Least Likely To
แต่สำหรับสองเพลงที่เราคิดว่านอกจากจะเพราะติดหูแล้ว ยังถูกนำมาใช้ในหนังเพื่อเรียกรอยยิ้มได้อีกด้วย ซึ่งก็คือเพลง Pocketful of Sunshine ของ Natasha Bedingfield ที่ใช้ในช่วงต้นของหนัง และเพลง Trouble Is a Friend ของ Lenka ที่ถูกใช้ทุกครั้งในฉากที่นางเอกต้องเข้าห้องปกครอง ว่าแล้วก็ไปฟังกันเลยจ้า
แต่สำหรับสองเพลงที่เราคิดว่านอกจากจะเพราะติดหูแล้ว ยังถูกนำมาใช้ในหนังเพื่อเรียกรอยยิ้มได้อีกด้วย ซึ่งก็คือเพลง Pocketful of Sunshine ของ Natasha Bedingfield ที่ใช้ในช่วงต้นของหนัง และเพลง Trouble Is a Friend ของ Lenka ที่ถูกใช้ทุกครั้งในฉากที่นางเอกต้องเข้าห้องปกครอง ว่าแล้วก็ไปฟังกันเลยจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น