คอหนังจีนทั้งหลายคงจะรู้จัก'ฉีเคอะ'กันดี เพราะยุคหนึ่งเขาเคยเป็น ผกก.ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฮ่องกง จนต่อมาได้โกฮอลลีวู้ดไปทำหนังเจ๊งสนิทคนดูส่ายหน้าอย่าง Double Team (1997) และ Knock Off (1998)(กอดคอกันเจ๊งกับนักบู๊เคยรุ่งอย่าง Jean-Claude Van Damme) จนต้องม้วนเสื่อกลับมาทำหนังที่ฮ่องกงอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผลงานในยุคหลังของเขาก็ดูจะไม่ค่อยเข้าตาคอหนังเท่าไหร่นัก จนหลายคนคงจะคิดว่าหมดยุคของเขาแล้วเป็นแน่เชียว
เชอร์ล็อก โฮล์มส์ เวอร์ชั่นเมืองจีนมาแล้วจ้า
แต่ดูเหมือนเขาจะกลับมาประกาศศักดาของตนเองได้อีกครั้งหนึ่งกับผลงานล่าสุดเรื่องนี้ ที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 13 ล้านเหรียญ(ลองตีเป็นเงินบาทดูสิ) โดยเกณฑ์ดาราใหญ่มาเพียบ อาทิ เฮียหลิวเต๋อหัว ที่เคยลั่นวาจาว่าจะไม่เล่นหนังย้อนยุคอีกแล้วยังอดใจไม่ได้ต้องกลับลำมารับเล่นเป็นพระเอกจนได้ และยังได้เจ๊หลิวเจียหลิง นางเอกรุ่นเก๋าที่คอหนังยุคก่อนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีมารับบทเป็นพระนางบูเช็กเทียน เชียวนะ
นางเอกเราบางมุมก็คล้าย หลินชิงเสีย จริงๆ
ส่วนเรื่องราวของหนังนั้นเล่าก็ว่ากันถึงครั้งสมัยปี ค.ศ.690 เมื่อพระนางบูเช็กเทียนกำลังจะขึ้นเถลิงอำนาจเต็มตัว แต่แล้วก็เกิดการตายสุดพิลึกของเหล่าขุนนางหลายคนที่จู่ๆ ตัวของคนเหล่านั้นก็ลุกเป็นไฟตายแหง๋แก๋แบบไม่บอกกล่าวกันสักนิด จนเป็นที่ตะลึงงึนงันไปตามๆ กัน พระนางจึงต้องตามนักสืบหนวดงามนาม ตี๋เหรินเจี๋ย (ชื่ออ่านเขียนยากจริง) ที่ถูกขังลืมในคุกกว่าแปดปีเพราะอยู่คนละสีกับนางให้มาช่วยสืบหาความจริง ว่าแล้วเชอร์ล็อค โฮล์มส์เวอร์ชั่นเมืองจีนของเราเลยต้องมาวาดลวดลาย สืบสะบัด ขี่ม้ากุบกับ ฟันดาบโช้งเช๊ง เป็นที่เถิดเทิง ณ บัดเดี๋ยวนั้นเอย
เสื้อผ้าหน้าผม(และคิ้ว)ของพระนาง บูเช็กเทียน อลังการมาก
แค่หนังเปิดฉากมาก็โชว์ความอลังการงานสร้างกันแล้ว เพราะหนังถ่ายทำกันที่ Hengdian World Studios ซึ่งเป็นโรงถ่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรื่องฉากเฉิกเสื้อผ้าหน้าผมเนี่ยก็ครีเอทกันเต็มที่ งานด้านวิช่วลเอฟเฟกต์ก็ได้ทีมงานจากทั้งฮอลลีวู้ดและเกาหลีมาดูแล(ซึ่งความเนียนก็ได้เท่าที่ทุนสร้างอำนวยแหล่ะนะ) ส่วนในด้านคิวบู๊ก็ได้ป๋าหมูหิน หงจินเป่า เจ้าเก่าจาก Ip Man มาดูแลได้แบบสุดแจ่มเช่นเดิม ดังนั้นในเรื่องความน่าตื่นตาตื่นใจอลังการงานสร้างเนี่ยหนังสอบผ่านแน่นอนเชียวสมัยโน้นเขาก็มีการ'สืบจากศพ'กันแล้ว
แต่หนังจะดีหรือไม่นั้นไม่ได้วัดกันที่ความน่าตื่นตาหรือความอลังการงานสร้างแค่นั้น เพราะดูไปสักพักคนดูก็เริ่มคุ้นและเฉยแล้ว ซึ่งก็น่าดีใจที่หนังเน้นไปที่เรื่องราวของการสืบสวนแนว 'whodunit' (ใครทำฟะ?) ได้อย่างน่าติดตาม และแทรกมาด้วยคิวบู๊แจ่มๆ เป็นระยะๆ ส่วนบรรดานักแสดงก็ทำหน้าที่กันได้อย่างดี แต่ก็ยังประสบปัญหาแบบเดียวกันกับหนังเรื่องก่อนๆ ของ ผกก.เรา (และหนังฮ่องกงส่วนใหญ่)ที่มักจะเดินหนังรวบรัดไปในบางช่วง หรือตัดประเด็นบางอย่างทิ้งไปดื้อๆ ทว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังเป็นหนังจีนระดับบล็อคบัสเตอร์ที่เข้าท่าอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้เลยและดูท่าว่าคงจะมีภาคต่อออกมาให้ดูกันอีกแน่จ้า ขอบอก- น่าดูเพราะ: เป็นหนังกำลังภายในที่เน้นเรื่องราวสืบสวนเข้ามาได้อย่างน่าดู อลังการงานสร้าง ดารามากมีอีกตั้งหาก เป็นหนึ่งในโปรแกรมทองประจำปีนี้เลยจ้า
- ไม่น่าดูเพราะ: หนังเน้นไปที่การสืบสวนทำให้อาจจะไม่ได้บู๊กระหน่ำกันตลอดเรื่อง และถ้าไม่ได้ตั้งใจดูอาจจะเบื่อและงงเอาได้เน้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น