หนังดราม่าอาชญากรรมเล็กๆ จาก ออสเตรเลีย เรื่องนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะสามารถคว้ารางวัล Grand Jury Prize จากเทศกาลหนัง Sundance Film Festival ครั้งล่าสุดมาครองได้สำเร็จ ที่สำคัญก็คือหนังแจ่มพอจนอาจมีสิทธิ์ได้เข้าไปลั้นลาถึงเวทีออสก้าร์ครั้งต่อไปในบางสาขาเสียด้วยซ้ำ(หวังว่าเช่นนั้นนะ อิอิ)
พ่อหนุ่มคนนี้ประเดิมผลงานเรื่องแรกได้ไม่เลวเลยทีเดียว
หนังเล่าเรื่องของ Joshua 'J' Cody (รับบทโดยนักแสดงหน้าใหม่ James Frecheville) หนุ่มน้อยวัย 17 ที่แม่เพิ่งเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด จนเขาต้องระเห็จไปอยู่กับครอบครัวของยาย ซึ่งประกอบด้วยลุงๆ ที่เป็นพ่อค้ายาเสพติดกันทั้งบ้าน ซึ่งก็แน่นอนที่เมื่อเขาได้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวใหม่นี้แล้ว ก็ย่อมต้องถูกดึงให้ถลำลึกสู่โลกมืดของอาชญากรรมที่จะทำให้ชีวิตของเขาและคนรอบข้างเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยทีเดียวคุณ Guy Pearce กับบทตำรวจน้ำดี(อีกแล้ว)
ผกก.David Michôd ประเดิมผลงานหนังยาวเรื่องแรกของเขานี้ได้อย่างถึงคุณภาพ ด้วยการเสนอโลกอาชญากรรมของชาวออสซี่ผ่านครอบครัวโจรครอบครัวหนึ่ง ซึ่งแม้หนังจะเดินเรื่องเนิบๆ แต่ก็เต็มไปด้วยจุดหักเหที่ชวนให้ต้องอึ้ง รุนแรงแบบไม่ต้องยิงกันจะๆ ให้เห็น ทั้งยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศมาคุไม่น่าไว้วางใจทั้งเรื่อง จนกลายเป็นหนังสุดระทึกไปได้โดยไม่ต้องมีเรื่องราวใหญ่โตหรือยิงกันกระจายดังเช่นหนังอาชญากรรมของฮอลลีวู้ดเลย ส่วนทางด้านดนตรีประกอบแนวอิเลคโทรนิคสุดหม่นของ Antony Partos ก็ช่วยสร้างบรรยากาศมาคุให้กับหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ให้แฟนขี่หลังแบบในหนังเกาหลีเลยนะพ่อคุ๊ณ
ด้านบรรดานักแสดงของหนัง แม้แทบจะไม่มีใครที่คุ้นหน้าเลย (คนดังสุดก็เฮีย Guy Pearce จาก L.A. Confidential [2007] ที่ก็มาในบทตัวประกอบเสียด้วย) แต่นักแสดงทุกคนล้วนทำหน้าที่ได้ดีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพระเอกเราที่ประเดิมหนังเรื่องแรกได้อย่างดูเป็นธรรมชาติน่าชื่นชม ทว่าคนที่เด่นที่สุดก็คงจะไม่พ้นคุณ Jacki Weaver ในบทคุณยายผู้แสนดี(??) และคุณ Ben Mendelsohn ในบทพี่ใหญ่ขาโหดประจำบ้าน ที่ทั้งคู่น่าจะได้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบในรางวัลสำคัญๆ ต่างๆ ช่วงปลายปีบ้างแหล่ะน่า
สองคนนี้อาจได้เข้าไปลั้นลาบนเวทีแจกรางวัลหนังสำคัญๆ ต่อไป
ถ้ามองข้ามความเนิบของหนังไปได้และตั้งใจดูอีกนิดก็จะพบว่านี่เป็นหนังที่ มีชั้นเชิง ชวนเหวอ น่าพอใจมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่สงสัยว่าแม่แบบไหนหนอถึงได้เลี้ยงลูกออกมาให้เป็นโจรทั้งบ้านได้แบบนี้ ซึ่งหนังก็มีคำตอบให้ ชนิดที่มันอาจจะทำให้ท่านได้อึ้งเลยทีเดียว ยังไงซะก็โปรดจับตาดู ผกก.Michôd ไว้ให้ดี ท่าทางอนาคตไกลนะเนี่ย พ่อคนเนี้ย- น่าดูเพราะ: เป็นหนังดราม่าอาชญากรรมเล็กๆ ที่ผลลัพธ์ออกมาไม่เล็ก ดูแล้วท่านจะลืมไม่ลงเลยล่ะ ขอบอก
- ไม่น่าดูเพราะ: หนังเดินเรื่องเนิบนาบ ดังนั้นถ้าไม่ตั้งใจดูอาจมีเซ็ง และการที่หนังขาดแคลนนักแสดงคุ้นหน้า จึงทำให้หน้าหนังไม่ชวนให้อยากดูเท่าไหร่นัก
*ช่วงเพลงในหนัง*
เพลงของ Air Supply ถูกนำมาใช้ในหนัง
เพลงของ Air Supply ถูกนำมาใช้ในหนัง
นอกจากดนตรีประกอบแนวอิเลคโทรนิคสุดหม่นโดยฝีมือของ Antony Partos จะสร้างความมืดมน ไม่น่าไว้วางใจให้กับหนังได้เป็นอย่างดีแล้ว หนังยังนำเพลงของคู่หูดูโอ้ซอฟท์ร็อคชาวออสซี่อย่าง Air Supply มาใช้ด้วย ซึ่งก็คือเพลง All Out of Love จากอัลบั้มชุด Lost in Love (1980) ของพวกเขานั่นเอง โดยเราจะได้ยินกันในช่วงกลางเรื่องซึ่งเป็นฉากที่ Pope ขาใหญ่ประจำครอบครัวนั่งดูเอ็มวีเพลงนี้อยู่แบบอินๆ เมาๆ ทั้งนี้เพลงยังถูกนำไปใช้เปิดในเทรลเลอร์ของหนังอีกด้วย ซึ่งก็นะ พอเพลงรักหวานเลี่ยนแบบนี้ถูกนำไปใช้ในหนังอาชญากรรมเช่นนี้ ก็ช่างตัดอารมณ์และฟังดูประชดประชันไปซะงั้นจนได้ เชื่อเขาเลยสิพับเผื่อย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น