หลังจากทิ้งช่วงจากผลงานชิ้นก่อนอย่าง A Very Long Engagement (2004) ซะนานกว่า 5 ปี ผกก.Jean-Pierre Jeunet เจ้าของหนังในดวงใจใครหลายคนอย่าง Amélie (2001) ก็กลับมาอีกครั้งกับผลงานสุดบรรเจิด ที่ดูราวกับว่าเป็นการจับเอาหนัง Ocean's Eleven (2001) มาผสมคลุกเคล้ากับ Lucky Number Slevin (2006) ออกมาในมาดของหนังตลกไอเดียกิ๊บเก๋ วิชั่นบรรเจิดสไตล์ ผกก.เขาล่ะ
อย่าให้หน้าตาของนักแสดงเป็นอุปสรรคในการรับชมเรื่องนี้
ยอดชายนาย Bazil (รับบทตอนโตโดย Dany Boon) ต้องเป็นกำพร้าตั้งแต่เด็กเพราะสูญเสียพ่อที่เป็นทหารเพราะกับระเบิด ส่วนแม่ของเขาก็รับไม่ได้จนป่วยจิต อีกสามสิบปีต่อมาเราก็พบว่าเขากลายเป็นลูกจ้างร้านวีดีโอแห่งหนึ่ง แต่แล้วคืนหนึ่งเขาเกิดไปโดนลูกหลงจากการไล่ยิงกันกลางถนนเข้า ทำให้กระสุนนัดหนึ่งเจาะกระบาลเขาเข้าไปเต็มๆ ยังดีนะที่เขาไม่ตาย แต่กระสุนนัดนั้นก็ยังฝังอยู่ในหัวของเขาและมันอาจจะทำให้เขาตายได้ทุกเมื่อก็เป็นได้ (ฮ่วย)
Ocean's Eleven เวอร์ชั่นฮาพิลึก
หลังจากออกมาจาก รพ.เขาก็พบว่าได้สูญเสียทั้งบ้านและงานไปเรียบร้อย ส่งผลให้ต้องไปใช้ชีวิตเป็นวณิพกเปิดหมวกอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถูกชักชวนไปอยู่กับก๊วนคนแปลกที่อาศัยด้วยกันในกองขยะแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่ได้กลายเป็นครอบครัวใหม่ของเขา แต่นี่มันแค่จุดเริ่มต้น เมื่อต่อมาเขาพบสองบริษัทผลิตอาวุธยักษ์ใหญ่ที่เป็นตัวการฆ่าพ่อของเขาและทำให้เขาต้องเป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ เขาจึงตัดสินใจจะล้างแค้นด้วยการเสี้ยมให้สองบริษัทเป็นศัตรูกัน การปฏิบัติการล้างแค้นสุดฮาจึงได้เริ่มขึ้น โดยการช่วยเหลือจากพวกพ้องของเขานั่นเอง
สาวคนนี้สามารถยกเท้าก่ายหน้าผากยามเครียดฟังจากพล็อตแล้ว น่าจะเป็นหนังซีเรียส บู๊แหลก ได้เลย แต่ ผกก.จ้าววิสัยทัศน์ของเราขอทำออกมาเป็นหนังตลก ไอเดียเก๋ ที่ดูเหนือจริงในบางอารมณ์ ตามสไตล์หนังของเขาล่ะ นอกจากจะมีอารมณ์ขันฉลาดๆ เก๋ๆ กวนๆ มามอบให้แล้ว หนังยังมีเสน่ห์จากบรรดาตัวละครทั้งฝ่ายดีและร้ายที่ก็ฮากันไปคนละแบบ โดยเฉพาะพระเอกเรา คุณ Boon ที่มอบการแสดงสไตล์ Charlie Chaplin ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูนักเชียว และที่ยังโดดเด่นเช่นเดิมเหมือนผลงานที่ผ่านๆ มาคืองานด้านภาพ ที่คราวนี้ขอใช้บริการของ ผกก.ภาพ Tetsuo Nagata บ้าง ซึ่งภาพที่เห็นในหนังก็เต็มไปด้วยสีสัน รายละเอียด แปลกตา และงามล้ำ ในขณะที่งานด้านดนตรีของ Raphaël Beau ก็รื่นหู แถมยังรับส่งมุกตลก เสริมอารมณ์ความฮาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
งานด้านภาพยังคงโดดเด่นตามเคย
ถึงจะเป็นหนังตลก แต่สาระนั้นก็ยังมีให้อยู่ โดยเฉพาะการพูดถึงการค้าอาวุธ ที่บรรดาพ่อค้าอาวุธมีแต่จะร่ำรวยเงินทอง เสวยสุข จากการขายอาวุธให้คนเอาไปห้ำหั่นกัน โดยไม่สนใจว่าจะมีคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้รับผลร้ายจากอาวุธเหล่านั้นไปสักเท่าใด หากใครจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ดูหนังที่ทำให้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รื่นเริงบันเทิงใจ นั้นนานมาแล้วแค่ไหนล่ะก็ หนังเรื่องนี้คือตัวเลือกที่ไม่เลว ที่จะนำความรู้สึกแบบนั้นกลับมาหาพี่น้องอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าจะเอามาดูอีกหลายทีก็ยังพบแง่มุมใหม่ๆ ให้ได้อมยิ้มเสมอเลยล่ะจ้า- น่าดูเพราะ: เป็นหนังที่ดูแล้ว รื่นเริง บันเทิงใจ ไอเดียเก๋ แฟนๆ ผลงานของ ผกก.คนนี้ไม่ควรพลาด
- ไม่น่าดูเพราะ: ขาดดาราเจ้าเสน่ห์ และเรื่องราวจี๊ดๆ และถ้าจะพูดถึงมุกตลกเนี่ย ระดับความขำของคนเราไม่เท่ากัน บางคนดูแล้วอาจจะไม่ขำก็ได้ เราเตือนท่านแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น