Cargo (2009) :
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์นับเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของกองถ่ายหนังนานาชาติ ที่นิยมพากันไปเก็บภาพโลเกชั่นสวยๆ มาไว้ในหนังของตนกันให้รึ่ม (รวมถึงหนังของพี่ไทยเราด้วย) ในขณะที่หนังของสวิสฯ เองนั้นกลับไม่เป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่ ถึงขนาดที่ว่าหลายคนยังคิดว่าประเทศนี้มีการสร้างหนังกันด้วยหรอ ทางบล็อกจึงสบช่องขอแนะนำหนังสวิสฯ แท้ๆ ตัวเป็นๆ เรื่องนี้ซะเลย ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะเป็นหนังไซไฟซะด้วย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ใช้โลเกชั่นสวยๆ ของประเทศตนเองกันเลยล่ะ
ในอนาคตเราจะหลับได้เป็นปีๆ ในน้ำเขียวแบบนี้?
ประเทศสวิสเซอร์แลนด์นับเป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมของกองถ่ายหนังนานาชาติ ที่นิยมพากันไปเก็บภาพโลเกชั่นสวยๆ มาไว้ในหนังของตนกันให้รึ่ม (รวมถึงหนังของพี่ไทยเราด้วย) ในขณะที่หนังของสวิสฯ เองนั้นกลับไม่เป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่ ถึงขนาดที่ว่าหลายคนยังคิดว่าประเทศนี้มีการสร้างหนังกันด้วยหรอ ทางบล็อกจึงสบช่องขอแนะนำหนังสวิสฯ แท้ๆ ตัวเป็นๆ เรื่องนี้ซะเลย ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะเป็นหนังไซไฟซะด้วย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ใช้โลเกชั่นสวยๆ ของประเทศตนเองกันเลยล่ะ
มีงาน CG ที่ดูดีไม่ต้องอายใคร
อนาคตในปี คศ.2267 โลกไม่สามารถอาศัยอยู่ได้เนื่องจากระบบนิเวศพังทะลาย คนที่เหลือรอดก็พากันหลบมาอาศัยอยู่อย่างแออัดบนสถานีอวกาศที่โคจรอยู่นอกโลก ซึ่ง ดร.สาวหน้ามน Laura Portmann (Anna-Katharina Schwabroh) ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งเธอก็มีความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า นั่นก็คือการตามไปอาศัยกับพี่สาวที่ดาว Rhea อันงดงาม แต่ปัญหาก็คือการจะไปที่นั่นได้ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลน่ะสิในอนาคตเราจะหลับได้เป็นปีๆ ในน้ำเขียวแบบนี้?
เธอจึงเซ็นสัญญาเป็นหนึ่งในลูกเรือยานบรรทุกสินค้าชื่อ Kassandra ที่ต้องเดินทางไปส่งสินค้าซึ่งกินระยะเวลาเดินทางทั้งหมดกว่า 8 ปี ในระหว่างที่ลูกเรือคนอื่นๆ อยู่ในสภาวะหลับลึก โดยมีเพียงเธอที่อยู่เฝ้ายานตามลำพัง เธอก็พบกับเรื่องแปลกๆ ต่างๆ ราวกับว่านอกจากเธอและลูกเรือแล้วยังมีคนอื่นอยู่บนยานลำนี้ด้วย เมื่อปลุกลูกเรือคนอื่นๆ ขึ้นมา เรื่องก็กลับเลวร้ายขึ้นไปอีกเมื่อ ลูกเรือพากันถูกฆ่าไปทีละคน ซึ่งเมื่อเธอสืบสาวเรื่องราวลึกลงไป ก็ยิ่งพบกับเรื่องสุดคาด ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงความเป็นไปของมวลมนุษยชาติเลยทีเดียว(ป๊าด)
หนังมีตัวละครไม่กี่ตัวตามแบบแผนหนังไซไฟ-ทริลเลอร์บรรยากาศชวนสงสัย
ก็ไม่เลวทีเดียวสำหรับผลงานเรื่องนี้ของสอง ผกก.Ivan Engler และ Ralph Etter เพราะสามารถนำเสนอเรื่องราวไซไฟ-ทริลเลอร์ บรรยากาศชวนสงสัย เนื้อหาจริงจังได้อย่างน่าดู เมื่อผนวกเข้ากับงาน CG ที่ดูดีเข้าไปอีก หนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่กระจอกเลยนะเนี่ย นี่ถ้าดูโดยไม่ทราบว่าเป็นหนังสวิสฯ มาก่อน อาจจะนึกว่าเป็นหนังเยอรมันได้เลยล่ะ (เพราะหนังพูดภาษาเยอรมันกันซะ) แต่น่าเสียดายนิดๆ ที่หนังขาดความตื่นเต้นไปหน่อย และจุดพลิกผันหักมุมก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ได้สักเท่าไหร่(แบบที่ Moon [2009] เคยทำให้ได้เหวอมาแล้ว) หลายช่วงของหนังชวนให้นึกถึงไอเดียจากเรื่องโน้นเรื่องนี้ ดนตรีประกอบก็ดูจะโหมอารมณ์ตื่นเต้นเกินไปบ้างในบางช่วง แม้จะไม่มีอะไร ใหม่ๆ มาฝาก แต่ถ้าจะดูกันว่านี่คือหนังไซไฟจากประเทศเล็กๆ อย่างสวิสฯ แล้วล่ะก็ นับว่าเป็นหนังที่ดูดีและน่าสนใจเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว- น่าดูเพราะ: ใครอยากดูหนังไซไฟจากสวิสเซอร์แลนด์ ที่ทำได้ดูดี ไม่อายหนังชาติอื่นๆ เลย ก็เชิญลิ้มลองได้โลด
- ไม่น่าดูเพราะ: หนังหย่อนความสนุกและความแปลกใหม่ไปนิด ดูเอามันส์คงไม่เหมาะนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น