Dear John (2010) :
หนังรักหวานหยดย้อยที่ดัดแปลงจากนิยายหวานย้อยหยดของ Nicholas Sparks ผู้เขียน The Notebook, A Walk to Remember, Message in a Bottle ที่ล้วนเคยถูกฮอลลีวู้ดจับเอาไปทำหนังให้คอหนังหัวใจโรแมนติคทั้งหลายได้ดูไปเพ้อไปมานักต่อนักแล้ว ยิ่งพอรู้ว่าหนังมาอยู่ในมือของ ผกก.Lasse Hallström ผู้ช่ำชองในการทำหนังหวานซึ้งชวนประทับใจแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ คงจะเป็นการการันตีได้พอสมควรว่าหนังคงออกมาดูดีมีเคลิ้มแน่เชียว
หนังรักหวานหยดย้อยที่ดัดแปลงจากนิยายหวานย้อยหยดของ Nicholas Sparks ผู้เขียน The Notebook, A Walk to Remember, Message in a Bottle ที่ล้วนเคยถูกฮอลลีวู้ดจับเอาไปทำหนังให้คอหนังหัวใจโรแมนติคทั้งหลายได้ดูไปเพ้อไปมานักต่อนักแล้ว ยิ่งพอรู้ว่าหนังมาอยู่ในมือของ ผกก.Lasse Hallström ผู้ช่ำชองในการทำหนังหวานซึ้งชวนประทับใจแบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ คงจะเป็นการการันตีได้พอสมควรว่าหนังคงออกมาดูดีมีเคลิ้มแน่เชียว
สองคนนี้หวานหยดกันน่าดู
และในเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวความรักหวานซึ้งระหว่าง John Tyree (Channing Tatum จาก G.I. Joe: The Rise of Cobra [2009]) ทหารหนุ่มสุดหล่อหุ่นล่ำผู้อาศัยอยู่กับคุณพ่อที่มีท่าทางแปลกๆ และ Savannah Curtis (Amanda Seyfried จาก Jennifer's Body [2009]) สาวสวยนิสัยงามที่ใครๆ ล้วนหมายปอง ซึ่งทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันแม้จะมีเวลาทำความรู้จักกันเพียงสองสัปดาห์ก่อนฝ่ายชายจะต้องกลับไปรับใช้ชาติยังต่างประเทศต่อไป โดยทั้งคู่ให้สัญญาว่าจะเขียน จม.เล่าสารทุกข์สุกดิบแก่กันตลอด แต่เรื่องราวความรักที่ดีย่อมต้องมีอุปสรรคเข้ามาเป็นบททดสอบรักแท้ ซึ่งทั้งสองจะผ่านมันไปได้หรือเปล่านั้น ก็ต้องส่งจดหมายไปถามพี่ John เขาเองแล้วล่ะ (หาหนังมาดูไม่ง่ายกว่ามั้ย?)
ยังหวานกันต่อได้อีก
และเป็นไปตามธรรมเนียมที่ต้องออกตัวก่อน ว่าเราไม่เคยอ่านหนังสือต้นฉบับจึงไม่รู้ว่าหนังดัดแปลงอะไรไปเยอะแค่ไหน จึงขอว่ากันถึงตัวหนังเพียงอย่างเดียว ซึ่งเท่าที่ดูก็พบว่าหนังไม่ค่อยจะน่าประทับใจสักเท่าไหร่เลย เพราะไม่สามารถทำให้เชื่อได้ว่าสองพระนางรักกันมากมายได้ เมื่อมีจุดหักเหเข้ามาจึงไม่สามารถทำให้สะเทือนอารมณ์คนดูได้ จะว่าไปแล้วเรื่องราวของพระเอกกับคุณพ่อยังจะน่าประทับใจกว่าเรื่องราวหลักๆ ซะอีก พอมาเจอการแสดงแบบแข็งๆ เดิมๆ เหมือนหลายเรื่องที่ผ่านมาของพระเอกเราเข้าไปด้วยแล้วก็เลยไม่ได้ใจไปใหญ่(แต่ก็ยังพอเป็นอาหารตา สำหรับสาวๆ ได้อยู่) การเขียนจม.จีบกันยังใช้ได้ผลดีอยู่เสมอ
ยังดีนะที่หนังมีเพลงแนวโฟล์คเพราะๆ มาให้ฟังกันตลอด เลยพอจะมีอะไรให้เคลิ้มได้บ้าง จะว่าไปแล้ว อันที่จริงตัวหนังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันธรรมดากว่าที่หน้าหนังชวนให้คาดหวังไปนิด ดูแล้วออกแนวเฉยๆ มากกว่าจะจี๊ดหรือน้ำตาริน และอย่าได้ถามแฟนนิยายเชียวล่ะ เพราะพวกเขาคงจะตำหนิหนังที่ทำนิยายที่พวกเขารักให้ออกมาเป็นเยี่ยงนี้แน่ๆ
ลีลาร้องเพลงกล่อมหนุ่มของนางเอกเรา
- น่าดูเพราะ: พระเอกนางเอกหน้าตาดี เพลงประกอบไพเราะ คอหนังโรแมนติคคงไม่พลาดกันนะจ้ะ
- ไม่น่าดูเพราะ: ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร และถ้าท่านเป็นแฟนนิยาย โปรดอย่าดูให้เสียอารมณ์เลยจะดีกว่า
*ของแถม*
ลีลาร้องเพลงกล่อมหนุ่มของนางเอกเรา
มีฉากหนึ่งในหนังที่เราจะได้เห็นนางเอกโชว์ลีลาเล่นกีต้าร์โปร่งร้องเพลงเพราะๆ กล่อมพระเอกให้เคลิ้ม ซึ่งเสียงของเธอก็เพราะดี ถึงแม้มาคิดๆ ดูแล้วบางคนอาจจะงงนิดหน่อยว่าใส่ฉากนี้มาเพื่อ? เราจึงขอเสนอแนวคิดที่น่าจะเป็นไปได้ดังต่อไปนี้
ก.บอกให้รู้ว่านางเอกเป็นสาวแสนเพอร์เฟกต์ที่นอกจากจะสวยนิสัยดีแล้วยังร้องเพลงเพราะอีก ต่างหาก
ข.เพื่อเป็นการโปรโมตความสามารถของเธอให้เข้าตาค่ายเทปซะเลย
ค.เธอยังติดลมจากการร้องเพลงใน Mamma Mia!(2008) อยู่เลยขอ ผกก.โชว์สักเพลง
ค.เธอยังติดลมจากการร้องเพลงใน Mamma Mia!(2008) อยู่เลยขอ ผกก.โชว์สักเพลง
ง.ถูกทุกข้อ
ฉ.ผิดทุกข้อ
ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามเพลงที่เธอร้องก็เพราะดี อันที่จริงหนังเรื่องนี้มีแต่เพลงโฟล์คเพราะๆ ทั้งนั้นเลย ดังนั้นเราจึงนำเพลงที่เธอร้องและเพลงเด่นๆ ในหนังมาฝากกันซะเลยจ้า
ฉ.ผิดทุกข้อ
ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามเพลงที่เธอร้องก็เพราะดี อันที่จริงหนังเรื่องนี้มีแต่เพลงโฟล์คเพราะๆ ทั้งนั้นเลย ดังนั้นเราจึงนำเพลงที่เธอร้องและเพลงเด่นๆ ในหนังมาฝากกันซะเลยจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น