วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

Iron Man 2 (2010): มหาประลัย เศรษฐีเกราะเหล็ก


Iron Man 2 (2010) :
ภาคแรกในปี 2008 ฮิตซะระเบิดระเบ้อ แถมยังทำให้คุณ Robert Downey, Jr.(Sherlock Holmes [2009]) กลับมาโด่งดังแบบเถิดเทิงอีกด้วย เรียกได้ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับหนังล้วนแฮปปี้ดีแทคกันถ้วนหน้า ว่าแล้วก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีภาคต่อออกมาให้ชมกันอีก ที่แน่นอนว่าอะไรๆ ก็ต้องเบิ้ลเข้าไปอีกเท่าตัวหนึ่ง ไม่ว่าตัวละคร ทุนสร้าง แม้แต่ตัว Iron Man ที่มีคู่หูเพิ่มขึ้นมาด้วย แต่ว่าความสนุกจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหนึ่งหรือเปล่านั้นก็ต้องว่ากันอีกทีนะ


คราวนี้เจอตัวโกงผู้นิยมการเฆี่ยนเป็นชีวิตจิตใจ
ภาคนี้คุณ Tony Stark (Downey, Jr.) รับมือกับความโด่งดังในฐานะ Iron Man ได้เป็นอย่างดี แต่ปัญหาก็ตามมาคือ รัฐบาลอยากได้เทคโนโลยีของเขาไปครอบครองจนตัวสั่น คู่แข่งทางธุรกิจที่หมั่นไส้และหาทางเล่นงานเขาให้จงได้ และศัตรูตัวฉกาจที่อยู่ๆ ก็โผล่มาเล่นงานเขาได้จนเกือบเดี้ยง ที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือ Arc Reactor แหล่งพลังงานที่ฝังอยู่กลางหน้าอกของเขาค่อยๆ ทำให้เขาใกล้ตายเข้าทุกที งานนี้ Iron Man เราจะจัดการปัญหายุ่งๆ เหล่านี้ยังไงกันหนอ? ก็ต้องตามไปให้กำลังใจกันเอานะจ้ะ


นักแสดงคนใหม่ที่มาเสียบแทนในบทเพื่อนพระเอกและ ผกก.ที่บทบาทเยอะขึ้น
ผกก.Jon Favreau จากภาคแรกกลับมาอีกครั้งด้วยความมั่นใจ และก็สามารถทำภาคต่อที่มีคุณภาพมามอบให้แก่แฟนๆ ได้ ด้วยทุนสร้างที่มากขึ้น บทที่ไม่บ้องแบ๊ว นักแสดงหลักที่มีเสน่ห์ และนักแสดงสมทบที่คุ้นหน้าหลายคน(ตัว ผกก.เราในบทคนขับรถของพระเอกก็มีบทบาทในภาคนี้เยอะขึ้นตรึมเลย) งานสร้างที่ดูดีตามมาตรฐานสูงสุดของฮอลลีวู้ด ก็ล้วนทำให้หนังดูดีมีราศีขึ้นอีกแยะเลย


เจอปัญหารุมเร้าแบบนี้พี่แกก็ต้องนั่งคิดหนักเป็นธรรมดา
ถึงกระนั้นด้วยความที่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่สำหรับผู้ใหญ่ใจเด็ก บทสนทนาตรึมแบบในภาคแรก เด็กๆ อาจดูแล้วมีเบื่อ หนังได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องปูเรื่องให้มากความ มาถึงก็ใส่ชุด Iron Man กันเลย แต่สิ่งที่เสียไปคือ เสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ อย่างฉากจำพวกการลองผิดลองถูกในการพยายามเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของพระเอกแบบในภาคแรกไปแทน


มีสาวสวยมาทำให้พระเอก(และคนดู)เพ้ออีกคน
ด้านนักแสดง คุณ Downey, Jr.ยังคงเปี่ยมเสน่ห์ในบทซุปเปอร์ฮีโร่ เศรษฐี จอมอัจฉริยะ ผู้มั่นใจในตนเอง ถึงขั้นหลงตัวเอง ซึ่งคนดูคงเกลียดแกไม่ลงหรอก ในขณะที่นักแสดงสมทบหน้าใหม่อย่าง Don Cheadle (Brooklyn's Finest [2009]) ที่มาเสียบแทน Terrence Howard ก็มาแบบเฉยๆ และหน้าตาตอนแกใส่ชุดเกราะบู๊ดูไม่ค่อยอินเลย(ความคิดเห็นส่วนตัว) ส่วนน้องหนู Scarlett Johansson (The Prestige [2006]) เซ็กซี่และทะมัดทะแมงในฉากบู๊ดี อ่อ ตัวโกงอย่าง Mickey Rourke (The Wrestler [2008]) ก็ดูจะทุ่มเทให้กับบทดีมาก แต่ว่าอุตส่าห์มาอย่าง มาดเหลือกิน ดูร้ายกาจดี แต่ไหงแกกลับเดี้ยงง่ายไปหน่อยซะงั้น


คราวนี้มีคู่หูมาช่วยกันบู๊ด้วยอีกตัว
รวมๆ แล้วนี่เป็นหนังภาคต่อที่ทำได้อย่างน่าพอใจ เป็นหนังซัมเมอร์ขนานแท้ ที่เหมาะสำหรับแฟนๆ ตัวละครตัวนี้ และถ้าใครทนทู่ซี้นั่งรอจนเครดิตท้ายเรื่องจบ ก็จะได้เห็นการเกริ่นถึงซุปเปอร์ฮีโร่อีกตัวหนึ่ง ที่จะมีหนังของตนออกมาเป็นรายต่อไป ซึ่งก็นะ อุตส่าห์นั่งรอซะตั้งนาน(รอบที่ผมดู เหลือผมในโรงคนเดียว) พอมาถึงก็มาแบบแป๊บๆ ไม่น่าฮือฮาเอาซะเลย เหอๆ
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังภาคต่อที่ทำได้ดี ดูเพลิน แฟนๆ จากภาคแรกคงไม่พลาดกัน
  • ไม่น่าดูเพราะ: ยังคงเต็มไปด้วยบทสนทนา เด็กๆ ดูแล้วคงไม่สนุกเท่าผู้ใหญ่(ใจเด็ก)ดู



*ช่วงของแถม*

ภาคนี้หันใช้บริการเพลงของวงร็อคชาวออสซี่อย่าง AC/DC
เพลง Iron Man ของวงในตำนานอย่าง Black Sabbath ถูกนำมาใช้ได้อย่างลงตัวสุดๆ ในภาคแรก พอมาถึงภาคสองนี้ผู้สร้างก็หันมาใช้บริการวงฮาร์ดร็อคในตำนานจากแดนจิงโจ้อย่าง AC/DC บ้าง ซึ่งว่าก็ว่าเหอะ ถึงจะเป็นเพลงร็อคคลาสสิคเหมือนกัน แต่พอมาอยู่ในหนังแล้วก็รู้สึกว่าไม่ขลังเท่าเพลงของ Black Sabbath จากภาคแรกเลย(ความคิดเห็นส่วนตัวนะ) ยังไงซะเราก็มีมาให้ฟังกันทั้งเพลงจากภาคแรกและภาคสองเลยจ้า


MP3: Black Sabbath - Iron Man


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น