เจ๊ Jovovich ในบทนักจิตวิทยา(?!)
หนังอ้างว่าสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ณ เมือง Nome รัฐ Alaska ประเทศอเมริกาในระหว่างวันที่ 1-9 ต.ค.2000 โดยมีฟุตเตจวีดีโอและคลิปเสียงที่ถูกบันทึกโดยนักจิตวิทยานาม ดร. Abigail Tyler มายืนยัน สลับกับการใช้นักแสดงมาร่วมกันจำลองเหตุการณ์นั้นๆ ให้ดูไปด้วย ซึ่งตัว ดร.Tyler (รับบทโดย Milla Jovovich จาก Resident Evil [2002]) ได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ นาๆ เมื่อเหล่าคนไข้ของเธอต่างก็ประสบปัญหานอนไม่หลับพร้อมๆ กันโดยไม่ได้นัดหมาย พร้อมกับบรรยายว่าเห็นนกเค้าแมวสีขาวจ้องมองมาที่พวกเขาทุกคืน ในช่วงเวลาเดียวกันเป๊ะๆ อีกด้วย ซึ่งไปๆ มาๆ มันอาจโยงใยไปถึงเรื่องราวของการลักพาตัวจากเหล่ามนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้
ดูหน้าเจ๊ก็พอจะรู้แล้วว่าหนังระทึกแค่ไหน
หนังบอกกันโต้งๆ แต่แรกว่าจะจำลองเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงๆ แถมมีภาพฟุตเตจและคลิปเสียงจากเหตุการณ์จริงมาให้ดูให้ฟังกันตลอดด้วย โดยนำเสนอสลับกันกับการแสดง ซึ่งบางทีก็นำเสนอพร้อมๆ กันไปเลย (นำเสนอแบบแบ่งเฟรมสไตล์หนังซีรีย์เรื่อง 24 ซะด้วย) เพื่อยืนยันให้เห็นว่าหนังได้จำลองจากเหตุการณ์จริงแบบเป๊ะๆ ชนิดคำต่อคำเลย ซึ่งก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เรื่องราวได้เป็นอย่างดี ถึงกระนั้นเหตุการณ์ในหนังก็ไม่ได้ดูเป็นสารคดีที่น่าเบื่อ หากแต่เล่าเรื่องได้อย่างระทึกขวัญ (ถ้าดูเผินๆ อาจนึกว่าหนังผี) พอมีฟุตเตจจริงมายืนยันก็ยิ่งระทึกกันไปใหญ่นะสิครับทั่นยังอุตส่าห์มีโชว์หวิวเล็กๆ น้อยๆ
คุณ Jovovich ก็มาในมาดคุณแม่นักจิตวิทยาได้อย่างมีนัยยะ ซึ่งเข้าใจ(ไปเอง)ว่าผู้สร้างจงใจเลือกเธอมาให้ไม่เหมาะกับบท เพราะเธอดูเป็นสาวแกร่งและดูเป็นดาราเกินไป ซึ่งตัดกับบุคลิกของดร.ตัวจริงๆ ในฟุตเตจ ที่แสนจะโทรมและเปราะบาง (แถมให้คุณ Jovovich ออกมาประกาศแต่แรกว่าฉันจะมาเล่นเป็น ดร.นะจ้ะ) ทั้งนี้คงเพราะตั้งใจให้ในส่วนของหนังดูเป็น 'หนัง' ซึ่งความดูเป็นหนังของมันได้กลับส่งเสริมความสมจริงให้กับฟุตเตจที่นำเสนอควบคู่กันมากขึ้นไปอีก (ฉลาดนะเนี่ย) ถึงดูเผินๆ ก็คงไม่พ้นหนังแนวระทึกขวัญเกี่ยวกับเอเลี่ยนทั่วๆ ไป แต่ถ้ามองในมุมไอเดียการนำเสนอแล้วถือว่าเข้าท่า โดยเฉพาะการทำให้ฟุตเตจหลอกๆ ดูน่าเชื่อถือขึ้นมาได้เพราะหนังหลอกๆ อีกที(ป๊าด) ถ้าหากว่า Paranormal Activity สามารถทำให้คนเชื่อว่าภูติผีปีศาจมีอยู่จริง หนังเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จในการทำให้เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงเช่นเดียวกัน ปล.ขอย้ำอีกครั้งว่า ฟุตเตจและคลิปเสียงที่เห็นในหนังก็เป็นของปลอมที่ทำขึ้นมานะจ้ะ (อ้าว?)
- น่าดูเพราะ: เป็นหนังเรื่องจริงผ่านจอกำมะลอที่มีไอเดียนำเสนอที่น่าซื้อ นี่ถ้าในหนังเป็นคลิปจริงๆ ล่ะก็คงได้ดาวจากเราเพิ่มเป็นแน่เชียว
- ไม่น่าดูเพราะ: เป็นหนังที่มาแต่น้อย ไม่โฉ่งฉ่าง ซึ่งบางทีดูแล้วเหมือนไม่มีอะไร ถ้าไม่ซื้อไอเดียล่ะก็ งานนี้วัยรุ่นเซ็งแน่เชียว
*ช่วงอันเนื่องมาจากหนัง*
ลักษณะของมะนาวต่างดุ๊ด
ชื่อหนัง The Fourth Kind มาจากประเภทที่ 4 ของการพบเห็นมนุษย์ต่างดาวระยะต่างๆ ซึ่งมีกันทั้งหมดถึง 7 ประเภท (แต่เดิมมีแค่ 3 ประเภท) ดังต่อไปนี้
- Close Encounter of the First kind: คือการพบเห็นวัตถุบินได้ที่ไม่อาจระบุที่มา หรือเทคโนโลยี รวมทั้งลำแสงประหลาดทั้งหลาย ในระยะไกล
- Close Encounter of the Second kind: คือประเภทที่พบ UFO และหลักฐานที่แสดงถีง UFO เช่น รังสีหรือความร้อน, ร่องรอยความเสียหายของพื้นที่, สัตว์ที่ตื่นกลัว, มีคลื่นรบกวนเครื่องจักรหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
- Close Encounter of the Third kind: คือประเภทที่ได้เห็น UFO ในระดับใกล้ชิด หรืออาจจะเข้าไปในยานและออกมาโดยที่ยังจำความได้ รวมทั้งการพบเห็นตัวเป็นๆ ของเอเลี่ยนด้วย
- Close Encounter of the Fourth kind: ที่มาของชื่อหนัง คือประเภทที่โดนเอเลี่ยนลักพาตัวไป และออกมาทั้งในสภาพที่จำหรือจำความไม่ได้ หรือแม้แต่การเกิดภาพหลอนหรือฝันเกี่ยวกับการเจอเอเลี่ยนด้วย
- Close Encounter of the Fifth kind: คือประเภทที่ติดต่อสื่อสารกับเอเลี่ยนแบบเป็นกิจลักษณะ
- Close Encounter of the Sixth kind: คือประเภทที่พบ UFO เกิดอุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงการพบเอเลี่ยนบาดเจ็บหรือล้มตายเป็นศพ
- Close Encounter of the Seventh kind: คือประเภทที่ มนุษย์กับเอเลี่ยน ใช้เทคโนโลยีร่วมกัน เช่นในทฤษฏีที่ว่าคนยุคโบราณ อย่างชาวแอตแลนติส ใช้เทคโนโลยีต่างดาวได้
*แปลมั่วๆ จาก wikipedia ผิดพลาดประการได้โปรดเพิ่มเติมนะจ้ะ*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น