วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

Sword of Desperation (2010): ซามูไรดาบร่อแร่




Sword of Desperation (2010) :

คอหนังซามูไรเน้นคุณภาพมีอันได้เฮกันอีกแล้วเมื่อผลงานของ ชูเฮ ฟูจิซาว่า เจ้าพ่อนิยายซามูไรถูกหยิบมาทำหนังอีกเรื่อง ตามหลังผลงานเด็ดๆ ของเขาที่เราๆ ท่านๆ รู้จักกันดีอย่าง The Twilight Samurai (2002), The Hidden Blade (2004) และ Love and Honor (2006) นั่นไง


ดูมาดพระเอกก็รู้ว่าเรื่องนี้ซีเรียส
มาเรื่องนี้ก็ว่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ ของ คาเนมิ ซันซอม่อน (เอตสึชิ โทโยกาว่า จาก ไตรภาค 20th Century Boys) ซามูไรหม้าย นิสัยพูดน้อยฟันหนักที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาฟัน (ฆ่า) สนมเอกแสนรักของเจ้านายตน แบบที่ช็อคกันไปทั้งปราสาท แต่แทนที่เขาจะถูกบั่นคออย่างใจคิด กลับโดนลงโทษเบาะๆ ให้ถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหนึ่งปี แถมพ้นโทษมายังถูกตั้งให้เป็นหัวหน้าองครักษ์อีกต่างหากซะงั้น (?!) เล่นเอาพระเอกและคนดูงงชีวิตไปตามๆ กัน ซึ่งงานนี้จะมีลับลมคมในหรือจะออกมาท่าไหนต่อไปนั้นก็ต้องติดตามดูกันต่อไปแหล่ะจ้า


หน้าตาพระนางของเรื่อง
คนที่เคยผ่านตาหนังเรื่องที่เอ่ยถึงข้างต้นซึ่งสร้างจากผลงานของคุณฟูจิซาว่านั้นคงจะรู้ดีว่าหนังจะออกมาประมาณไหน ซึ่งก็รวมถึงเรื่องนี้ด้วยที่ยังคงเดินเรื่องเนิบช้า นิ่งๆ แต่มั่นคง เน้นฉากดราม่ามากกว่าฉากบู๊ แต่พอถึงเวลาจะบู๊ก็เด็ดไม่ใช่เล่น หนังโดดเด่นทางด้านเสื้อผ้าหน้าผม การแสดงขนบธรรมเนียมประเพณีรูปแบบการใช้ชีวิตอันอ่อนช้อยประณีตบรรจงของคนญี่ปุ่นยุคโน้น แถมยังมีวิวทิวทัศน์อันงดงามมาให้ชื่นชมได้อีก

ฉากบู๊มีน้อยแต่เข้าท่า
ดังนั้นถ้าคาดหวังจะหนังจะออกมาบู๊กันมันส์หยด ฟันกันเลือดสาดทั้งเรื่องก็คงจะผิดหวังแน่ ส่วนการที่หนังเดินเรื่องเนิบๆ นิ่งๆ รวมทั้งการเล่าเรื่องสลับช่วงเวลาไปมาที่ค่อนข้างชวนสับสนนิดๆ นั่นก็อาจเป็นปัญหาสำหรับหลายๆ คนเช่นกัน คือจะเบื่อเอาได้ง่ายๆ แต่ถ้าท่านชอบหนังซามูไรเน้นดราม่าล่ะก็ นี่เป็นหนังดีอีกเรื่องที่คงจะเป็นที่ถูกอกถูกใจ โดนใจไม่ใช่น้อย ใครมีหูจงฟังเถิด

เสื้อผ้าหน้าผมวิวทิวทัศน์งดงาม
และแน่นอนสำหรับการพูดถึงวิถีซามูไร ซึ่งในคราวนี้แสดงให้เห็นว่าบางครั้งซามูไรก็ต้องยอมเสียสละตนเองเพื่อทำสิ่งที่อาจขัดใจเจ้านายและคนรอบข้างเพื่อผลดีของส่วนรวม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังตอกย้ำให้เห็นถึงความชีช้ำของซามูไร ที่ต้องเชื่อฟังเจ้านายแบบสุดๆ ชนิดที่ว่าให้ไปตายก็ต้องไป แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเจ้านายตนนั้นเป็นคนที่ชั่วร้ายมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งนั่นก็ทำให้คนดีๆ หลายคนอาจต้องตายเพื่อคนเลวๆ แค่คนเดียว แล้วนับประสาอะไรกับชาวบ้านตาดำๆ ที่แทบไม่มียศศักดิ์หรือมีค่ามีตัวตนในสังคมเลย ซึ่งก็น่าแปลกจริงที่ทุกวันนี้ เรื่องคล้ายๆ แบบนี้ก็ยังเกิดขึ้นในบางแห่งของสังคมโลกอยู่เลย ว่ามั้ย?
  • + หนังซามูไรเน้นดราม่า แสดงความ ประณีตบรรจง งดงาม ตามวิถีของชาวญี่ปุ่น แต่ถึงคิวบู๊ก็เด็ดขาด แบบที่คอหนังแนวนี้ชื่นชอบกัน
  • - หนังเดินเรื่องนิ่งๆ เรื่อยๆ แทบไม่มีฉากบู๊ให้เห็น เล่าเรื่องบางครั้งชวนสับสนนิดๆ หลายคนอาจพาลจะเบื่อเอาได้




*รีวิวหนังญี่ปุ่นฟันดาบโช๊งเช๊งเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น