The Darkest Hour (2011) :
เอเลี่ยนถล่มมอสโคว์กันบ้างล่ะคราวนี้
หนังแนว 'เอเลี่ยนบุกโลก' นั้นได้รับความนิยมมาช้านาน จนถึงปัจจุบันก็ยังขายได้อยู่ จึงมีหนังแนวนี้ถูกสร้างออกมาให้ดูกันทุกบ่อยๆ แม้ว่าหลายคนจะตั้งข้อสังเกตว่า "พวกเอเลี่ยนบุกเป็นแต่ที่อเมริกาหรือไงฟะ?" (ก็แหงสิมันหนังฮอลลีวู้ดนี่) หนังเรื่องนี้เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศพาพ่อแม่พี่น้องคนดูหนังที่เคารพรักไปดูเอเลี่ยนบุกประเทศอื่นกันบ้าง ซึ่งนั่นก็คือประเทศรัสเซียจ้า
เอเลี่ยนถล่มมอสโคว์กันบ้างล่ะคราวนี้
แต่ช้าก่อน ถึงจะไปถล่มเละกันที่รัสเซีย แต่หนังก็ไม่พ้นต้องมีคนมะกันเป็นตัวเอกเป็นฮีโร่อยู่ดีครับท่าน ซึ่งก็ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งว่ามีแต่คนอเมริกันเท่านั้นที่กอบกู้โลกได้ (เหอๆ) ด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นหนุ่มสาวชาวมะกันที่ดันอยู่ในมอสโคว์ตอนที่เอเลี่ยนล่องหนบุกถล่มโลกพอดี พวกเขาก็เลยต้องทางเอาชีวิตรอดกลับไปยังมาตุภูมิ (สำนึกรักบ้านเกิด) ให้จงได้ด้วยประการฉะนี้เอย
คนมะกันยังคงกู้โลกอีกตามเคย
หนังเป็นการร่วมทุนระหว่างผู้สร้างมะกันและรัสเซี่ยน ดังนั้นจึงต้องแบ่งเค้กแชร์ผลพลอยได้ให้ลงตัวหน่อย โดยมะกันขอเป็นพระเอก ส่วนทางรัสเซี่ยนขออาศัยหนังเรื่องนี้โปรโมทการท่องเที่ยว หนังเน้นแสดงแสงสี ความเจริญ ความเป็นอยู่อันทันสมัย ตึกรามบ้านช่อง ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อเสนอความน่าตะลอนทัวร์ของมอสโคว์ในทุกวันนี้แก่สายตาชาวโลกทั้งหลาย หลายครั้งเราจึงได้เห็นร้านรวง ป้ายโฆษณาสินค้าของทางตะวันตกให้เห็นอยู่เนืองๆ (โดยเฉพาะแม็กโดนัลด์ อิอิ) ส่วนคนชาติอื่นนั้นต้องออกแนวทำตัวเกรียนเท่านั้น
แต่ในแง่การเล่าเรื่องของหนังแล้ว ป๊าด! ถึงแม้จะมีนักแสดงหนุ่มสาวที่มีเครดิตอันดีติดตัวมาส่งเสริมโหงวเฮ้งของหนัง (พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งแล้วว่าหนุ่ม Emile Hirsch ยังไม่เหมาะกับหนังเน้นเอฟเฟกต์อยู่ดี) และไอเดียเอเลี่ยนล่องหนจะดูเข้าท่าดีอยู่ แต่บทนั้นยังธรรมดาและซ้ำซากเกินไป แถมหลายครั้งบทพูดและการตัดสินใจของบรรดาตัวละครยังดูตลกคาเฟ่สิ้นดี ในขณะที่ด้านโปรดักชั่นดีไซน์นั้นออกมาดูดีเพราะ ผกก.Chris Gorak เขาทำงานด้านนี้มาอยู่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวมีให้เห็นตลอดงาน
นี่จึงเป็นหนังแนวเอเลี่ยนที่หน้าหนังดูดี มีบรรยากาศที่แปลกแตกต่างออกไป ชวนให้น่าดูนัก แต่ผลที่ออกมายังถือว่าน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับจุดแข็งที่หนังมี หนังเลยออกมาดูงั้นๆ ไปๆ มาๆ มันก็คือหนังโปรโมทการท่องเที่ยวของรัสเซียเขาดีๆ นี่เอง รัฐบาลไทยจะเอาอย่างเขาชวนฮอลลีวู้ดมาทำหนังเอเลี่ยนบุกกรุงเทพบ้างก็ได้นะ ดีกว่าปล่อยให้หนังฝรั่งมาเสนอแต่มุมอโคจรของกรุงเทพอย่างที่เป็นมาอยู่นั่นแหล่ะ เหอๆ- + หน้าหนังดูดี นักแสดงเข้าท่า ไอเดียเอเลี่ยนล่องหนและการเปลี่ยนบรรยากาศไปถล่มกันที่มอสโคว์น่าสนใจไม่น้อย
- - เหมือนหนังโปรโมทการท่องเที่ยวรัสเซีย แต่ด้านความสนุกของหนังกลับน้อยนิดเมื่อเทียบกับจุดแข็งที่หนังมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น