วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Cashback (2006): หยุดเวลาไว้จี๊ดรัก


Cashback (2006) :
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (เมื่อปี 2004) ยอดชายนาย Sean Ellis เกิดปิ๊งไอเดียกระฉูดทำหนังสั้นความยาว 18 นาทีที่เกี่ยวกับหนุ่มอารมณ์ศิลป์ที่อกหักจากแฟนสาว แล้วก็เกิดจิตตกนอนไม่หลับขึ้นมาเสียดื้อๆ ว่าแล้วก็เลยตัดสินใจไปสมัครทำงานกะกลางคืนในซูเปอร์มาเก็ตมันซะเลย แต่งานมันก็แสนจะน่าเบื่อจริงๆ เชียว เขาก็เลยจินตนาการแก้เซ็งว่าตนสามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้ แล้วก็เที่ยวไปแก้ผ้าบรรดาลูกค้าสาวๆ สวยๆ ที่กำลังยืนนิ่งไม่ไหวติงจากการหยุดเวลานั้น เพื่อเอามาเป็นแบบให้ตนวาดรูปเปลือย ชนิดสะใจโก๋ไปเลยล่ะงานนี้


บางทีรักจี๊ดๆ ก็เกิดขึ้นในซูเปอร์มาเก็ตได้เหมือนกันนะ
ตัวหนังสั้นนี้นั้นก็ทำออกมาโดนใจทุกคนที่ได้ดูเอามากๆ จนกวาดรางวัลเวทีต่างๆ มาเพียบ ส่งผลให้ ผกก.เราต้องต่อยอดขยายเรื่องราวให้กลายเป็นหนังยาวมันซะเลย ประจวบเหมาะกับการที่ตัวหนังถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสก้าร์สาขาหนังสั้นยอดเยี่ยมในปี 2006 อีกด้วย(แต่สุดท้ายก็กินแห้ว) ผลก็เลยออกมาเป็นหนังรักตลกไอเดียสุดเก๋ปนเซ็กซี่เรื่องนี้ไปในที่สุด


ดูหน้าตาพวกพระเอกเราแต่ละคนซะก่อน
ผกก.Ellis เขามีสไตล์การเล่าเรื่องที่แนวไม่ใช่เล่น เราจึงจะได้เห็นไอเดียสร้างสรรค์ในหนังเพียบเลยล่ะ ทั้งงานด้านภาพและการตัดต่อที่ดูดีตามสไตล์มิวสิควีดีโอ แถม ผกก.ยังยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงโดยเอาหนังฉบับเดิม มาแปะไว้ในหนังเวอร์ชั่นยาวเพื่อเป็นการประหยัดงบได้ชนิดเนียนๆ ไร้รอยต่อชวนสะดุดอารมณ์ และก็มีไดอะล็อกโดนๆ กับฉากจี๊ดๆ เก๋ๆ ให้คอหนังได้ปลื้มกันอีกด้วย


หนังเต็มไปด้วยสาวสวยๆ (มาโชว์เต้า)
อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นมากๆ ในหนังก็คือความโป๊ ที่โป๊กระหน่ำซัมเมอร์เซลชนิดเห็นเต้าลอยไปลอยมาอยู่หลายฉากหลายตอน(แต่ออกแนวศิลปะไม่อนาจาร) ซึ่งตรงนี้บรรดาหนุ่มๆ คงจะแฮปปี้ดีแทคกันเป็นพิเศษ ส่วนบางช่วงก็มาด้วยมุกหนังตลกพื้นๆ ที่ส่งผลให้ความแจ่มของหนังลดน้อยลงไปพอสมควร และอะไรหลายๆ อย่างก็ดูจะคลี่คลายไปในทางแง่บวกง่ายๆ ไปนิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังโดยรวมก็ออกมาฟีลกู้ด ดูเพลิน การนำเสนอก็เข้าท่า แนวนิดๆ แถมยังจี๊ดได้อีกต่างหากจ้า
  • จุดเด่น: เป็นหนังรักตลกจากอังกฤษที่ไอเดียดี การนำเสนอเก๋ เต็มไปด้วยสาวเปลือยถูกใจหนุ่มๆ และยังมีอะไรจี๊ดๆ โดนใจคอหนังรักได้อีกด้วย แหล่มไปเลยจ้า
  • จุดด้อย: บางช่วงดูเป็นหนังตลกแบบพื้นๆ ไปอย่างน่าเสียดาย และสาวโป๊เพียบซะปานนี้ คงจะไม่ใช่หนังที่นั่งดูกันได้พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวหรอกนะ เหอๆ


งานด้านภาพดูสวยเก๋ไม่ใช่เล่น





*ช่วงเพลงในหนัง*

Grand Avenue
เพลงที่ใช้ในช่วงเอนด์เครดิตเป็นผลงานของวงร็อคสี่หนุ่มจากเดนมาร์กที่ชื่อ Grand Avenue ซึ่งเพลงที่ว่าก็คือ 'She' เพลงจังหวะโจ๊ะปานกลาง ทำนองติดหูง่าย เข้ากับความแนวของหนังได้ไม่เลวทีเดียว ว่าแล้วเราก็มาฟังกันเลยจ้า





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น