วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

The Conspirator (2010): อย่าบอกว่าเจ๊มีเอี่ยว

The Conspirator (2010) :
หนังดราม่าประวัติศาสตร์ขึ้นโรงขึ้นศาลเรื่องนี้คือผลงานเรื่องแรกจากสตูดิโอ 'American Film Company' ที่มีปณิธานอันยิ่งใหญ่ในการมุ่งสร้างหนังประวัติศาสตร์ชาติมะกัน ที่เน้นความถูกต้องแม่นยำตามข้อเท็จจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้คนมะกันรุ่นใหม่ (และคนทั่วโลก)ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวมะกันผ่านทางภาพยนตร์ซึ่งถือเป็นสื่อทางวัฒนธรรมที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดของคนมะกันนั่นเอง


สองตัวละครเด่นของเรื่อง
หนังเสนอเรื่องราวของ Mary Scott (Robin Wright) สาวใหญ่เคร่งศาสนาที่ถูกจับกุมในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการวางแผนลอบสังหารทั่น Abraham Lincoln ปธน.ผู้เป็นที่รักของคนทั้งชาติ โดยเธอได้ทนายหนุ่มไฟแรงที่รับบทโดย James McAvoy มาว่าความแก้ต่างให้แบบเสียไม่ได้ เพราะเขาก็คิดปักใจแต่แรกแล้วว่าเธอน่ะผิดแบบเต็มประตูเหมือนดั่งเช่นที่คนมะกันทั้งประเทศคิดในตอนนั้น


ยังจำสาวคนขวาได้มั้ยเอ่ย?
แต่แล้วเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนใจเมื่อพบว่าเธอเองอาจจะเป็นเพียงแค่เหยื่อของความเกลียดชังและการ แก้แค้น ที่ถูกสังคมพิพากษาให้ถูกแขวนคอนับตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับแล้วก็ได้ ว่าแล้วพระเอกเราจึงขอทำทุกอย่างเพื่อช่วยผู้หญิงคนนี้ให้พ้นโทษจงได้ แม้ว่าเขาจะต้องถูกคนทั้งชาติหรือแม้แต่แฟนตนเองเกลียดชังไปด้วยก็ตามทีเถอะ


หมอนี่คือคนสังหารทั่นลินคอล์น
ผกก.หน้าเหี่ยว Robert Redford กลับมาอีกครั้งหลังจากคราวที่แล้วกอดคอกันเจ๊งไปไม่เป็นท่ากับ Tom Cruise ใน Lions for Lambs (2007) ซึ่งมาคราวนี้แกก็ไปเรื่อยๆ ของแก คือหนังไม่ถึงกับโดดเด่นและก็ไม่มีอะไรที่แย่ หนังมีดีตรงที่มีนักแสดงคุ้นหน้ามากมายผลัดกันมาเสนอหน้าให้เห็น ส่วนการแสดงของทุกคนก็เป็นไปตามมาตรฐานอันดีของแต่ละคนไม่มีอะไรให้ต้องติกัน


ดูก็รู้ว่าหนังเรื่องนี้ซีเรียส
คนที่ชอบหนังแนวขึ้นโรงขึ้นศาลหรือผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ชาติมะกันก็คงจะถูกใจหนังเรื่องนี้กันได้อยู่ (เพราะถ้าไม่ใช่คนสองกลุ่มนี้จะพบว่าหนังน่าเบื่อนิดๆ) ซึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งของพวกฝรั่งเขาก็คือ กล้ายอมรับในความผิดพลาดในอดีตของตน และใช้ความผิดพลาดนั้นปรับปรุงให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้ประเทศชาติของเขายิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้นั่นแล
  • + เป็นหนังดราม่าขึ้นโรงขึ้นศาลจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ชาติมะกันที่ทำออกมาได้น่าสนใจ ดารามากมี ดูได้ดูดีในระดับหนึ่ง
  • - หนังมาแบบเรื่อยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นโดนใจ



*ช่วงเพลงในหนัง*

Ray LaMontagne
ช่วงเอนด์เครดิตหนังใช้เพลง Empty จากอัลบั้ม 'Till the Sun Turns Black' (2006) ของศิลปินโฟลค์เคราดกชาวมะกัน Ray LaMontagne ที่ก็ให้อารมณ์เหงาๆ เศร้าๆ หงอยๆ พื้นบ้านๆ แต่เนื้อหาคมคาย ไปกันได้ดีกับบรรยากาศของหนัง ว่าแล้วเราก็มาฟังกันอีกทีเถิดจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น