Source Code (2011) :
Duncan Jones ผกก.หนุ่มไฟแรงจากอังกฤษ ลูกชายของลุง David Bowie นักร้องดังในตำนาน (ที่ยังมีลมหายใจอยู่) แจ้งเกิดได้อย่างงดงามจากหนังไซไฟทุนต่ำเหงาระทึกอย่าง Moon (2009) มาคราวนี้เขากลับมาอีกครั้งกับผลงานหนังไซไฟไอเดียสุดแจ่ม ที่เป็นเหมือนกับ Groundhog Day (1993) เวอร์ชั่นสุดระทึกก็มิปาน
อยู่กันบนรถไฟกันซะเกือบตลอดเรื่องเลย
พ่อหนุ่ม Jake Gyllenhaal ที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจาก Prince of Persia: The Sands of Time (2010) ขอกลับมาแก้มืออีกครั้งในบท ร้อยเอก Colter Stevens นายทหารหนุ่มที่พบว่าตนเองมีภารกิจต้องค้นหาระเบิดและตัวคนร้ายที่อยู่บนรถไฟขบวนที่เขากำลังโดยสารอยู่ให้ได้ภายในระยะเวลาจำกัดแค่แปดนาที ซึ่งแน่นอนว่าระยะเวลาเพียงเท่านั้น เขาต้องทำไม่สำเร็จแน่นอน แต่แทนที่เขาจะตายแล้วตายเลยจากการระเบิดของรถไฟ เขากลับพบว่าตนยังสามารถกลับไปในช่วงแปดนาทีที่ผ่านมาได้แบบครั้งแล้วครั้งเล่าซะงั้น (ป๊าด!?)
มีลงจากรถไฟอยู่เหมือนกัน
แม้ผลงานเรื่องนี้ของ ผกก.Jones จะทุนหนาขึ้น สเกลใหญ่ขึ้นและมีนักแสดงดังๆ หลายคนมาช่วยทำให้หน้าหนังดึงดูดมหาชนคนดูหนังมากขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นหนังที่เน้นขายไอเดียอย่างเช่นผลงานที่ผ่านมาของเขาเช่นเดิม พล็อตเรื่องนั้นก็แจ่มและมีไอเดียที่เข้าท่าท้าทายซีพียูในสมองมากๆ เลยทีเดียว ส่วนความลุ้นระทึกนั้นก็เต็มเปี่ยม สร้างความน่าติดตามไปได้ตลอดทั้งเรื่อง บรรดานักแสดงก็ล้วนมีเสน่ห์และทำหน้าที่ของตนได้อย่างแจ่มแจ๋วซะทุกคน
คู่พระนางของเรื่อง
แต่ถึงจะมีไอเดียที่ดี ทว่าการเล่นกับเรื่องที่มีเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ คงจะไม่เป็นที่ชื่นชอบกันได้ทุกคนหรอก และการโม้เรื่องทฤษฏีต่างๆ ในหนังนั้นก็ยังโม้ให้คาใจอยู่นิด ซึ่งอันนี้ก็คงต้องพึ่งบรรดาแฟนหนังมานั่งถกให้ร้องอ๋อกันต่อไป ถึงโดยรวมแล้วจะไม่ถึงกับเด็ดดวงจนเป็นที่ฮือฮาได้เท่ากับครั้ง Inception เมื่อปีก่อน แต่เท่านี้ผลลัพธ์ก็ออกมาน่าพอใจมากๆ แล้วล่ะนะ โดยเฉพาะการที่หนังสอดแทรกความโรแมนติกสุดซึ้งเข้าไปได้อย่างกินใจ ก็เลยทำให้ได้ใจเราไปเต็มๆ ในที่สุดจ้า
หนุ่ม Jake เราได้ใจ (สาว)ไปเต็มๆ
- + หนังไซไฟทริลเลอร์สุดระทึก ไอเดียแจ่ม แถมยังมีซึ้งชวนประทับใจได้อีก แจ่มไปเลยจ้า
- - ทฤษฏีโม้ยังน่าคาใจ และไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังที่มีฉากซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น