นี่คือหนังยาวเรื่องที่สองต่อจาก Machete (2010) ที่ถูกต่อยอดจากการเป็นหนังเทรลเลอร์กำมะลอที่ฉายคั่นในหนังควบ Grindhouse (2007) ของเสี่ย Quentin Tarantino (Death Proof) และ Robert Rodriguez (Planet Terror) ซึ่งถึงแม้ศักดิ์ศรีและหน้าหนังจะด้อยกว่าเขา แต่ก็ออกมาถูกใจแฟนๆ จนถูกยกย่องว่าทำได้โหดมันส์ฮากว่าสามเรื่องที่เอ่ยมาข้างตนเสียอีกด้วยซ้ำไป
ลุง Rutger Hauer ขอเป็นพระเอกบ้างเถ๊อะ
ส่วนเรื่องราวก็ไม่มีอะไรซับซ้อน คือ Hobo (รับบทโดยป๋า Rutger Hauer) อิตาลุงคนเรร่อนที่เพิ่งเดินทางมายังเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็พบว่าเมืองนี้ช่างเต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรม อันธพาลครองเมือง ชาวบ้านถูกข่มเหง และด้วยความที่เขาเป็นพระเอก (อ่ะนะ) เลยอดที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ จึงได้ลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยพิพากษาเหล่าคนพาลให้ตายตกไปตามกันด้วยปืนลูกซองที่ยิงยังไงกระสุนก็ไม่ยอมหมดซะที (ป๊าด!?)
ลูกบ้ามีมาให้ตรึม
ผกก.Jason Eisener ยังคงคอนเส็ปท์หนัง Grindhouse กันเต็มที่ด้วยการพยายามทำออกมาให้เหมือนหนังเกรดบีสมัยก่อน โดยการใช้สีสันเข้มๆ ฉูดฉาด, การแต่งกายและดนตรียุค 80 และฉากบู๊ๆ โหดๆ เลือดสาด ที่เน้นโหดมันส์ฮา เทคนิคที่ดูปลอมๆ ไม่สนความสมจริงทั้งสิ้น เมื่อผนวกกับการที่หนังทุนต่ำไร้ดาราดัง หนังจึงออกมาดูเกรดบีจริงๆ ไม่ได้พยายามเสแสร้งแกล้งเกรดบีเหมือนในรายของ Machete หรือ Grindhouse เขาแต่อย่างใด
เลือดสาดกันเต็มเหนี่ยว
และแน่นอนว่าหนังสไตล์นี้คงจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชมจากมหาชนคนดูหนังส่วนใหญ่หรอก มันขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละท่านล้วนๆ เลย เอาเป็นว่าถ้าพี่น้องชอบหนังคัลต์เลือดสาด โหดมันส์ฮา เต็มไปด้วยลูกบ้า ไม่สนใจความสมจริงแล้วล่ะก็คงจะถูกใจหนังเรื่องนี้กันแน่ แต่ถ้าเป็นคอหนังทั่วๆ ไปแล้วก็จะพบว่านี่ช่างเป็นหนังเกรดบีที่ห่วยแตกและไร้สาระเสียนี่กระไร (ส่วนเราเห็นว่ามันก็ดูเข้าท่าดีอยู่นะ อิอิ)
หุ่นยนต์ก็ยังมีมาด้วย
- + โหด มันส์ ฮา บ้าบอ ถูกใจคอหนังคัลต์แน่นอน
- - ดูทุนต่ำ ไม่มีดาราดังๆ มาเรียกแขก เลยดูเป็นหนังเกรดบีของคอหนังเฉพาะกลุ่ม ที่หลายคนคงจะมองข้ามไปในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น