Jack Ryan: Shadow Recruit (2014): สายลับหัดลุ้น
Jack Ryan ตัวละครเลื่องชื่อของ Tom Clancy (นักเขียนนิยายแนวสายลับการเมืองการทหารผู้ล่วงลับไปเมื่อเดือน ต.ค.ปีก่อน) ถูกนำมาขึ้นจอเงินมาแล้วหลายครั้งไม่ว่าจะเป็น The Hunt for Red October (1990) ที่นำโดย Alec Baldwin ก่อนที่ลุง Harrison Ford จะมารับช่วงต่ออีกสองภาคใน Patriot Games (1992) และ Clear and Present Danger (1994) ก่อนที่จะทิ้งช่วงไปหลายปีและก็กลับมาเดี้ยงกับการพยายามนำตัวละคร Ryan กลับมารีบู๊ทอีกครั้งเมื่อปี 2002 ใน The Sum of All Fears ที่นำโดยเฮีย Ben Affleck
ล่าสุดตัวละครนี้ก็กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจนได้ ซึ่งคราวนี้ผู้ที่มารับช่วงต่อคือหนุ่ม Chris Pine โดยจะว่ากันที่เรื่องราวตั้งแต่สมัยที่ Jack Ryan ยังเพิ่งเริ่มเป็นซีไอเอหนุ่มไฟแรงแต่ด้อยประสบการณ์ภาคสนามที่ต้องจับพลัดจับผลูมาบู๊แหลกชนิดแทบเอาตัวไม่รอด
ผู้สร้างขอเอาแค่ชื่อ Jack Ryan มาใช้ ไม่ได้หยิบเอานิยายเล่มไหนของ Clancy มาดัดแปลงเยี่ยงเรื่องที่ผ่านๆ มา ดังนั้นจึงสามารถนำตัวละครนี้มาอัพเดตให้ทันยุคทันสมัยอินเทรนด์ได้โดยง่าย ซึ่งตัว ผกก.Kenneth Branagh (จาก Thor ภาคแรก) ที่เมื่อก่อนถนัดแต่ทำหนังเชคสเปียร์ก็สามารถทำให้หนังออกมาได้ดูสนุกมีลุ้นดีทีเดียว (แถมแกยังมาเล่นเป็นตัวโกงอีกด้วยนะ)
ในขณะที่หนุ่ม Pine ที่ตอนแรกดูท่าจะไม่เหมาะกับตัวละครนี้เท่าไหร่ เพราะ Jack Ryan ในภาพจำของคนส่วนใหญ่จะเป็นตัวละครที่สุขุมเน้นบุ๋นมากกว่าบู๊ (แต่ถึงคิวบู๊ก็เอาตัวรอดได้) แต่ในหนังเขาสามารถสอบผ่านได้สบายในบท Ryan ที่เพิ่งออกภาคสนามที่ต้องมีตื่นเวทีมือไม้สั่นลนลานยามเจองานเข้า
ส่วนอีกคนที่โดดเด่นคือลุง Kevin Costner ที่มารับบทสมทบแบบแก่ๆ เท่ๆ ดูทะมัดทะแมงใช้ได้เลยทีเดียว
โฉมหน้า Jack Ryan ทั้งสี่คนสี่รุ่น
เสียแต่ว่าหนังก็ยังคงเป็นหนังแอคชั่นทริลเลอร์สายลับแบบเดิมๆ ที่ไม่มีอะไรพิเศษหรือโดดเด่นมามอบให้ และยังคาดเดาได้ ทว่าโดยรวมแล้วก็ยังถือว่าออกมาดูสนุก มีลุ้นทีเดียว ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้ของ Jack Ryan ก็น่าจะไปได้สวยอยู่นะ (แต่คนดูส่วนใหญ่หรือแฟนดั้งเดิมจะยินดีต้อนรับหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง)อาจจะไม่ใช่ตัวละครสายลับที่เท่แต่มีปมหรือเนี้ยบแต่บู๊ลุยแหลกเท่า Jason Bourne หรือ James Bond แต่หากจะว่าถึงสายลับที่เน้นบุ๋นแต่ไม่ทิ้งบู๊แถมยังมีตัวตนที่เข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ปถุชนทั่วไปที่สุดแล้วล่ะก็ ขอฝากตัวละคร Jack Ryan ไว้ในอ้อมใจของคอหนังด้วยคนนะครับเน้อ
สำหรับเราแล้ว การกลับมาคราวนี้ของ Jack Ryan ดูสนุกดูเพลินไม่เสียเส้น เอาไปโลด 7/10 ครับ ^^
*ช่วงย้อนรอยหนัง Jack Ryan*
The Hunt for Red October (1990)
การเปิดตัว Jack Ryan ครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ที่ได้พระเอก Alec Baldwin ที่ยังไม่ค่อยดังในตอนนั้นมารับบท Ryan ซีไอเอนักวิเคราะห์มาดหล่อเนี้ยบที่ได้ใจคนดูสาวๆ ไปเต็มๆ ในขณะที่หน้าหนังก็ขายปู่ Sean Connery แบบเน้นๆ ซึ่งก็ถือว่านี่คือบทที่น่าจดจำที่สุดในยุคหลังๆ ของแกแล้ว ตัวหนังโดยฝีมือของ ผกก.John McTiernan (แห่ง Die Hard ภาคแรก) ประสบความสำเร็จทั้งเงินทั้งกล่อง (ทำเงินไปกว่า 200 ล้าน) ส่งผลให้อนาคตของ Jack Ryan บนแผ่นฟิล์มดูเจิดจ้ายิ่งนัก
Patriot Games (1992)
อีกสองปีถัดมา Jack Ryan กลับมาอีกครั้งแต่พระเอก Alec Baldwin ดันถอนตัวเพราะไม่ประสงค์จะรับบทนี้อีกต่อไปทำให้พาราเม้าท์ต้องหาพระเอกคนอื่นมาเสียบและผลก็ออกมาที่ป๋า Harrison Ford ที่ก็มาเรียกคนดูได้ดี(แม้จะมีแฟนนิยายหลายคนยี้ก็ตาม) หนังทำเงินไปกว่า 178 ล้าน แม้หนังโดยฝีมือของ ผกก.Phillip Noyce จะไม่เด็ดเท่าภาคแรกก็ตาม
Clear and Present Danger (1994)
ป๋า Harrison Ford ได้กลับมาในบท Jack Ryan อีกครั้งพร้อมด้วย ผกก.Phillip Noyce ซึ่งหนังก็ทำเงินไปเยอะสุดในสามภาคคือ 215 ล้าน แต่คำวิจารณ์ออกมาก้ำกึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราถือว่าสนุกน้อยสุดในสามภาคก็ว่าได้
The Sum of All Fears (2002)
การพยายามปลุกชีพของ Jack Ryan อีกครั้งของพาราเม้าท์ที่คราวนี้เข็นหนุ่ม Ben Affleck ซึ่งกำลังมาแรงในตอนนั้นให้มารับบท Ryan ในเวอร์ชั่นหนุ่มฟ้อ ส่วนตัวหนังในมือของ ผกก.Phil Alden Robinson นั้นก็ออกมาดูสนุกใช้ได้ ทว่าดูเหมือนการที่หนังทำเงินในอเมริกาไปแค่ 118 ล้านจะยังไม่ดีพอสำหรับพาราเม้าท์ และทำให้ชื่อของ Jack Ryan หายไปจากโรงหนังนับตั้งแต่นั้นมาจนภาครีบู๊ทปี 2014 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น