Looper (2012) :
พ่อหนุ่ม Joseph Gordon-Levitt (31 ขวบ) เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเล่นซีรี่ส์เรื่องต่างๆ จนเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นมาจากซีรี่ส์ 3rd Rock from the Sun (1996-2001) แต่แทนที่เขาจะเป็นเหมือนดาราเด็กทั่วๆ ไป ที่พอซีรี่ส์จบหรือพอเริ่มโตหน่อยก็ค่อยๆ เสียผู้เสียคนหรือค่อยๆ หายไปจากสารบบบันเทิง เขากลับสามารถผันตัวเองมาเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามองได้ในหนังอินดี้ระดับคุณภาพอย่าง Mysterious Skin (2004) และ Brick (2005)
พ่อหนุ่ม Joseph Gordon-Levitt (31 ขวบ) เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และเล่นซีรี่ส์เรื่องต่างๆ จนเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นมาจากซีรี่ส์ 3rd Rock from the Sun (1996-2001) แต่แทนที่เขาจะเป็นเหมือนดาราเด็กทั่วๆ ไป ที่พอซีรี่ส์จบหรือพอเริ่มโตหน่อยก็ค่อยๆ เสียผู้เสียคนหรือค่อยๆ หายไปจากสารบบบันเทิง เขากลับสามารถผันตัวเองมาเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีฝีไม้ลายมือน่าจับตามองได้ในหนังอินดี้ระดับคุณภาพอย่าง Mysterious Skin (2004) และ Brick (2005)
พ่อหนุ่ม Joseph ในมาดป๋า Bruce Willis ตอนหนุ่มๆ (?!)
ก่อนจะกลายเป็นขวัญใจคนหนุ่มสาวจากหนังรักสุดจี๊ดอย่าง (500) Days of Summer (2009) และสามารถยกระดับตัวเองมาเล่นหนังทำเงินระดับเทพของ ผกก.Christopher Nolan อย่าง Inception (2010) และ The Dark Knight Rises (2012) ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับอดีตดาราเด็กหน้าจืดๆ คนหนึ่ง และนี่คือผลงานล่าสุดที่เขาขอกลับมาร่วมงานกับ ผกก.Rian Johnson อีกครั้ง หลังจากทั้งคู่เคยกอดคอกันแหววสร้างชื่อมาแล้วจาก Brick นั่นเอง
ป๋า Bruce Willis ในมาด Joseph Gordon-Levitt ตอนแก่ (?!)
ครั่บ คงต้องบอกว่าการกลับมาแท็คทีมกันครั้งนี้ของทั้งคู่ โดยมีป๋า Bruce Willis มาร่วมแจมอีกคนนั้นมีผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ด้วยเรื่องราวที่จับเอาหนังแนวแก๊งสเตอร์ยิงแหลก หนังแนวไซไฟย้อนเวลา หนังแนวพลังจิต หนังแนวดราม่า มาปรุงรสยำคลุกได้อย่างอร่อยเหาะไปเลยโลด จนสามารถเรียกได้ว่านี่คือหนังแอ็คชั่นไซไฟน้ำดีไอเดียสุดสร้างสรรค์อีกเรื่องในรอบหลายๆ ปีมานี้เลยก็ว่าได้
ใครมาจีบเธอมีสิทธิ์โดนสอยร่วง
ใครมาจีบเธอมีสิทธิ์โดนสอยร่วง
ที่น่าจะเป็นจุดขายสุดๆ อย่างหนึ่งของหนังคือการจับหนุ่ม Joseph มารับบทป๋า Bruce Willis ในช่วงหนุ่มๆ ซึ่งด้วยการเมคอัพระดับเซียนและการแสดงสีหน้าท่าทางที่เลียนแบบป๋า Willis ได้เหมือนสุดๆ ของหนุ่ม Joseph นั้นทำให้หนังออกมาดูเพลินจริงๆ ส่วนป๋า Willis เองก็ใช่ย่อยที่พกเอาความเก๋ามาประชันบทบาทได้อย่างไม่มีใครกินแกลง หาดูอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆ ซะที่ไหนล่ะ ส่วนบทอันสร้างสรรค์ของหนังก็เกินคาดเดาและไม่ซ้ำซากชวนยี้เลยสักนิด
ดูปืนกระบอกโตของพระเอกเราซะก่อน
แต่เพราะไม่อยากซ้ำซากนั่นเองที่ทำให้หนังหลีกเลี่ยงการเป็นหนังแอ็คชั่นไซไฟดาดๆ ที่มุ่งบู๊แหลกกันอย่างเดียว หากแต่ใส่เรื่องราวดราม่าทางอารมณ์เข้ามาจนทำให้ช่วงกลางของหนังดูนิ่งๆ อืดๆ ลงไปแยะเลยทีเดียว ซึ่งนั่นอาจทำให้คอหนังที่หวังจะเห็นอะไรมันส์ๆ ต้องนั่งกระสับกระส่ายบิดตูดไปมาได้เหมือนกัน เพราะหนังไม่ค่อยได้อัดฉากแอ็คชั่นเข้ามาเยอะอะไรมากมายหรอกเน้อ
ป๋า Willis กำลังนั่งจ้องหน้าตัวเองตอนหนุ่มๆ (?!)
จริงๆ แล้วหนังมีเสน่ห์และรายละเอียดอะไรยิบๆ ย่อยๆ เยอะแยะ อย่างเช่นโลกอนาคตที่ออกมาเสื่อมแต่ไม่แตกต่างกว่าปัจจุบันไปชนิดหน้ามือกับหลังเท้า (ตีน) หรือการที่ให้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลก (ทุกประเทศใช้เงินสกุลของจีน) หรือแม้แต่แง่คิดในเรื่องชีวิตของคนเรา ที่เชื่อว่าหากท่านเป็นคนที่ชอบดูหนังที่เกี่ยวกับโลกอนาคตหรือชอบดูหนังเอาสาระแล้วล่ะก็ เรื่องนี้มีอะไรๆ ให้ท่านเยอะแน่นอน
สีหน้าท่าทางแกเรื่องนี้เหมือนป๋า Willis ซะ
แม้จะไม่ถึงกับเจ๋งสุดตีน มันส์สุดเท้า แต่ก็ไม่ใช่ธรรมดาๆ แน่นอน หนังเรื่องนี้คงสามารถสร้างมาตรฐานอันดีงามให้แก่หนังไซไฟที่จะตามมาอีกแน่นอน และสร้างเครดิตอันสวยสดงดงามให้แก่ ผกก.Rian Johnson รวมถึงหนุ่ม Levitt อีกเรื่อง ทีนี้เราจะได้รู้เสียทีว่าที่เขาประสบความสำเร็จมาได้จนทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะหน้าตาท่าทางฝีไม้ลายมือที่โดนใจทั้งแฟนหนังหญิง-ชายเท่านั้น แต่เป็นเพราะการรู้จักเลือกเล่นหนังของเขาอีกด้วย นายแน่มากจ้า!
- + หนังไซไฟไอเดียเด็ด การประชันบทบาทของสองหนุ่มสองวัยประจำเรื่องก็แจ่มไม่ใช่เล่น
- - ไม่แอ็คชั่นเยอะมากมายอย่างที่เทรลเลอร์ชวนให้คิด และช่วงกลางเรื่องอืดไปหน่อย คือเจ๋งแต่ไม่ถึงกับสุดยอดว่างั้นเหอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น