หนังที่สร้างจากวีดีโอเกมมีน้อยเรื่องนักที่จะไปได้สวยประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และ (โดยเฉพาะ) คำวิจารณ์ ซึ่งในรายของ Silent Hill (2006) (กับชื่อไทยว่า "เมืองห่าผี" ที่ใช้ฟ้อนท์ซึ่งมองเผินๆ แล้วไม้เอกเหมือนสระอำชอบกล อิอิ) ที่สร้างมาจากเกมสุดหลอนของโคนามินั้น แม้จะไม่ทำเงินมากมายยามออกฉาย แต่ตัวเลขก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แถมยังทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่เสียของให้แฟนเกมหรือคอหนังขาจรต้องยี้แต่อย่างใด
คู่พระคู่นางประจำเรื่อง
และหลังจากทิ้งช่วงไปนานหลายปีดีดัก ในที่สุดผู้สร้างก็เข็นภาคต่อออกมาสำเร็จ แถมยังมาในแบบ 3D ตามเทรนด์อีกด้วย โดยตัวหนังดัดแปลงเรื่องราวมาจากเกมภาคสาม อันว่าด้วยการผจญภัยสุดหลอนของหนู Heather Mason (Adelaide Clemens) หนูน้อยจากภาคแรกที่ได้โตเป็นสาววัย 18 ขวบแล้ว ซึ่งเมื่อจู่ๆ คุณพ่อสุดที่เลิฟ (รับบทโดย Sean Bean) ของเธอดันหายตัวไปอย่างลึกลับ เธอจึงต้องพยายามออกตามหา แม้นั่นจะทำให้เธอต้องกลับไปเผชิญกับฝันร้ายที่กลายเป็นจริงในเมือง Silent Hill อีกครั้งหนึ่งก็ตามที
ไอ้หัวปิรามิดขวัญใจแฟนๆ กลับมาอีกครั้งแล้ว
ภาคนี้หนังได้ Michael J. Bassett ผกก.หนุ่มชาวอังกฤษซึ่งเคยมีผลงานอย่าง Solomon Kane (2009) มาควบหน้าที่กำกับ/เขียนบท ซึ่งก็ดูเหมือนเขาจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะสามารถดึงเอาบรรยากาศหลอนและเหล่าตัวประหลาดซึ่งเป็นทีเด็ดของเกมมาใช้ในหนังได้อย่างครบถ้วน งานด้านเอฟเฟกต์โหดและดนตรีประกอบหลอนที่แฟนเกมน่าจะคุ้นเคยกันดี ส่วนการที่หนังเป็น 3D ก็เปิดโอกาสให้หนังเล่นกับฉากแทงทะลุจอออกมาได้บ่อยครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนสามารถช่วยกันสร้างบรรยากาศฝันร้ายความยาว ชม.ครึ่งของหนังได้อย่างน่าพอใจ
นางเอกเราหน้าเหมือน Michelle Williams ดีจริง
แต่เสียดายที่จังหวะชวนสะดุ้งของ ผกก.แกยังไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ (เรื่องจังหวะแม่นเนี่ยต้องยกให้ ผกก.Sam Raimi เขาล่ะ) หนังเลยดูข้างๆ อืดๆ เอื่อยๆ ไปหน่อยในช่วงครึ่งแรก แถมจะยังดูงงๆ สำหรับขาจรที่เพิ่งรู้จักหนังเรื่องนี้อีกด้วย และถ้าจะว่ากันถึงความหลอนเนี่ย ภาคแรกยังทำได้ดีกว่าประมาณหนึ่งช่วงเสาไฟฟ้า เพราะกว่าจะเริ่มระทึกกันก็ช่วงท้ายๆ ของหนังแล้ว ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นโดยรวมๆ ก็ยังถือว่านี่เป็นหนังภาคต่อจากเกมที่ทำออกมาได้หลอนน่าพอใจอยู่ดีแหล่ะนะ
เจ๊ Carrie-Anne Moss จากหนัง The Matrix ยังมีชีวิตอยู่นะจ้ะ
แก๊งผีนางพยาบาลจอมสับ
เจ๊ Carrie-Anne Moss จากหนัง The Matrix ยังมีชีวิตอยู่นะจ้ะ
นี่เห็นว่าหนังใช้ทุนสร้างแค่ 20 ล้านเหรียญเท่านั้น โอกาสที่หนังจะทำเงินก็เลยมีค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง เราก็คงจะได้ดู Silent Hill ภาคต่อๆ ไปในเร็วๆ นี้กันอีกแน่ โดยทั้งนี้ไม่ต้องกลัวว่าผู้สร้างเขาจะหมดมุกมาหากินเพราะตัวเกมต้นฉบับเขามีออกมาให้เอาไอเดียมาใช้ตั้งหลายภาคแล้วนะจ้ะ ขอบอก
แก๊งผีนางพยาบาลจอมสับ
- + หนังภาคต่อจากเกมที่ทำออกมาได้ไม่เสียของ หลอนไม่ซ้ำซาก เข้าท่าๆ
- - ช่วงแรกของหนังเอื่อยๆ และหากเทียบกับภาคแรก ถือว่ายังด้อยกว่าอยู่นิดนะ