เชื่อว่าตอนข่าวออกมาใหม่ๆ ว่าจะมีการรีบู๊ตหนังชุด Spider-Man นั้น หลายคนคงจะคิดว่า "อะไรแว๊? นี่เพิ่งจะทิ้งช่วงจากภาคสามไปแค่สี่-ห้าปีเอง รีบู๊ตใหม่ซะแล้ว?!" ซึ่งสาเหตุนั้นมันมาจากการที่โซนี่ตกลงเรื่องบทของภาคสี่กับ ผกก.Sam Raimi ไม่ลงตัว ผกก.แกก็เลยขอวอล์คเอ้าท์ (รวมทั้งพระเอก Tobey Maguire ด้วย) แต่แทนที่จะทู่ซี้เข็นภาคสี่ออกมาต่อ โซนี่ก็เลยขอยกเครื่องใหม่รีบู๊ตมันซะเลยให้รู้แล้วรู้แร่ดไป
สไปเดอร์แมนคนใหม่มาแล้วจ้า
แต่แฟนหนังชุดเก่าก็อย่าเพิ่งทำหน้ายี้ไปเพราะโซนี่ฉลาดพอที่จะวางทีมงานชุดใหม่ได้ออกมาหน้าตาโหงวเฮ้งดูดีมีชาติการ์ตูนใช่เล่น ทั้งสองนักแสดงหนุ่มสาวที่กำลังดังขึ้นหม้อในขณะนี้อย่าง Andrew Garfield และ Emma Stone รวมทั้ง ผกก.Marc Webb ที่เคยทำหนังสุดจี๊ดขวัญใจคนหนุ่มสาวอย่าง (500) Days of Summer (2009) ซึ่งเท่านี้ก็พอจะทำให้คอหนังรู้สึกดีล่วงหน้าเกี่ยวกับตัวหนังได้แล้วระดับหนึ่งว่าคงจะไม่ออกมาเล่นง่ายหากินแบบตีหัวเข้าบ้านแน่ๆ
นางเอกเราได้ใจหนุ่มๆ ไปเต็มๆ
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหนังเวอร์ชั่นรีบู๊ตนี้ออกมาถึงคุณภาพไม่น้อยหน้าเวอร์ชั่นเดิมเลย ทั้งยังจะโดดเด่นกว่าตรงส่วนของฉากดราม่าหรือเรื่องราวความรักระหว่างสองพระนางซึ่งนักแสดงทั้งคู่ก็ล้วนสามารถพาเสน่ห์ของตนมามัดใจคนดูได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะพ่อหนุ่ม Garfield ที่สอบผ่านในบท Peter Parker/Spider-Man ได้อย่างสบาย ส่วนงานด้านต่างๆ ก็อยู่ในระดับดีหนึ่งประเภทหนึ่งตามมาตรฐานอันดีงามของฮอลลีวู้ดเขาอยู่แล้ว
สน.ไหนบังอาจจับสไปดี้
แต่ก็คงจะหลีกเลี่ยงการถูกนำเอาไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเดิมไม่ได้อยู่แล้ว (ก็มันเพิ่งจะไม่กี่ปีมานี่เองนี่เนอะ) ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้เรื่องราวส่วนใหญ่ยังอิงจากของเดิม (แน่สิเพราะมีหนังสือการ์ตูนเขาเป็นต้นแบบอยู่แล้ว) และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางอย่าง เช่นเปลี่ยนพระเอกเราจากเด็กเนิร์ดโลกเมิน กลายเป็นหนุ่มคนนอกที่ไม่มีใครอยากสุงสิงด้วยแทน หรือการเปลี่ยนนางเอกเป็น Gwen Stacy และที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือเวอร์ชั่นนี้หย่อนฉากมันส์ๆ หรืออะไรฮาๆ อย่างที่เวอร์ชั่นของ ผกก.Raimi มีมาให้ตลอด จึงเรียกได้ว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ทำได้ดี แต่ดันไม่ค่อยมันส์ว่างั้นเถอะ (ฉากบู๊ช่วงท้ายก็ยังดูเข้าท่าอยู่นะ)
ภาคนี้สไปดี้ต้องใช้เครื่องยิงไยแมงมุม
อีกอย่างที่น่าจะเป็นจุดอ่อนของเวอร์ชั่นนี้คือ ทุกวันนี้ชาวประชาเขาไม่ค่อยจะตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจไปกับภาพของ Spider-Man ที่โลดแล่นโหนไปโหนมาบนจอเท่าในอดีตแล้ว พอมาเจอหนังเล่าเรื่องซ้ำแบบนี้อีกก็ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ กระแสของหนังก็เลยอาจดร็อปลงไปเยอะ บวกกับหนังภาคนี้เน้นฉากดราม่าซะเป็นส่วนใหญ่ก็เลยให้อารมณ์เหมือนรักหนังวัยรุ่นที่บังเอิญเป็น Spider-Man ซะมากกว่าที่จะเป็นหนัง Spider-Man ที่เราคุ้นเคยกันไปซะงั้น
เจอพ่อตาเป็นตำรวจก็ต้องทำใจ
สรุปแล้วเวอร์ชั่นรีบู๊ตนี้คงเป็นที่ถูกอกถูกใจกลุ่มคนดูที่เป็นวัยรุ่นหรือที่โตๆ หน่อย แต่สำหรับคนดูทั่วๆ ไปที่กะดูเอามันส์นั้นหนังคงจะตอบสนองความมันส์ได้ไม่เท่าไหร่นัก (โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ของหนังที่อาจทำเอาหลับ) ยังไงก็หวังว่าหนังจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จะได้รอดูว่าภาคต่อไปที่ไม่ต้องเสียเวลาปูพื้นตัวละครจะออกมาสนุกสักแค่ไหน สู้ต่อไปนะไอ้แมงมุม! ^^
- + เวอร์ชั่นรีบู๊ตที่ทำออกมาได้เข้าท่าถึงคุณภาพ โดดเด่นตรงเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว และฉากดราม่า น่าพอใจหลายๆ
- - แต่ถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับของเก่าจะพบว่าสนุกน้อยกว่า เด็กๆ ดูแล้วอาจไม่ปลื้มเท่าไหร่นัก