ดูเหมือนว่าสองสามปีให้หลังมานี้เฮีย Adrien Brody จะขยันหมั่นเพียรเล่นหนังออกมาปีละสามเรื่องรวด ทั้งหนังเล็กๆ เน้นคุณภาพเอาใจคอหนังหรือหนังใหญ่ๆ เน้นขายตั๋วเอาใจตลาด เฮียแกก็กวาดเรียบวุธ นัยว่าต้องรีบสร้างชื่อเสียงต่อเวลาความดังและกอบโกยเงินทองก่อนที่โปรฯความดังของตนจะหมดลงไปตามกาลเวลาซะก่อนว่างั้นเถอะ
พระเอกเราน่วมตั้งแต่ฉากแรกเลยเชียว
ส่วนหนังเรื่องแรกของเฮียในปี 2011 นี้ก็คงจะเข้าข่ายหนังทริลเลอร์เล็กๆ ขายไอเดียและการแสดง ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนกำลังติดแหง่กอยู่ในรถที่ประสบอุบัติเหตุกลางป่าเขาลำเนาไพร พร้อมด้วยศพใครก็ไม่รู้ที่เบาะหลัง ซึ่งเขาก็ดันเอ๋อกินจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อของตน ไอ้ครั้นจะนั่งรอให้มีคนผ่านมาจ๊ะเอ๋ช่วยทีก็ไม่มีเลยแม้แต่เงา เขาจึงต้องหาทางเอาตัวรอดจากป่าแห่งนี้และยังต้องพยายามหาต้นสายปลายเหตุว่าทำไมอันตูข้าถึงได้มาอยู่ในรถพังยับคันนี้ได้ล่ะเนี่ย? อีกด้วยแล
เฮียแกวาดลวดลายชนิดวันแมนโชว์ก็ว่าได้
ผลงานเรื่องแรกของ ผกก.Michael Greenspan เรื่องนี้มีส่วนผสมระหว่างหนังแนวเอาชีวิตรอดท่ามกลางธรรมชาติและหนังแนวอาชญากรรมชวนหลอน ซึ่งตัวหนังก็เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจทีเดียว แต่ยิ่งเวลาผ่านไป คนดูก็จะพบว่าหนังไม่มีอะไรที่เกินคาดเดา จุดหักเหและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ธรรมดาเกินไปอย่างน่าเสียดาย
รอดตายก็ใช่ว่าจะรอดตายเสมอไป?
นี่ยังดีที่เฮีย Brody ยังทุ่มเทให้กับบทบาทชนิดไม่เสียเชิงชายนักแสดงระดับออสก้าร์ ซึ่งเฮียเขาก็จัดเต็มวันแมนโชว์ เล่นฉากตกระกำลำบาก สติแตก กินไส้เดือน แมงกุ๊ดจี่ ตกน้ำป๋อมแป๋ม คลานกระดึ๊บๆ ไปตามป่าเขาแทบจะทั้งเรื่องด้วยตนเองแบบไม่ต้องใช้สลิง ไม่ต้องใช้สแตนอินด์แต่ประการใด เลยพอจะทำให้หนังดูดีขึ้นมาได้เยอะทีเดียว ผลสุดท้ายถึงแม้หนังจะมีเรื่องราวธรรมดาไปนิดแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรหรอก ใครชอบดูหนังแนวเอาตัวรอดท่ามกลางพงไพร หรือเป็นแฟนหนังของเฮียแกก็ดูเอาเถิดจ้า
- + เป็นหนังแนวทริลเลอร์เอาชีวิตรอดเล็กๆ ที่ดูได้ดูดี การแสดงของเฮีย Brody ยังวางใจได้เช่นเดิม
- - เรื่องราวโดยรวมยังธรรมดาไป และไม่มีอะไรเหนือความคาดเดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น